‘หมาล่า’ ที่ได้รับความนิยมมาระยะหนี่ง ทั้งรูปแบบร้านใหญ่ในศูนย์การค้า และร้านห้องแถวริมถนน หลากหลายรูปแบบ การแข่งขันก็หนักหน่วง รายใหม่ที่เข้ามาก็ต้องหาจุดขายใหม่ ๆ เพื่อดึงลูกค้า และเป็นที่พูดถึงให้มากที่สุด
อย่าง สู่ต้าเสีย (SHU DAXIA) หม้อไฟหม่าล่า จากเฉิงตู มณฑลเสฉวน ประเทศจีน ก่อตั้งขึ้นในปี 2015 เป็นแบรนด์หม้อไฟหม่าล่า พรีเมียม มีสาขากว่า 600 แห่งทั่วโลก เช่น จีน สหรัฐฯ ออสเตรเลีย แคนาดา ญี่ปุ่น มาเลเซีย และไทย ก็ต้องออกแรงเรียกลูกค้าเช่นกัน
เข้าในไทยมีสาขาแรกที่ CDC เลียบด่วนรามอินทรา และสาขาที่สอง MBK ชั้น 6สูต้าเสีย ไม่ได้นำเข้าแค่ร้านหม่าล่าอย่างเดียว แต่นำแคมเปญการตลาดที่ใช้ในจีนมาประยุกต์ใช้ในไทยด้วย นั่นคือ ‘หม่าล่า หาคู่’ โดยแคมเปญนี้เริ่มจัดที่เซียงไฮ้ เป็นกลยุทธ์การตลาดเพื่อโปรโมทร้านให้คึกคัก
งานหม่าล่าหาคู่ ครั้งแรกจัดเมื่อวันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมา เวลา 17.00 – 20.00 น. มีกิจกรรมจากดีเจ และผู้ที่มาร่วมงานหนาแน่น ภายใต้แนวคิด เปิดใจหาคนที่ใช่ เลือกคู่สานสัมพันธ์ พบปะเพื่อนใหม่ ส่งใจให้คนที่ชอบ
คนโสด หนุ่ม สาว เต็มร้าน ได้รับความสนใจจากตัวกิจกรรม และทำให้ร้านหม่าล่า ได้รับการพูดถึงมากขึ้น จนต้องมีการจัดงานครั้งที่ 2 ในวันที่ 25 เมษายนนี้ ที่สาขาเดิม คราวนี้ขายบัตรราคา 588 บาท งานเริ่ม 17.00 – 22.00 น. เพิ่มเวลาจากครั้งแรก 2 ชั่วโมง กิจกรรมเช่นเดิม มีดีเจ ดนตรี และผู้คน คาดว่างานนี้คึกคักกว่าครั้งแรก
สูต้าเสีย มาจับกลุ่มลูกค้าโสด จากเดิมที่ร้านอาหารส่วนใหญ่จับกลุ่มครอบครัวเป็นหลัก คนโสดเป็นกลุ่มลูกค้าที่ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการมากขึ้น จำนวนคนโสดในประเทศไทยปี 2566-2567 น่าจะบอกอะไรได้ชัดเจนขึ้น
- คนไทยที่มีสถานภาพโสด (ยังไม่เคยสมรส) คิดเป็นประมาณ 23.9% ของประชากรทั้งหมด หรือประมาณ 1 ใน 5 คน 1
- กลุ่ม อายุ 15-49 ปี คนโสดมีสัดส่วนสูงถึง 40.5% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของประชากรทั้งหมดเกือบเท่าตัว
- กรุงเทพฯ มีคนโสดสูงสุดในประเทศ คิดเป็น 50.4% ของประชากร
- ปัจจัยที่ส่งผลให้คนไทยมีสถานภาพโสดเพิ่มขึ้น คือการมุ่งเน้นการทำงานและพัฒนาตนเอง การเปลี่ยนแปลงค่านิยมทางสังคม และความไม่พร้อมทางเศรษฐกิจ
จากนี้ไปการทำร้านอาหาร คงต้องมีกลยุทธ์ใหม่ ๆ มาเรียกร้องความสนใจจากผู้บริโภคมากขึ้น และย้ำว่าต้องต่างจากเดิมด้วย
ข้อมูลและภาพ
