นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม เผย ทันทีที่รับทราบเหตุไฟไหม้ภายในบริษัท วินโพรเสส จำกัด ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เมื่อค่ำคืนวันที่ 27 มกราคม 2568 (ช่วง 21.30 น.) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เกิดความห่วงใยประชาชนในพื้นที่ ที่อาจจะได้รับผลกระทบ เร่งสั่งการด่วนให้ทีมตรวจการสุดซอย กระทรวงอุตสาหกรรม นำโดย น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายเอกนิติ รมยานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม ผู้แทนกรมโรงงานอุตสาหกรรม นายวีระ นันทเศรษฐ์ อุตสาหกรรมจังหวัดระยอง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ ณ บริษัท วินโพรเสส จำกัด จ.ระยอง ทันที

การตรวจสอบ พบเหตุเกิดขึ้นที่บริเวณโกดัง 5 จุดที่เกิดเพลิงไหม้ เป็นกองขยะพลาสติก ถุงมือยาง ใกล้เคียงยังพบแกลอนพลาสติกขนาด 20 ลิตร จำนวน 2 แกลอน ขณะนี้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานทำการเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุไปตรวจพิสูจน์แล้ว เบื้องต้นคาดว่าอาจจะเป็นการเผาเพื่อสร้างสถานการณ์ หรืออาจจะเป็นการลักลอบเข้าพื้นที่เพื่อโจรกรรมชิ้นส่วนเหล็กนำไปขาย เนื่องจากพบชิ้นส่วนเศษเหล็กในบริเวณดังกล่าวด้วย โดยเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบกับร้านรับซื้อของเก่าในพื้นที่ต่อไป

และในเบื้องต้นอุตสาหกรรมจังหวัดระยองได้ทำการแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าว อยู่ระหว่างดำเนินการเร่งขนย้ายตะกรันอลูมิเนียมหรืออลูมิเนียมดรอส ทั้ง 7,000 ตัน ออกจากพื้นที่เพื่อนำไปบำบัดกำจัดอย่างถูกวิธีตามหลักวิชาการที่บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี
ทั้งนี้ จุดที่เกิดเพลิงไหม้ แม้จะอยู่ห่างจากกองตะกรันอลูมิเนียม หรืออลูมิเนียมดรอส ที่กำลังขนย้ายเพียงเล็กน้อย แต่พื้นที่ดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆ โดยตัวเลขยอดขนย้ายตะกรันอลูมิเนียมที่ทำงานร่วมกับทีพีไอ โพรลีน นั้น ได้เริ่มขนมาตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2568 จนถึงปัจจุบัน ขนย้ายไปแล้ว 1,592.61 ตัน

ด้านการตรวจสอบสภาพอากาศ โดยรถตรวจวัดคุณภาพอากาศเคลื่อนที่ ของกรมโรงงานอุตสาหกรรม พบคุณภาพอากาศบริเวณดังกล่าวยังอยู่ในค่าปกติ ไม่พบการปนเปื้อนของสารเคมี ซึ่งทางกรมโรงงานอุตสาหกรรมจะนำรถดังกล่าวจอดไว้ในพื้นที่ เพื่อตรวจวัดคุณภาพอากาศจนกว่าประชาชนจะวางใจว่าสามารถใช้ชีวิตได้ปกติไม่มีเคมีอันตรายปนเปื้อนในอากาศต่อไป
“ท่านรัฐมนตรีฯ เอกนัฏ ได้เน้นย้ำกับทีมงานว่าให้ช่วยกันตรวจสอบและให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่อย่างเต็มที่โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับความปลอดภัยของประชาชนต้องคำนึงถึงเป็นเรื่องแรก และให้มีการตรวจสอบความปลอดภัยด้านต่างๆ การตรวจสอบคุณภาพอากาศหลังเกิดเหตุ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ใช้ชีวิตได้อย่างไม่ต้องกังวลเรื่องสารพิษ ส่วนการขนย้ายตะกรันอลูมิเนียมนั้น ยังสามารถดำเนินการต่อได้ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ”
เลขาฯพงศ์พล กล่าว
