สงกรานต์ 2567 ที่พัทลุง ถือเป็นเทศกาลสำคัญของ โรงแรม ดุสิตปริ๊นเซส พัทลุง อีกครั้ง หลังเพิ่งเปิดให้เข้าพักเมื่อปลายปี 2566 รับลูกค้าในเทศกาลปีใหม่ 2567 แม้จะขณะนั้นจะถูกเต็มทุกห้อง แต่จะยังชี้ชัดกลุ่มลูกค้าไม่ได้ เหตุจากส่วนใหญ่เป็นเพื่อนบ้านที่มาเยี่ยมเยือน มาชิมลางพักค้างบ้านใกล้เรือนเคียง ในฐานะเพื่อนบ้านที่มีโรงแรม 4 ดาว เข้ามาเปิดใหม่ แต่ล่าสุด สงกรานต์ 2567 สัญญาณดีขึ้นมาก จึงคาดการณ์แนวโน้มขยายกลุ่มมากขึ้น
ชนิสา บุญสุวรรณ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมดุสิต ปริ๊นเซส พัทลุง เผย กลุ่มลูกค้าที่ส่งสัญญาณการเข้าพัก มีทั้งคนไทย มาเลเซีย และมียุโรปบ้าง ขณะนี้เห็นชัดว่า 90% เป็นคนไทยจากคนในจังหวัดพัทลุงเองที่กลับไปเยี่ยมบ้าน รวมถึงจาก อ.หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ที่ต้องการหลีกหนีคนจำนวนมากในเทศกาลสงกรานต์ที่บ้านตัวเอง รวมถึงจังหวัดใกล้เคียงอื่นๆ อีกทั้งยังมีอัตราการเข้าพักที่มากกว่า 1 คืนด้วย แนวโน้มต่างๆ เหล่านี้ทำให้ผู้บริหารฯ เตรียมขยายที่ชั้น 4 อีก 28 ห้อง ซึ่งจะเริ่มดำเนินการภายในเดือนมิถุนายน 2567 นี้
“ชื่นใจเวลาลูกค้าหาดใหญ่บอก อยากหนีความวุ่นวายในหาดใหญ่ แล้วพัทลุงก็ไม่ไกล มีโรงแรมดีๆ ให้เขาได้พัก มีที่เที่ยวธรรมชาติให้เขาได้ไป ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา จำนวนคืนที่ลูกค้าพักดีขึ้น จากแรกๆ ลูกค้าพักแค่คืนเดียว เป็นทางผ่านจริงๆ ตอนนี้ จำนวนลูกค้าที่พัก 2 คืน มีเพิ่มขึ้นประมาณ 20% ค่ะ”
ผู้จัดการฯ ดุสิต ปริ๊นเซส พัทลุง กล่าว
พัทลุงเมืองรอง แสนสงบและอบอุ่น
สำหรับพื้นฐานของจังหวัดพัทลุงนั้น กล่าวได้ว่า พัทลุงเป็นเมืองเกษตร พื้นที่ส่วนใหญ่ ‘ปลูกข้าว’ มีการเติบโตต่อเนื่องแบบไม่หวือหวา โดยพันธุ์ข้าวที่สร้างชื่อเสียงระดับประเทศของพัทลุง คือ ‘ข้าวสังข์หยด’ ที่ขณะนี้ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า GI หรือสินค้าบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ที่นอกจากอร่อย หอมนุ่มแล้ว ยังช่วยป้องกันอาการเหน็บชา อ่อนเพลีย บำรุงสมอง บำรุงเลือด ฯลฯ
และข้าวสังข์หยดนี้ ยังเป็นอีกจุดที่พลิกฟื้นความสุข และสร้างรายได้ให้เกษตรกรอีกมาก หลังมีการนำไปต่อยอด เป็นทั้ง กาแฟข้าวสังข์หยด หรือแม้แต่ ‘ชา’ ที่สามารถมาเบรนด์ดื่ม ในสไตล์ตัวเอง ซึ่งในการเบรนด์นั้นก็มีรสชาติของ ข้าวสังข์หยด เป็นหนึ่งในกว่า 10 ตัวเลือกความหอม ที่จะช่วยเสริมและสร้างอรรถรสได้มากกว่าการดื่มชาชั้นดีปกติทั่วไป ซึ่งจุดนี้ ก็เรียกได้ว่า เป็นการต่อยอดได้ทั้งผลิตภัณฑ์ ควบคู่ท่องเที่ยวได้ดีทีเดียว
กล่าวได้ว่า เมืองรองเมืองลุง แห่งนี้ ผู้คนมีวิถีชีวิตในแบบหากินได้ตลอดเวลา ไม่ยากจน จากศักยภาพพื้นที่อุดมสมบูรณ์ ในภาคท่องเที่ยวมีทั้งที่ต่อยอดมาจากภาคเกษตร
ขณะที่ศักยภาพของพื้นที่ชุ่มน้ำ ‘ทะเลน้อย’ ยังต่อยอดด้านการท่องเที่ยว โดยมีพื้นที่เฉพาะที่เป็นผืนน้ำประมาณ 17,500 ไร่ มีความกว้างประมาณ 5 กิโลเมตร ยาวประมาณ 6 กิโลเมตร ตั้งอยู่ตำบลนางตุง และตำบลทะเลน้อย อำเภอควนขนุน เชื่อมต่อกับทะเลสาบสงขลา จังหวัดสงขลา มีสภาพธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่ง
ความสำคัญของ ทะเลน้อย
- ‘ทะเลน้อย’ ได้รับการประกาศเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย แห่งแรกของปรเทศไทย แต่ประชาชนมักเรียกกันว่า อุทยานนกน้ำทะเลน้อย
- ‘พรุควนขี้เสี้ยน’ ของทะเลน้อย ได้รับการประกาศให้เป็นเขตพื้นที่ชุ่มน้ำโลก หรือ แรมซาร์ ไซด์” (Ramsar Site) แห่งแรกในเมืองไทย
- ทะเลน้อยเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพมาก ทั้งระบบนิเวศ สัตว์ป่า สัตว์น้ำ พรรณพืช โดยเฉพาะนก ที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก
‘ทะเลน้อย’ มีวิถีชีวิตของทั้งคน-พืช-สัตว์ ให้ได้เห็น โดยพื้นที่ชุ่มน้ำความลึกเฉลี่ย 1.25 เมตรผืนนี้ มีพืชน้ำปกคลุม อาทิ ผักตบชวา กง กระจูดหนู พืชลอยน้ำ และบัวต่างๆ มี ทุ่งบัวแดง-บัวหลวง ให้ได้ชม สวยงามมาก วิถีสัตว์ ก็จะเห็น นกน้ำ-ควายน้ำ หากินในทะเลน้อยอย่างมีความสุข ขณะที่วิถีของคน ก็มีการ ‘ยกยอยัก’ ในการดักจับสัตว์น้ำ ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ มักทำเป็นอาชีพเสริม เพิ่มรายได้