ภายในงาน ‘SIAM PARAGON THE LUXE HALL OPENING CELEBRATION’ ได้รับเกียรติจาก แฟชั่นไอคอนคนดังระดับประเทศ ร่วมอวดโฉมบนพรมแดงในคีย์ลุคแสนเก๋จากแบรนด์ชั้นนำ เช่น พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร ในลุคของ BALENCIAGA, ดิว-จิรวรรตน์ สุทธิวณิชศักดิ์ ในลุคของ FRED, นานิ-หิรัญกฤษฎิ์ ช่างคำ ในลุคของ GIVENCHY, มายด์-ลภัสลัล จิรเวชสุนทรกุล ในลุคของ LONGCHAMP, แอฟ- ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ ในลุคของ LORO PIANA, ต่อ-ธนภพ ลีรัตนขจร ในลุคของ LOUIS VUITTON, ท็อปแท็ป- จิรกิตติ์ คูอาริยะกุล ในลุคของ MCM, เก้า-สุภัสสรา ธนชาต ในลุคของ MIU MIU, เฟย์-พรปวีณ์ นีระสิงห์ ในลุคของ ROGER VIVIER, น้ำตาล-พิจักขณา วงศารัตนศิลป์ ในลุคของ TORY BURCH,บุ๊ค-กษิดิ์เดช ปลูกผล ในลุคของ VALENTINO และ ฟอส-จิรัชพงศ์ ศรีแสง ในลุคของ VERSACE พร้อมด้วยเหล่าคนดังในแวดวงแฟชั่นที่ร่วมเปิดประสบการณ์เยี่ยมชม “LUXE HALL” และช็อปน้องใหม่ในสยามพารากอน
ก่อนปิดท้ายด้วยเอ็กซ์คลูซีฟปาร์ตี้กับดีเจชื่อดังที่สร้างสรรค์บรรยากาศให้สนุกสนานเต็มไปด้วยความชิคสไตล์แฟชั่นนิสต้า

ทั้งนี้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สยามพารากอนยืนหยัดเป็น World Class Luxury Destination ที่มอบประสบการณ์สุดพิเศษระดับ World Class Experience ให้กับลูกค้ามาโดยตลอด ด้วยลักซ์ซูรี่แบรนด์ที่ครบครันมากที่สุดกว่า 70 แบรนด์ เพื่อสะท้อนถึงความเชื่อมั่นจากผู้ประกอบการและมุ่งมั่นที่จะส่งมอบประสบการณ์สุดพิเศษระดับ World Class Experience ให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง สยามพารากอนเปิดพื้นที่โซน “LUXE HALL” ขยายพื้นที่สำหรับสินค้ากลุ่มลักซ์ซูรี่แบรนด์เพิ่มขึ้น เสริมความแข็งแกร่งให้สยามพารากอนเป็น Luxury Destination ยิ่งใหญ่ระดับเอเชีย โดยมีพื้นที่ร้านค้ากลุ่มลักซ์ซูรี่แบรนด์ทั่วสยามพารากอนเพิ่มขึ้นอีกกว่าเท่าตัว จากเดิมประมาณ 10,000 ตารางเมตร รวมเป็น 20,000 ตารางเมตร สำหรับ LUXE HALL ได้รับเกียรติจาก Luxury Brand ใหม่ๆ เข้ามาร่วมเปิดร้านแฟล็กชิปสโตร์หรือบูทีคช้อปกว่า 20 แบรนด์
นอกจากนี้ ศูนย์การค้าสยามพารากอนยังได้รับเกียรติจากแบรนด์ดังระดับโลกมาเปิดแฟล็กชิปสโตร์และคอนเซ็ปท์สโตร์เป็นครั้งแรกในประเทศไทย เช่น Louis Vuitton Men Boutique, Fendi Men Boutique, Prada Men Boutique (เปิดปลายปี 2567), SHH Pendulum และ Casablanca Pop Up พิเศษสุดกับเอ็กซ์คลูซีฟช็อปที่สยามพารากอนเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยของแบรนด์ Chopard, Piaget, Frank Muller และ Zenith โดยการปรับโฉมและเพิ่มประสบการณ์ใหม่ให้กับเหล่าแฟชั่นเลิฟเวอร์ในครั้งนี้ เป็นการสร้างนิยามใหม่อีกระดับของความสมบูรณ์แบบ เพื่อนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดและก้าวไปสู่ “The World of Tomorrow” กำหนดนิยามใหม่อีกระดับที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแห่งโลกอนาคตในทุกมิติ