เซ็นทรัล ประกาศ เปิด ‘GO Wholesale’ 7 สาขา ตลอดปี 67 - แม็คโคร ชูรูปแบบ ‘Hybrid Wholesale’ เพิ่งเปิดสาขาที่ 3 หวังตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
เปิดศักราชปี 2567 หลังการท่องเที่ยวเริ่มกลับฟื้นต้นมากขึ้น ทำให้เริ่มเห็นภาพของผู้ประกอบการเจ้าใหญ่ๆ ในวงการค้าส่ง เริ่มประกาศเดินหน้าเปิดสาขา เพื่อรองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ล่าสุด (19 ม.ค.67) เครือเซ็นทรัล ผู้บริหาร ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหารเพื่อผู้ประกอบการ GO Wholesale โดย สุชาดา อิทธิจารุกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจในประเทศไทยและต่างประเทศ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด ในเครือบริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ป กล่าวว่าปีที่ผ่านมาเปิด GO Wholesale ไปแล้ว 4 สาขา ได้แก่ สาขาศรีนครินทร์ จ.สมุทรปราการ เชียงใหม่ อมตะ ชลบุรี และ พัทยาใต้
ล่าสุดเปิดตัว GO Wholesale สาขาแรกในพื้นที่กทม.ที่ถนนพระราม 2 หน้าด่านสำคัญรับ กทม.ฝั่งตะวันตก ในรูปแบบบิ๊กไซส์ด้วยพื้นที่กว่า 15,000 ตารางเมตร พร้อมด้วยสินค้ามากกว่า 20,000 รายการ แบ่งออกเป็น 3 โซน ได้แก่
โซน A วางจำหน่ายเครื่องดื่มและวัตถุดิบสำหรับธุรกิจเครื่องดื่ม, ขนมขบเคี้ยว, Beverage Solution, กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า, ของใช้ส่วนบุคคล และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด
โซน B วางจำหน่ายบรรจุภัณฑ์, ภาชนะ, อุปกรณ์ห้องครัว, สินค้าอุปโภคบริโภค, ข้าวสาร, อาหารแห้ง และแหล่งรวมอาหารแช่แข็งขนาดใหญ่ รวมถึง เนย,นม,ชีส
โซน C พื้นที่ที่รวบรวมอาหารสดนานาชนิด ทั้งเนื้อสัตว์, อาหารทะเลสดๆ รวมถึง ผักผลไม้ ภายในสาขายังมีแปลงสาธิตผักไฮโดรโปรนิกส์ ที่พัฒนาร่วมกับ AIS เป็นสมาร์ทฟาร์ม นำผลผลิตมาจำหน่ายในสาขาด้วย
สุชาดา อิทธิจารุกุล ย้ำถึงจุดขายที่แตกต่างของโกโฮเซลล์นอกจากวัตถุดิบอาหารที่แตกต่างหลากหลายแล้ว ยังมีบริการตอบโจทย์สมาชิกในทุกช่องทางการชำระเงินรวมถึงการสั่งสินค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์ผ่านแอพพลิเคชั่น Go Wholesale รวมถึงยังร่วมมือกับพันธมิตรในการสร้างกิจกรรมการตลาดให้แก่สมาชิกพร้อมมอบสิทธิประโยชน์ผ่านแพลตฟอร์มเดอะวันในเครือเซ็นทรัล
นอกจากนี้ภายในปี 2567 มีแผนจะขยายสาขาใหม่อีก 7 แห่ง โดยเน้นทำเลในหัวเมืองที่มีศักยภาพจังหวัดท่องเที่ยว เนื่องจากมองว่าผู้ประกอบการร้านอาหารยังมีโอกาสในการเติบโต และได้รับอานิสงส์จากนโยบายรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวของภาครัฐ
สำหรับกลยุทธ์ในการขยายสาขาของ Go Wholesale จะเน้นเจาะไปจุดทำเลค้าปลีกที่มีอยู่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะไทวัสดุ ซึ่งเป็นของเครือเซ็นทรัล มีสาขาทั่วประเทศ 77 สาขา จึงมีโอกาสขยายสาขาไปร่วมกันได้ หรือไปเคียงข้างกับรีเทลอื่นๆ หากมีพื้นที่และกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสม
ด้านเจ้าตลาดค้าส่งรายเดิมอย่าง แม็คโคร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO เมื่อวันที่ (18 ม.ค.67) เพิ่งเปิดตัวสาขารูปแบบ Hybrid Wholesale เป็นสาขา Hybrid Wholesale สาขาที่ 3 ในไทย
จุดเด่นของโมเดล Hybrid Wholesale คือ การผนึก แม็คโคร-โลตัสมอลล์ แล้ว จึงเกิดโมเดลธุรกิจในคอนเซ็ปต์ ‘Hybrid Wholesale’ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นห้างโฉมใหม่ที่เป็นมากกว่าการขายส่ง ที่สามารถตอบโจทย์ผู้ประกอบการได้ทั้งความต้องการด้านวัตถุดิบและไลฟ์สไตล์ในที่เดียว
เชื่อมต่อช่องทางการบริการลูกค้า ไม่ว่าจะซื้อขายผ่านทีมงานขายมืออาชีพ, แพลตฟอร์มออนไลน์ ‘Makro PRO’ หรือซื้อที่สาขา ก็ทำให้ลูกค้าผู้ประกอบกาทั้ง B2B และ B2C เข้าถึงประสบการณ์การใช้จ่ายที่สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น
โดยสาขาที่จ.สมุทรสาคร เป็นรูปแบบ โดยสาขาที่จ.สมุทรสาคร เป็นรูปแบบ Hybrid Wholesale สาขาที่ 3 ในไทย หลังจาก 2 สาขาแรกเปิดไปแล้วจ.สมุทรปราการและ จ.นครสวรรค์ไปแล้วและได้รับกระแสตอบรับดี ตั้งเป้าเป็นศูนย์รวมของชุมชน มีการรับซื้อผลผลิตชุมชน อาทิ มะพร้าวน้ำหอม มะนาว เป็น ลำไยพวงทอง เป็นต้น จึงต้องติดตามว่าหลังจากนี้ MAKRO จะมีเป้าหมายในการขยายสาขาตลอดปี 2567 ออกมาหรือไม่
แต่อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ MAKRO ก็ออกมาประกาศตั้งเป้าหมายจะเป็นแพลตฟอร์มตลาดสินค้าออนไลน์เพื่อผู้ประกอบการเป็นอันดับ 1 ของไทย โดยมีแอปพลิชั่นออนไลน์ ออกมาตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค เพื่อหวังรักษาความเป็นแชมป์ส่วนแบ่งการตลาดค้าส่งอันดับหนึ่งไว้
ช่วงกลางเดือนม.ค.67 บริษัท ซีเจ มอร์ จำกัด ผู้บริหารเชนร้านค้าปลีก CJ Express และ CJ MORE ของ เสถียร เสถียรธรรมะ หัวเรือใหญ่คาราบาวกรุ๊ป ก็เพิ่งเปิดตัวโมเดลใหม่ภายใต้ชื่อ CJX วางตำแหน่งทางการตลาดให้เป็นทั้งร้านค้าส่งและค้าปลีกเอาไว้ด้วยกัน ซึ่งตอนนี้เปิดไปแล้วกว่า 4 สาขาในต่างจังหวัด คล้ายกับกลยุทธ์ท่าเดิมที่ กลุ่ม CJ ถนัด คือ เริ่มจากต่างจังหวัด เมื่อแข็งแรงแล้ว จึงขยายมายังในเมือง หรือ ที่เรียกว่า ป่าล้อมเมือง
นี่เพิ่งไตรมาสแรกของ ปี 2567 แต่ละค่ายธุรกิจค้าส่งยังเดินหน้าประกาศสาขากันพรึ่บขนาดนี้ แต่ในอีกมุม ก็ถือเป็นประโยชน์ของผู้บริโภค ลูกค้าอย่างเรา จะได้มีทางเลือกในการซื้อสินค้าในผู้ประกอบการหลายรายมากขึ้น เพราะเกิดการแข่งขันในตลาดมากขึ้น
