กลุ่มตัวแทนผู้เสียหาย ‘กลุ่มรวมพลังหุ้นกู้สตาร์ค’ ซึ่งเป็นกลุ่มประชาชนผู้ลงทุนหุ้นกู้สตาร์ค ส่วนหนึ่งจากทั้งหมด 4 พันกว่าราย ที่เสียหายรวมกันกว่า 9 พันล้านบาท พร้อมด้วยกลุ่มผู้กระทำผิด ได้ส่งตัวแทนเข้าพบอัยการสำนักงานคดีพิเศษเพื่อติดตามความหน้าการดำเนินคดีอาญาฐานตกแต่งบัญชีและงบการเงิน และฐานฉ้อโกงประชาชน
ที่มีผู้ต้องหาในเบื้องต้น 11 ราย ได้แก่
- วนรัชต์ ตั้งคารวคุณ
- ชินวัฒน์ อัศวโภดี
- ศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ
- กิตติศักดิ์ จิตต์ประเสริฐงาม
- บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น
- บริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด
- บริษัท อดิสรสงขลา จำกัด
- บริษัท ไทยเคเบิ้ล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
- บริษัท เอเชีย แปซิฟิกดริลลิ่ง เอ็มจิเนียริ่ง จำกัด
- ยสบวร อำมฤต
- ชนินทร์ เย็นสุดใจ หลบหนีและศาลมีหมายจับ ได้เดินทางมาติดตามผลคำสั่งในคดีทุจริตในบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
ภายหลังอัยการรับสำนวนจากพนักงานสอบสวนพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่มีการกล่าวหา นายชนินทร์ เย็นสุดใจ ซึ่งอยู่ระหว่างหลบหนี กับพวกรวม 11 คนในความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ฐานตกแต่งบัญชีและงบการเงิน และฐานฉ้อโกงประชาชนฯ เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา
วีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักกฎหมายผู้รับมอบอำนาจจากผู้เสียหาย กล่าวว่า ล่าสุดมีกระแสข่าวว่าอัยการอาจจะสั่งฟ้องผู้ต้องหาบางราย ที่มีพยานหลักฐานเพียงพอแล้ว ส่วนผู้ต้องหาบางรายที่ยังไม่สั่งฟ้อง เนื่องจากอัยการมองว่าจะต้องมีการสอบสวนเพิ่ม ก็จะมีการแจ้งกลับไปยังดีเอสไอเพื่อให้ดําเนินการสอบสวนเพิ่ม ซึ่งถือเป็นสิทธิของอัยการเพราะคดีอาญาหากมีคําสั่งฟ้องตอนที่หลักฐานยังไม่แน่นอาจจะมีปัญหาได้
ในฐานะตัวแทนของผู้เสียหาย ‘กลุ่มรวมพลังหุ้นกู้สตาร์ค’ หวังว่าอัยการจะสั่งฟ้องผู้ต้องหาทุกราย หากผู้ต้องหารายใดยังไม่สามารถสั่งฟ้องได้ โปรดอย่าปล่อยสั่งไม่ฟ้อง แต่ขอให้มีการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่ม เพื่อนําฟ้องต่อศาล
อย่างไรก็ตามยังผู้ต้องหาบางรายที่อยู่ระหว่างการหลบหนี ซึ่งการดําเนินคดีอาญาจะต้องดําเนินคดีโดยที่มีผู้ต้องหามาด้วย ส่วนบุคคลสําคัญในคดีที่อัยการอาจจะยังไม่สั่งฟ้องในวันนี้ และต้องรอความชัดเจนจากอัยการก่อน