กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย สมจินต์ ศรไพศาล กล่าวว่า จากสภาพเศรษฐกิจที่ดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูง สงครามทำให้ภาวะการลงทุนอยู่ในโหมดระมัดระวัง และคาดเดาได้ยากว่าจะมีหุ้นกู้ที่มีปัญหาหรือเสี่ยงที่จะเป็นหุ้นกู้ที่ผิดนัดชำระมากน้อยแค่ไหน
โดยล่าสุด หุ้นกู้ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเม้นต์ (ITD)ยังไม่ Default ซึ่งจะจัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ 17 มกราคมนี้ ที่จะเจรจาขอยืดหนี้ 2 ปี แม้จะมีการผิดนัดของหุ้นกู้บางบริษัท แต่เชื่อว่าผู้ลงทุนสามารถแยกแยะได้ ไม่น่าจะกระทบการลงทุนหุ้นกู้
ด้านอารยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย กล่าวว่า ในปี 2566 หุ้นกู้เอกชนออกใหม่มีมูลค่าอยู่ที่ 1,018,690 ล้านบาท โดย 91% เป็นหุ้นกู้ Investment Grade มูลค่า 926,713 ล้านบาท
ขณะที่ อีก 9% เป็น High yield มูลค่า 91,977 ล้านบาท ซึ่งน้อยกว่า ปี 2565 ที่มี 1,261,548 ล้านบาท เป็นหุ้นกู้ Investment Grade มูลค่า 1,131,282 ล้านบาท และ High yield มูลค่า 130,266 ล้านบาท
นักลงทุนมีความระมัดระวังการลงทุนมากขึ้น ขณะเดียวกัน บจ.ใหญ่ อาจมีแหล่งเงินกู้อื่นในช่วงดอกเบี้ยขึ้นสูง อย่างไรก็ดี มีข้อสังเกตว่าสัดส่วนให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป (PO) มากขึ้น โดยปี 2566 มีสัดส่วน 39% จากปี 2565 อยู่ที่ 29%
สำหรับหุ้นกู้ที่ผิดนัดชำระในปี 66 มูลค่ารวม 16,363 ล้านบาท ประกอบด้วย
- หุ้นกู้ บมจ. ออลล์อินสไปร์ (ALL) (Non-rated) 7 รุ่น รวม 2,334 ล้านบาท
- หุ้นกู้ บมจ.สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น (STARK) (BBB+) 5 รุ่น มูลค่า 9,198 ล้านบาท
- หุ้นกูบมจ.ช.ทวี (CHO ) (Non-rated) 4 รุ่น 409 ล้านบาท
- หุ้นกู้ DR (Non-rated) 2 รุ่น 1,210 ล้านบาท
- หุ้นกู้ บมจ. เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป (Non-rated) 7 รุ่น มูลค่า 3,212 ล้านบาท
- ล่าสุดหุ้นกู้ PPH บริษัทอสังหาฯขนาดเล็ก (Non-rated) 1 รุ่น 392 ล้านบาท
ปัจจุบันมูลค่าคงค้างที่มีปัญหา ณ สิ้นปี 2566 รวม 39,412 ล้านบาท (ไม่รวมหุ้นกู้ที่อยู่ในการฟื้นฟูกิจการ) โดยจำนวนนี้ หุ้นกู้ Default 22,295 ล้านบาท
อริยา กล่าวด้วยว่า ในปีนี้สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย มีแนวทางการดำเนินงานในการช่วยแก้ไขปัญหาหุ้นกู้ที่ผิดนัดชำระ หรือหุ้นกู้ที่มีปัญหา คือ
- เพิ่มการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินของ Issuer และ การเปรียบเทียบกับอุตสาหกรรม เพื่อให้นักลงทุนมีข้อมูลครบถ้วนในการตัดสินใจลงทุน โดยได้ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
- จัดทำ High Yeild bond covenant (ข้อกำหนดทางการเงินที่ Issuer ต้องปฏิบัติ) ที่ครอบคลุมเงื่อนไขสำคัญ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนักลงทุน
- จัดทำสัญญามาตรฐานของผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เพื่อเพิ่มหน้าที่ของ Issuer และนายทะเบียนที่มีต่อผู้แทนผู้ถือหุ้นหุ้นกู้ในการทำหน้าที่ปกป้องประโยชน์ของนักลงทุนให้มีประสิทธิภาพ
สมาคม ฯ คาดว่าแนวปฏิบัติดังกล่าวจะเริ่มใช้ได้ในปลายปีนี้
