พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า สำนักงาน กสทช. ร่วมกับสำนักงานตรวจแห่งชาติ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ตรวจพบการเคลื่อนไหวของกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวต่างชาติในเขตพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช จึงได้ร่วมกันรวบรวมพยานหลักฐาน นำไปสู่การจับกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เป็นชาวต่างชาติได้จำนวน 55 คน และชาวไทย 35 คน รวม 90 คน
พล.ต.อ.ณัฐธร กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบข้อมูลการสื่อสาร และการใช้อินเทอร์เน็ตก่อนเข้าทำการจับกุม รวมทั้งการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลที่บันทึกไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ประกอบการซักถามหลังการตรวจค้นจับกุมพบว่า มิจฉาชีพกลุ่มนี้ทำการติดต่อหลอกลวงเหยื่อหลากหลายวิธีในหลายประเทศ โดยวิธีการหนึ่งที่คนร้ายใช้คือ จะทำการหลอกลวงเหยื่อผ่านช่องทาง Social media โดยเฉพาะแอป Telegram ใช้โทรศัพท์มือถือเป็นตัวกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตสื่อกลาง ซึ่งคนร้ายจะเชิญชวนเหยื่อให้ร่วมแนะน า review โรงแรม รีสอร์ท หรือ ที่พักต่าง ๆ แล้วแจ้งว่าได้รับรางวัลตอบแทนเป็นตั๋วเครื่องบินหรือที่พักฟรี และให้เหยื่อกรอกข้อมูลส่วนบุคคลต่าง ๆ พร้อมส่งข้อความแนบลิงก์ให้กดยืนยันเพื่อรับรางวัล เมื่อเหยื่อหลงกลกดลิงก์ก็จะเป็นการเริ่มการติดตั้งโปรแกรมเข้ามือถือ แล้วคนร้ายจะใช้ข้อมูล
ส่วนบุคคลที่ได้ก่อนหน้าไปกระทำการเข้าถึงข้อมูลบัญชีธนาคาร (โมบายแบงก์กิ้ง) และหลอกดูดเงินเหยื่อในลำดับถัดไปหรือใช้วิธีการหลอกให้เหยื่อร่วมลงทุนด้วยวิธีต่าง ๆ การจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่างชาติครั้งนี้ตรวจพบในพื้นที่ ต.จันดี อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช จำนวน 3 แห่งในพื้นที่ใกล้เคียงและเชื่อมโยงกัน ประกอบด้วย โรงแรม และบ้านพักก่อนขยายผลไปยังโกดังจำหน่ายสินค้าญี่ปุ่นมือสอง ในพื้นที่ อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช พบผู้ต้องหา และของกลางจำนวนมาก ถือเป็นองค์กรอาชญากรรมขนาดใหญ่โดยใน ครั้งนี้ทางทูตตำรวจจีนและญี่ปุ่น ได้เข้าร่วมตรวจสอบการกระทำผิดเพื่อนำไปสู่การขยายผลการกระทำผิดในประเทศจีนและญี่ปุ่นต่อไป
สำหรับของกลางที่ยึดได้ประกอบด้วย
- คอมพิวเตอร์ จำนวน 223 เครื่อง
- โทรศัพท์มือถือและซิมผี จำนวน1,037 ซิม
- Router กระจายสัญญาณ จำนวน 12 เครื่อง
- บัญชีม้า จำนวน 80 เล่ม
ซึ่งเป็นการกระทำที่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ, พ.ร.บ.การทำงานของคนต่างด้าวฯ, พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี, พ.ร.บ.โทรคมนาคมฯ, พ.ร.บ.ศุลกากรฯ และประกาศ กสทช. เรื่อง การยืนยันตัวตนและข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการฯ และจะมีการขยายผลการกระทำผิดไปถึงทุกคนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งดำเนินการยึดทรัพย์อย่างเด็ดขาด
การจับกุมครั้งนี้พบซิมผีกว่า 1,037 ซิมที่ไม่ได้ลงทะเบียนหรือลงทะเบียนไม่ถูกต้องตามกฎหมายและประกาศที่ กสทช. กำหนด ก็จะต้องมีการตรวจสอบทางเทคนิคเพื่อขยายผลไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป ซึ่งหากผู้ใดที่ถือครองซิมตั้งแต่ 6-100 เลขหมายขึ้นไปแล้วยังไม่มาลงทะเบียนยืนยันตัวตนกับค่ายผู้ให้บริการถึงวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ จะดำเนินการระงับการใช้งานเบอร์ และเพิกถอนเบอร์ในที่สุด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปราบปรามการนำซิมไปใช้ผิดกฎหมาย