โลก ยุคที่การค้าสินค้าเกษตร จะต้องปลอดภัยกับมนุษย์และสิ่งแวดล้อม จำเป็นอย่างยิ่งที่เกษตรกร ผู้อยู่ในกระบวนการผลิต ‘ต้นน้ำ’ ต้องหมั่นหาความรู้ เพื่อพัฒนาผลผลิตให้ทันกับสิ่งที่โลกต้องการ แน่นอนว่า บทบาทของเทคโนโลยีจะเป็นตัวช่วยภาคเกษตรหลายด้าน รัฐเองพยายามส่งเสริมสนับสนุน ตั้งแต่ผลงานวิจัยและพัฒนา กระทั่งถึงดาวเทียม THEOS ที่มีส่วนช่วยภาคเกษตรและประเทศไทยเป็นอย่างมาก
เวทีสัมมนา ‘เกษตรก้าวหน้า 2566’ ซึ่งจัดโดย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เป็น 1 ในตัวช่วยพัฒนาทักษะให้ทั้งเกษตรกร ผู้ประกอบการ และประชาชนทั่วไป เพื่อสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วได้อย่างทันท่วงที โดยให้ข้อมูลที่ชี้ถึง ทิศทางเกษตรไทยในยุคดิจิตอล การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เทคโนโลยีอวกาศ (THEOS2) แจ้งเตือนภัยสภาพอากาศ ภัยแล้งน้ำแล้ง รวมถึงกฎระเบียบการค้าโลกที่เข้มข้นขึ้น และพฤติกรรมความต้องการผู้บริโภคในอนาคต โดยมีนักวิชาการในสาขาที่เกี่ยวข้องร่วมให้ข้อมูลอย่างครบถ้วน เพื่อให้เกษตรกรรู้เท่าทันกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาก็ถือได้ว่า เกษตรกรจำนวนหนึ่งได้ปรับตัวเรียบร้อยแล้ว ดังเช่นเกษตรกรดีเด่น ที่ธนาคารกรุงเทพ มอบ 3 รางวัล ในฐานะตัวจริงของ ‘เกษตรก้าวหน้า 2566’ โดยทั้ง 3 รางวัล ได้แก่
รางวัลเกษตรกรผู้ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลดีเด่น ผู้รับรางวัล คือ นายสุวิทย์ ไตรโชค บริษัท นาวิต้าฟาร์ม จำกัด อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าของฟาร์มเมล่อน ผู้ซึ่งเป็นวิศวกร ปรับใช้นวัตกรรมเทคโนโลยี IOT ควบคุมการผลิต โดยพัฒนาเทคนิควิธีการปลูกเมล่อนสายพันธุ์ญี่ปุ่น จนกลายเป็นสินค้าพรีเมียม ส่งขายทั้งในและต่างประเทศตลอดปีแบบ ‘ไร้โรงเรือน’

รางวัลผู้บริหารซัพพลายทางการเกษตรดีเด่น ผู้รับรางวัล คือ นายสุนทร ศรีทวี บริษัท บลู ริเวอร์ โปรดักส์ จำกัด อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผักและผลไม้สด เพื่อการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ วางโครงสร้างการจัดการห่วงโซ่การผลิตทางการเกษตร (Supply Chain) ไว้เป็นระบบอย่างเข้มแข็ง สามารถพัฒนาควบคุมคุณภาพได้ตั้งแต่ต้นทางการปลูกไปจนถึงส่งออก เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตของเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

รางวัลเกษตรรุ่นใหม่ดีเด่น ได้แก่ นายฐิติพงษ์ จงหมายลักษณ์ บริษัท เชียงใหม่ เฟรช โปรดักส์ จำกัด อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เกษตรกรรุ่นใหม่และทายาทธุรกิจรุ่น 2 ของสวนส้มจงลักษณ์ ต่อยอดธุรกิจครอบครัวพัฒนาคุณภาพผลผลิต ลดต้นทุนการจัดการในแปลงด้วยเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ข้อมูล และพัฒนาช่องทางตลาดสมัยใหม่ ตอบสนองความต้องการสินค้าทั่วประเทศ

นายสุวิทย์ ไตรโชค กรรมการผู้จัดการ บริษัท นาวิต้าฟาร์ม จำกัด อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และผู้ก่อตั้งบริษัทสตาร์ทอัพ ‘ฟาร์มคอนเน็ค เอเชีย’ ในฐานะตัวแทนผู้ได้รับรางวัล เกษตรก้าวหน้า ประจำปี 2566 กล่าวว่า ตนมีความสนใจที่จะนำนวัตกรรมเข้ามาช่วยในการปลูกเมล่อน ตั้งแต่เมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา เพราะเคยได้ดูงานในประเทศอิสราเอล แต่ขณะนั้นเทคโนโลยีในไทยยังไม่สามารถทำได้สมบูรณ์
กระทั่งในปัจจุบันได้ร่วมมือกับ สำนักงานเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPPA) และ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และการสนับสนุนเงินทุนและอบรมเสริมความรู้จากธนาคารกรุงเทพ จนสามารถพัฒนา ‘ตู้คอนโทรลอัจฉริยะ’ ได้สำเร็จ โดยสามารถวัดความชื้น อุณหภูมิ และธาตุอาหารในดินได้อย่างครบถ้วน และแสดงผลเรียลไทม์ผ่านมือถือ รวมทั้งยังสั่งรดน้ำ หรือใส่ปุ๋ย ได้ผ่านมือถือในปริมาณที่เหมาะสมกับความต้องการของพืชได้ภายในระบบเดียว จากการทดลองใช้มากว่า 4 ปี พบว่า ปริมาณผลผลิตเพิ่มมากขึ้นและมีผลเมล่อนคุณภาพเกรดเอ ในสัดส่วนสูงถึง 90% อย่างสม่ำเสมอจึงทำให้ขายได้ราคา เป็นที่ต้องการของตลาด
“เกษตรกรไทยหลายคนเริ่มสนใจการนำนวัตกรรมเข้ามาปรับใช้ แต่ยังมีน้อยเมื่อเทียบกับจำนวนเกษตรกรทั้งหมดในระบบ และส่วนใหญ่อาจจะยังไม่เข้าใจและนำไปใช้ไม่ถูกต้อง สิ่งสำคัญคือภาครัฐจะต้องมาสนับสนุนส่งเสริมองค์ความรู้ เพื่อให้เกษตรกรก้าวข้ามการทำเกษตรกรแบบเดิมไป สู่การทำเกษตรแบบดิจิทัลเพราะตอนนี้สินค้าเกษตรไทยต้องเอาคุณภาพเข้าสู้ เจาะกลุ่มตลาดลูกค้าพรีเมียมที่ได้ราคาสูง หากไม่ปรับตัวก็จะไม่สามารถแข่งขันกับสินค้าเกษตรจากต่างประเทศที่ต้นทุนต่ำกว่าได้ เราจึงอยากเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนให้ทั้งภาครัฐและเกษตรกรไทยได้เห็นถึงความสำคัญในจุดนี้”
นายสุวิทย์ กล่าว
ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ กรรมการ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เผย ธนาคารฯ มุ่งมั่นเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาและยกระดับภาคการเกษตรของไทย โดยในยุคแรก ธนาคารมุ่งส่งเสริมองค์ความรู้โดยความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดความเสี่ยงในด้านต่างๆ ของเกษตรกร รวมทั้งเพิ่มคุณภาพผลผลิตให้ดีมากยิ่งขึ้น

ยุคที่ 2 สนับสนุนการสร้างเครือข่าย ใน 2 ส่วนหลัก คือ เครือข่ายด้านการตลาด และ เครือข่ายด้านการผลิต โดยธนาคารยังทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการ Matching Business ระหว่างผู้ผลิตและผู้ส่งออก ทั้งในรูปแบบของการจัดนิทรรศการผลงาน และเปิดโอกาสให้เกษตรก้าวหน้า นำผลผลิตมาจำหน่ายถึงมือผู้บริโภคโดยตรง ในงาน ‘วันเกษตรก้าวหน้า’ ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีด้วย
และปัจจุบัน อยู่ในยุคที่ 3 ธนาคารยังคงมุ่งมั่นในการผลักดันให้เกษตรกรไทย ก้าวสู่การเป็น Smart Farming หรือ การทำเกษตรแนวใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย เพื่อเพิ่มคุณภาพ ปริมาณของผลิตผลทางการเกษตร และยังช่วยลดต้นทุนในระยะยาว ขณะเดียวกันยังเป็นการเสริมศักยภาพการแข่งขันของสินค้าเกษตรไทยสู่ตลาดโลกอีกด้วย
“ประเทศไทยเป็นประเทศกสิกรรม มีเกษตรกรกว่า 7.7 ล้านครัวเรือน เป็นพื้นฐานรายได้ที่สำคัญของไทย ดังนั้นภาคเกษตรไทยจำเป็นต้องเข้มแข็งและมีความยั่งยืน โดยตลอด 24 ปีที่ผ่านมาธนาคารกรุงเทพได้เล็งเห็นความสำคัญของภาคการเกษตร ไม่เพียงแต่บริการทางการเงิน แต่เรายังต้องการสนับสนุนให้ภาคเกษตรมีการปรับตัว และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งปัจจุบันถือเป็นยุคที่ 3 หรือ ยุคของนวัตกรรม กระบวนการที่จะพัฒนาต่อไปขึ้นอยู่กับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีค่อนข้างมาก ธนาคารกรุงเทพ ยังคงเดินหน้าสร้างความเข้มแข็งให้ภาคการเกษตรอย่างต่อเนื่อง และต้องอาศัยความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อร่วมยกระดับเกษตรกรไทยให้เป็น Smart Farming ก็ดี Precision Farming ก็ดี ตลอดจนถึงเรื่องของการใช้ผลผลิตทางการเกษตรอย่างครบวงจร (Zero Waste) ที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นต้น”
นายพิเชฐ กล่าว
งานนี้ จัดขึ้นเมื่อ ศุกร์ที่ 22 ธันวาคม 2566 ณ ลานด้านหน้าธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ ถนนสีลม ท่ามกลางผู้สนใจร่วมงานล้นหลาม
