ปี 2566 AIS เปิดอินไซต์ลูกค้ากว่า 49 ล้านราย ใช้ AIS Points แลก อาหารและเครื่องดื่มมากสุด - พบแลก กาแฟ ชา ตลอดปีถึง 10 ล้านแก้ว
หนึ่งในกลยุทธ์การตลาดในการมอบประสบการณ์สิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้า คือ การให้คะแนน สะสมแต้ม เพื่อแลกสิทธิประโยชน์บางอย่าง รวมกับ พาร์ทเนอร์ เพื่อเป็นการกระตุ้นการใช้สินค้าและบริการ ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ AIS เครือข่ายผู้ให้บริการโทรคมนาคมเดินหน้าทำมาอย่างต่อเนื่อง
ใจพร ศรีสกุล หัวหน้าหน่วยธุรกิจบริหารลูกค้าและการบริการ 3 AIS เปิดเผยถึงข้อมูลลูกค้า AIS และ 3BB รวม 49.1 ล้านราย ตลอดปี 2566 ที่ผ่านมาพบใช้สิทธิทั้งสิ้น 1,400 ล้านพอยท์ อันดับหนึ่งกว่า 50 % ใช้สิทธิ์ไปกับการแลกรับส่วนลดอาหารและเครื่องดื่ม โดยมีตัวเลขที่น่าสนใจ คือ ผู้ใช้งานแลกรับชา กาแฟ ถึง 10 ล้านแก้ว โดนัท 1.5 ล้านชิ้น
อันดับสอง คือ 20% ใช้สิทธิ์ ส่วนลดค่าใช้บริการ package อินเตอร์เน็ต ส่วนอันดับสาม คือ สัดส่วน 20% ใช้ไปกับการแลกลุ้น Lucky Drew ละ Premium Delively อันดับสี่ สัดส่วน 10 % ใช้สิทธิ์ส่วนลดกับร้านถุงเงิน
ใจพร ศรีสกุล หัวหน้าหน่วยธุรกิจบริหารลูกค้าและการบริการ 3 AIS เผยว่า 3 แกนหลักในการใช้ AIS Points ได้แก่ รับ (EARN), แลก (BURN) และ ลุ้น (EXCITEMENT) ดังต่อไปนี้
1.รับ (EARN) โดยสำหรับทุกการใช้จ่าย 25 บาท ลูกค้าจะได้ AIS Points 1 พอยท์ เพื่อนำไปใช้สิทธิประโยชน์ด้านส่วนลดกับร้านค้า พาร์ทเนอร์ในเครือที่มีถึง มากกว่า 2 ล้าน Outlet ทั่วประเทศ
โดยปี 2024 ทาง AIS มีการเพิ่มพาร์ทในส่วนของการแบงก์กรุงเทพ ผู้จัดจำหน่ายทองคำ อย่างบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด รวมถึง บริษัท หลักทรัพย์ Dime เป็นบริษัทในเครือเกียรตินาคินภัทร และบริการประกันการท่องเที่ยวโดย AIS เอง
รวมถึงยังมีพาร์ทเนอร์ ปั้มน้ำมัน ธนาคาร และบัตรเครดิต ที่โดยลูกค้าสามารถนำคะแนนที่โอนมาเป็น AIS Points มาแลกรับสิทธิพิเศษต่างๆ รวมร้านค้าที่ร่วมรายการทั้งหมดนับหมื่นร้าน หรือ คิดเป็น มากกว่า 2 ล้าน Outlet ทั่วประเทศ
ล่าสุดเรามีแผนขยายความร่วมมือกับ พอยท์เอกซ์ และ MAAI by KTC (มาย บาย เคทีซี) เพิ่มเติม ทำให้วันนี้เราเป็น พอยท์ แพลตฟอร์ม ที่ลูกค้าสามารถโอน แลกคะแนนได้มากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ซึ่งเป็นการช่วยกันสนับสนุนพาร์ทเนอร์ในการร่วมกันดูแลลูกค้า ของแต่ละฝ่าย และสร้างการเติบโตแบบร่วมกัน หรือ ECOSYSTEM ECONOMY อย่างชัดเจน
ใจพร ศรีสกุล หัวหน้าหน่วยธุรกิจบริหารลูกค้าและการบริการ 3 AIS
2.แลก (BURN) นอกจากแลกส่วนลดในการซื้อสินค้า บริการ สมาร์ทโฟน แกดเจ็ตต่างๆ ที่ AIS ได้แล้ว ยังมีการร่วมมือกับ KTB กับ ร้านค้าถุงเงินและพารวย มากกกว่า 2 ล้าน ร้านค้าทั่วประเทศ สามารถนำพอยท์ไปแลกเป็นส่วนลด อาหารและเครื่องดื่ม กระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ ทำให้คู่ค้าขายของได้มากขึ้น
รวมถึงปีนี้ 2567 จะยกระดับเป็น ‘ถุงเงินซุปเปอร์ QR’ ให้ทางร้านค้าง่ายต่อการรับเงิน นอกจากนี้ใน เดือน ก.พ. 67 เตรียมจะเปิดตัวพาร์ทเนอร์รายใหม่อีกด้วย
3.ลุ้น (EXCITEMENT) จากคะแนนที่ลูกค้าสะสม ซึ่งตลอดระยะเวลาที่เปิดตัวโปรแกรมนี้ เราสามารถส่งมอบประสบการณ์ความพิเศษที่ตรงใจกับพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้าในทุกรูปแบบ
จากการที่ AIS ได้วิเคราะห์ผ่านการทำ Data analytics พบว่าการลุ้น Lucky door มี 3 ประเภทรางวัล ที่ลูกค้าอยากได้ คือ มือถือ ทองคำ และ รถยนต์ ซึ่งวันนี้ (26 ม.ค.67) แจกรางวัล รถยนต์ BYD 1 คัน และตลอดปีนี้ เตรียมที่จะแจกรางวัล รถยนต์ไฟฟ้าอีก
รวมถึงเร็วๆ นี้เตรียมจะขยายสิทธิประโยชน์ในการใช้ AIS Point เพื่อออกแบบประสบการณ์การใช้บริการแบบรู้ใจให้กับลูกค้าได้เลือกแบบ Personalize ตาม Persona เช่น กลุ่ม Pet lover ทีที่ไลฟ์สไตล์แยกย่อยออกไป เพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้มากขึ้น
วันนี้เราแข่งขันกับตัวเองมากกว่า โดยใช้จุดแข็งเหล่าพันธมิตร ที่มีร้านค้าหลากหลาย มีทุกระดับ ทั้งแบรนด์ในดวงใจ (Top of mind) ทั้งตลาดบน กลาง และร้านเล็ก มีความหลากหลาย รวมถึงทุกๆไตรมาส เราจะมีการประกาศพาร์ทเนอร์เพิ่ม อย่างกลุ่ม Pet lover น่าสนใจว่าทำไม กลุ่มเซ็นทรัล สร้างห้างฯ สำหรับ คนรักน้องหมา โดยเฉพาะ เราก็มองโอกาสตรงจุดนี้ เพื่อดูแลลูกค้าให้รู้ใจมากขึ้น
ใจพร ศรีสกุล หัวหน้าหน่วยธุรกิจบริหารลูกค้าและการบริการ 3 AIS
ย้อนดู ทรู กระตุ้นลูกค้าใช้พอยท์ - สร้างความตื่นเต้น แจก ‘เทสล่า’ เมื่อสิ้นปี 66
สำหรับคู่แข่งทางตรงอย่าง True ก่อนหน้านี้ ทาง สรรค์พิจิตร เอี่ยมชีรางกูร หนึ่งในแม่ทัพหญิงค่ายทรู-ดีแทค หัวหน้าสายงานบริหารความสัมพันธ์และผสานสิทธิประโยชน์ลูกค้า บมจ. ทรูคอร์ปอร์เรชั่น เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ด้วยจำนวนลูกค้ากว่า 51 ล้านราย มีทั้ง TrueYou ก็มี Touchpoint เพื่อเป็นการสร้างประสบการณ์ CRM รวมถึง โฟกัสที่ Segmentation ต้องมุ่งตอบโจทย์ลูกค้าให้ได้แบบ Personalization เพราะความต้องการของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน
นอกจากนี้ หลังจากควบรวมกับ Dtac ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ทั้ง TrueYou และ dtac Rewards นอกจากจะมีสิทธิพิเศษจากกว่า 2,500 แบรนด์ โดยที่ทางนี้ มีการแจกรถยนต์ไฟฟ้า อย่าง Tesla, ทองคำ, สมาร์ทโฟน
โดยปี 2024 จะเป็นปีที่ท้าทายของ True CRM คีย์เวิร์ดสำคัญคือ Raise the Bar และ Seamless Transformation ความท้าทายแรก คือ มูลค่าสิทธิพิเศษที่จะส่งมอบให้กับลูกค้านั้นจะต้องมากกว่าปี 2023 ที่ในเวลานี้สูงถึง 2,500 ล้านบาท ด้วยกลยุทธ์จับมือแบบ Win-Win-Win หรือ Better Together ที่ลงมือทำแบบทีละน้อยวัดผลเรื่อยๆ
