KANORI ย้ำภาพ ‘แฮนด์โรล’ เจ้าแรกในไทย

22 เม.ย. 2568 - 03:24

  • KANORI Hand roll bar ย้ำภาพ ‘แฮนด์โรลเจ้าแรกในไทย’

  • กวาดยอดขาย 300 ล้านบาท

  • ตั้งเป้าโตอีก 20% ปีนี้เล็งเปิดสาขาเพิ่ม!

kanori-hand-roll-bar-brand-marketing-SPACEBAR-Hero.jpg

ความนิยมของอาหารญี่ปุ่นในไทย เติบโตไม่หยุด สะท้อนจากตัวเลขผลสำรวจจำนวนร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยปี 2567 จากองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น หรือ ‘เจโทร กรุงเทพฯ’ ที่ระบุเอาไว้ว่า จำนวนร้านอาหารญี่ปุ่นในไทยมีทั้งหมด 5,916 ร้าน เพิ่มขึ้น 165 ร้าน มีอัตราเพิ่มขึ้น 2.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

แนวโน้มการเติบโตของร้านอาหารญี่ปุ่นในไทยที่เพิ่มขึ้นทุกปี ทำให้ 3 พี่น้อง ‘ตระกูลกอบกุลสุวรรณ’ ทั้ง ปณิธาน-ปณิธิ-ปวิตรา กอบกุลสุวรรณ ตัดสินใจเปิดร้านญี่ปุ่นแฮนด์โรลแนวฟิวส์ชัน ที่นำเอาอาหารญี่ปุ่นดั้งเดิมที่เรียกว่า เทมากิซูชิ เปิดในไทยเป็นครั้งแรก! เมื่อปี 2566 ภายใต้ชื่อ ‘KANORI Hand roll bar’ โดดเด่นด้วยการทำ ‘แฮนด์โรลสดใหม่’ จากหน้าเคาน์เตอร์บาร์ โดยใช้วัตถุดิบพรีเมียมนำเข้าแทบทั้งหมด ทั้งยังตอบโจทย์เรื่องความสะดวกรวดเร็วเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่อีกด้วย

kanori-hand-roll-bar-brand-marketing-SPACEBAR-Photo02.jpg

ปณิธิ กล่าวว่า จุดเริ่มต้นที่ทำให้สนใจเปิดร้านในวันที่คนไทยยังไม่รู้จัก และยังใหม่มากสำหรับในประเทศไทย ซึ่งถือว่าท้าทายมากเพราะเราต้อง Educate ลูกค้าเกี่ยวกับแฮนด์โรลด้วย รวมถึงมองเห็นเทรนด์การกินอาหารญี่ปุ่นในไทยที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงต้องการวางจุดยืนเป็น ‘First Mover’ ในตลาด อีกทั้งครอบครัวมีความชอบรับประทานอาหารญี่ปุ่นอยู่แล้ว หลังจากทดลอง R&D และมีการพัฒนาสูตรข้าวปั้น รวมถึงกรรมวิธีการทำเรื่อยมา จึงตัดสินใจประเดิมสาขาแรกบริเวณซอยสุขุมวิท 49 ผลปรากฏว่า ได้รับกระแสตอบรับที่ดีตั้งแต่เปิดร้าน จนถึงตอนนี้ ‘KANORI Hand roll bar’ ใช้เวลาเพียง 1 ปีครึ่ง ขยายร้านไปถึง 4 สาขา ได้แก่ สาขาสุขุมวิท 49, สาขาเอ็มควอเทียร์, สาขาเซ็นทรัล เอ็มบาสซี และสาขาล่าสุดที่ ไอคอนสยาม

“เราอยากทำสิ่งใหม่ที่ยังไม่มีใครเคยทำมาก่อน วิธีคิดและการทำงานจึงไม่ได้ใช้เพียงตำราเดิม แต่ยังล้อไปกับโลกปัจจุบันเพื่อให้ได้วิธีคิดที่สดใหม่มากขึ้น พูดได้ว่า ร้าน ‘KANORI Hand roll bar’ คือ First Mover ในตลาดแฮนด์โรลเมืองไทย”

kanori-hand-roll-bar-brand-marketing-SPACEBAR-Photo V02.jpg

ปวิตรา ให้มุมมอง ตลาดอาหารญี่ปุ่นในไทย โดยเฉพาะแฮนด์โรลนั้น ขณะนี้ผู้ประกอบการต้องเจอกับการแข่งขันเรื่องราคาอย่างดุเดือด คนไทยมองเรื่องความคุ้มค่า หรือ ‘Reasonable Price’ มากขึ้น ทั้งยังต้องมาพร้อมกับความง่าย ไม่มีแบบแผนขั้นตอนมากมาย ด้วยรสชาติ วัตถุดิบพรีเมียม และจุดแข็งเรื่องความสะดวกรวดเร็วของแฮนด์โรล จึงเชื่อว่า ‘KANORI Hand roll bar’ จะเติบโตสอดคล้องไปกับเทรนด์การกินของคนไทยอย่างแน่นอน

“กลยุทธ์ที่ทำให้ร้านเราประสบความสำเร็จในฐานะแฮนด์โรลเจ้าแรกในไทย และยังสามารถขยายได้ 4 แห่ง มาจากการศึกษาอินไซต์ผู้บริโภค รู้ว่าลูกค้าต้องการอะไร ไม่ได้มองที่ตัวเลขเรื่องกำไรมาเป็นอันดับต้นๆ แต่ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าที่ลูกค้าได้รับกลับไป เรื่องนี้เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้เกิดการกลับมากินซ้ำ โดยร้านแฮนด์โรลบาร์ของเรามีกลิ่นอายกึ่งๆ โอมากาเสะที่มาในราคาจับต้องได้ สามารถมาทานเป็นครอบครัว ลูกค้าเราจึงมีตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงผู้ใหญ่ นอกจากนี้ยังมีบริการส่งตรงถึงบ้านแบบเดลิเวอรี่ โดยที่ยังคงความสดสะอาดจากวัตถุดิบพรีเมียม รวมถึงสาหร่ายที่ยังคงความกรอบไม่ต่างจากการนั่งรับประทานที่ร้าน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความพิเศษของร้านเรา”

ด้าน ปณิธาน ย้ำอนาคตของ ‘KANORI Hand roll bar’ หลังจากนี้ในไตรมาส 3 มีแผนที่จะเปิดสาขาเพิ่ม โดยมองหาโลเคชันที่เป็นห้างสรรพสินค้าไฮเอนด์ในกรุงเทพฯ เป็นหลัก รวมถึงตามหัวเมืองใหญ่เพิ่มเติม เพื่อให้กลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นได้สัมผัสความอร่อย-สดใหม่ได้ครบถ้วนมากขึ้น ซึ่งผ่านมาสามารถสร้างรายได้กว่า 300 ล้านบาท และในปี 2568 ตั้งเป้าเติบโตเพิ่มขึ้นอีก 20% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

ทั้งนี้ ธุรกิจร้าน ‘KANORI Hand roll bar’ ดำเนินงานภายใต้บริษัท ไทยสากล เอสเตท จำกัด ซึ่งนอกจากร้านแฮนด์โรลแล้วยังมีธุรกิจอีกสามส่วน ได้แก่ Kay’s โดดเด่นเรื่องอาหารเช้าสไตล์บรันช์ Day by Kay’s โดดเด่นด้านเครื่องดื่มและเบเกอรี่ และโรงแรม K Maison โดดเด่นด้านการผสมผสานเอกลักษณ์ของท้องถิ่นเข้ากับความโมเดิร์นได้ลงตัว

kanori-hand-roll-bar-brand-marketing-SPACEBAR-Photo V01.jpg

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์