ในสังคมปัจจุบัน ปัญหาสายตาเป็นเรื่องที่พบได้บ่อย เนื่องจากการใช้งานสายตาอย่างหนัก โดยเฉพาะกับอุปกรณ์ดิจิทัล เช่น สมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ นักทัศนมาตรจึงเป็นบุคลากรสำคัญที่ช่วยดูแลและป้องกันปัญหาสายตา เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ และแว่นท็อปเจริญ จึงผนึกกำลังร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ จัดตั้ง ‘วิทยาลัยทัศนมาตรศาสตร์@ท็อปเจริญ’ โดย มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ตั้งเป้าผลิตนักทัศนมาตรหรือหมอสายตาที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านสายตาและระบบการมองเห็น ในสาขาวิชาทัศนมาตรศาสตรบัณฑิต (Doctor of Optometry, O.D.) หลักสูตร 6 ปี หวังสร้างโอกาสให้เด็กไทยมีทางเลือกเรียนเป็นหมอสายตาและมีอาชีพที่มั่นคง และเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการดูแลสุขภาพดวงตาได้ง่ายขึ้น จากการเพิ่มจำนวนของนักทัศนมาตรให้ครอบคลุมสาขาของแว่นท็อปเจริญกว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศ
นายนพศักดิ์ ตรีพรชัยศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แว่นท็อปเจริญ - บริษัท ร่วมเจริญพัฒนา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันผู้คนหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพสายตาเพิ่มมากขึ้น ห้างแว่นท็อปเจริญ ที่ซึ่งขาดแคลนนักทัศนมาตร และมีเป้าหมายต้องการพัฒนาการดูแลสายตาคนไทยให้ดีมีคุณภาพ จึงมุ่งมั่นที่จะผลักดันการเกิดขึ้นของนักทัศนมาตร โดยร่วมมือกับมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ในการจัดตั้ง “วิทยาลัยทัศนมาตรศาสตร์@ท็อปเจริญ โดย มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์” ขึ้น
“ปัจจุบันแว่นท็อปเจริญเรามีนักทัศนมาตรจำนวนมากประจำอยู่หลากหลายสาขาแล้ว แต่ยังต้องการให้มีนักทัศนมาตรประจำครบทุกสาขากว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศ จึงเป็นที่มาของความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ในการจัดตั้ง “วิทยาลัยทัศนมาตรศาสตร์@ท็อปเจริญ โดย มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์”

นักทัศนมาตร ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในอาชีพที่มีบทบาทสำคัญต่อประชาชนในสังคมไทย และระบบสาธารณสุขของไทยในระดับปฐมภูมิ และยังเป็นด่านแรกในการดูแลสุขภาพดวงตาและคัดกรองปัญหาสายตาเบื้องต้นที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย ตลอดจนยังช่วยป้องกันและรักษาก่อนที่จะเกิดอาการรุนแรงหรือลุกลามได้
“การจัดตั้งวิทยาลัยทัศนมาตรศาสตร์@ท็อปเจริญฯ แห่งนี้ นอกจากจะเป็นการส่งเสริมให้ระบบการศึกษาวิชาชีพเฉพาะด้านสายตาได้ถูกพัฒนาต่อไปอีกขั้นทั้งในไทยและอาเซียนแล้ว ยังมีส่วนสำคัญในการเพิ่มโอกาสให้เด็กไทยมีทางเลือกเรียนเป็นหมอสายตาและมีอาชีพที่มั่นคง สามารถต่อยอดในเส้นทางอาชีพที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการตรวจวัดสายตาประจำสถานพยาบาล การศึกษาวิจัยร่วมกับหน่วยงานรัฐหรือเอกชน การคัดกรองสุขภาพสายตาเบื้องต้นที่ร้านแว่นตา หรือการเข้าทำงานกับบริษัทผลิตเลนส์สายตา คอนแทคเลนส์ และบริษัทเครื่องมือแพทย์ รวมทั้งยังสามารถต่อยอดองค์ความรู้สู่ผู้เชี่ยวชาญหรืออาจารย์ในสถาบันการศึกษาได้”
นายนพศักดิ์ กล่าว

ด้าน ดร.ดาริกา ลัทธพิพัฒน์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) กล่าวว่า มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ ‘แว่นท็อปเจริญ’ ในการจัดตั้ง ‘วิทยาลัยทัศนมาตรศาสตร์@ท็อปเจริญ โดย มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์’ ขึ้น เพื่อพัฒนาหลักสูตรทัศนมาตรศาสตรบัณฑิต ภายใต้การผสานความร่วมมือกัน ระหว่างความแข็งแกร่งด้านการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนที่ทันสมัยของ DPU ผนวกกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีการดูแลสุขภาพสายตาที่เชี่ยวชาญของแว่นท็อปเจริญ เพื่อผลิตบัณฑิตสาขาวิชาทัศนมาตรศาสตร์ ที่มีองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพเฉพาะทางสายตาและระบบการมองเห็น ตลอดจนมีความเชี่ยวชาญในการตรวจวัดวินิจฉัยสายตาและโรคทางตา เพื่อร่วมขับเคลื่อนระบบการศึกษาวิชาชีพเฉพาะทางระดับมหาวิทยาลัย ให้พร้อมรับมือกับความท้าทายในการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยอย่างยั่งยืน

“โดยมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์จะเป็นผู้รับผิดชอบในการบริหารจัดการหลักสูตรอย่างครอบคลุม ตั้งแต่การคัดเลือกนักศึกษา การจัดสถานที่การเรียนการสอนอันทันสมัย ตลอดจนการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา โดยเป้าหมายของเราไม่ใช่เพียงการสร้างบัณฑิตที่มีคุณภาพเท่านั้น แต่ยังต้องการเป็นแหล่งบ่มเพาะความรู้ความสามารถ การสร้างสรรค์งานวิจัยและนวัตกรรมต่างๆ ที่ช่วยตอบโจทย์ความต้องการของสังคมในระยะยาว และตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงานวิชาชีพที่มีดีมานด์สูงในปัจจุบัน”
ดร.ดาริกา กล่าว
ทั้งนี้ หากพูดถึงวิชาชีพ ‘ทัศนมาตรศาสตร์’ (Optometrist) ถือได้ว่าเป็นหมอทางด้านสายตาที่เมื่อสำเร็จการศึกษาครบหลักสูตรแล้ว สามารถขอใบประกอบวิชาชีพ “หนังสืออนุญาตให้ทำการประกอบโรคศิลปะโดยอาศัยทัศนมาตรศาสตร์” จากกระทรวงสาธารณสุขได้ โดยสามารถใช้ทักษะความรู้ความสามารถในการดูแลรักษาคนไข้ได้เทียบเท่าแพทย์ทั่วไป แต่มีความชำนาญเฉพาะทางด้านสายตาระบบการมองเห็น และความผิดปกติของกล้ามเนื้อดวงตา (ที่ไม่ใช่การผ่าตัดดวงตา) ซึ่งถือได้ว่าเป็นหนึ่งในอาชีพที่มีบทบาทสำคัญต่อประชาชนในสังคมไทย และระบบสาธารณสุขของไทยในระดับปฐมภูมิ และยังเป็นด่านแรกในการดูแลสุขภาพดวงตาและคัดกรองปัญหาสายตาเบื้องต้นที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย ตลอดจนยังช่วยป้องกันและรักษาก่อนที่จะเกิดอาการรุนแรงหรือลุกลามได้
