กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) เปิดตัวแคมเปญโฆษณาชุดใหม่ ‘ชีวิตที่อยากได้ ไม่เหมือนกัน’ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านโซลูชันทางการเงินที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลายด้วยความง่ายแบบ “ชีวิตง่าย ได้ทุกวัน” ต่อยอดความสำเร็จการสร้างแบรนด์อย่างยั่งยืนในการทำให้ ‘ความง่าย = กรุงศรี’ พร้อมเผยเทรนด์ผู้บริโภคไทยที่มีไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายและต้องการความง่ายที่แตกต่างกัน ทำให้คำว่า ‘ง่าย’ และ ‘อะไรก็ได้’ อาจไม่มีอยู่จริง ดังนั้นการตอบโจทย์ลูกค้าในยุคนี้จึงต้องมาจากความเข้าใจความซับซ้อนของลูกค้าเป็นสำคัญ ตั้งเป้าสู่การเป็นแบรนด์ที่ลูกค้าชื่นชอบและไว้วางใจ
ความสำเร็จต่อเนื่องจากการเป็นผู้บุกเบิก ‘เรื่องเงิน เรื่องง่าย’ สู่ ‘ชีวิตง่าย ได้ทุกวัน’
นางสาวมิ่งขวัญ พัฒนวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานบริหารแบรนด์และการตลาดองค์กร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและส่งผลกระทบต่อทุกแง่มุมของชีวิต ความง่าย หรือ Simplicity ยิ่งทวีความสำคัญและเป็นสิ่งที่ลูกค้ายิ่งมองหา ซึ่งหากมองย้อนกลับไปในช่วงปี 2011 ในเวลานั้นเรื่องการเงินอาจเป็นเรื่องยุ่งยากและซับซ้อนสำหรับหลายๆ คน
กรุงศรีจึงเป็นธนาคารแรกที่บุกเบิกสร้างความแตกต่างด้วยการทำให้เรื่องการเงินเป็นเรื่องง่าย ริเริ่มผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ออกสู่ตลาด พร้อมด้วยสโลแกนที่ทุกคนคุ้นเคยว่า ‘เรื่องเงิน เรื่องง่าย’ ซึ่งกรุงศรีใช้มาตลอดตั้งแต่ปี 2011-2022 จนกระทั่งในปี 2023 กรุงศรีได้ต่อยอด ‘ความง่าย’ ด้วยคำมั่นสัญญาและสโลแกนใหม่ ‘ชีวิตง่าย ได้ทุกวัน’ สอดคล้องกับบริบทปัจจุบันในการเป็นพันธมิตรที่มีเครือข่ายระดับโลก ส่งมอบความง่ายผ่านนวัตกรรมที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีชีวิตง่าย ตอกย้ำการสร้างแบรนด์ที่ทำให้ ‘ความง่าย = กรุงศรี’ มาตลอด
โดยก่อนหน้านี้ ในปี 2023 กรุงศรีได้ทำ Brand Refresh เปลี่ยนคำมั่นสัญญาและสโลแกนใหม่เป็น ‘ชีวิตง่าย ได้ทุกวัน’ ถือว่าประสบความสำเร็จในการเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ตามเป้าหมายได้เป็นอย่างดี ด้วยผลลัพธ์ที่น่าสนใจ ดังนี้
• 82% ของจำนวนลูกค้าใหม่ เป็นกลุ่มที่อยู่ในช่วงอายุ 15-35 ปี
• 73% ของผู้บริโภคอายุ 18-22 ปี และ 67% ของผู้บริโภคอายุ 23-29 ปี สามารถจดจำสโลแกนใหม่ ‘กรุงศรี ชีวิตง่ายได้ทุกวัน’
• การรับรู้แบรนด์เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 62%
ความสำเร็จดังกล่าวของกรุงศรี เกิดจากปัจจัยดังต่อไปนี้
1. การทำแคมเปญอย่างต่อเนื่อง ในช่วงแรกเน้นการสร้างการรับรู้การเปลี่ยนแปลงจาก ‘เรื่องเงิน เรื่องง่าย’ เป็น ‘ชีวิตง่าย ได้ทุกวัน’ มีการเปิดตัว Key Visual ภาพยนตร์โฆษณา และสร้างความต่อเนื่องในการสื่อสารผ่านช่องทางต่างๆ ตอกย้ำ Key Message สร้างการจดจำให้กับแบรนด์
2. Moment Planning Strategy โฟกัสที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ (Younger Generation) มากขึ้น โดยดูพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ จับโมเมนต์ของคนรุ่นใหม่มาใช้ในการสื่อสาร เช่น ความสนใจในศิลปะ ดนตรี คอนเสิร์ต ทำให้กรุงศรีเข้าไปอยู่ในโมเมนต์นั้นๆ เช่น บูธในงานคอนเสิร์ต การเป็นธนาคารแรกๆ ที่เข้าไปมีส่วนร่วมในเทศกาลศิลปะ Bangkok Design Week 2023 ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘กรุงสี by กรุงศรี’ (The City of Colours)
3. การสร้าง Excited Activities เช่น เซอร์ไพรส์แจกตั๋วรถไฟฟ้าที่สถานี MRT สามย่านให้ลูกค้าที่ไปร่วมคอนเสิร์ตสามารถเดินทางได้สะดวกและง่ายขึ้น หรือจัดรถแห่น้องกล้วยกรุงศรี และรถรับส่งผู้เข้าร่วมงานสงกรานต์ Samyan Water Street 2024 ที่ถนนสามย่าน กิจกรรมเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ตรงกับพฤติกรรมและความสนใจของคนรุ่นใหม่ ซึ่งนำไปสู่ Engagement และ Brand love
4. การผสมผสานระหว่าง Offline และ Onlineทั้ง On-ground activities และ Online activities เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่สามารถเป็น Content creator และสร้าง Voice ให้แบรนด์ได้ นอกจากนี้ On-ground activities ยังสามารถช่วยสร้าง Earned media ในโลกโซเชียลได้ด้วย ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ ‘น้องกล้วยกรุงศรี’ ที่สามารถสร้าง Voice ให้กับแบรนด์ และสร้าง Brand love ให้เกิดขึ้นไปด้วย
5. การขับเคลื่อนแบรนด์และวางกลยุทธ์ด้าน Social media ให้สอดคล้องกับ Brand commitment “ชีวิตง่าย ได้ทุกวัน” โดยนำ Brand characters ของแบรนด์กรุงศรี คือ Smart / Caring / Inspiring เป็นแกนในการนำเสนอ ให้ความสำคัญกับสิ่งที่เกี่ยวข้องหรือมีความสำคัญกับชีวิตผู้บริโภค (Focus on what matters) และทำคอนเทนต์ให้เข้าใจง่าย ย่อยง่าย และเข้าถึงง่าย ซึ่งรวมถึงการให้ความรู้ทางการเงินผ่านรายการ Krungsri The COACH และบทความในเว็บไซต์ของกรุงศรีอย่างต่อเนื่อง
“จากความสำเร็จดังกล่าว สะท้อนให้เห็นว่า การเดินทางของแบรนด์กรุงศรีในวันนี้มาถูกทาง และเราได้ต่อยอดสู่แคมเปญใหม่ในรอบนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อทำให้ ‘ความง่าย = กรุงศรี’ เข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภค และทำให้กรุงศรีสามารถตอบสนองความต้องการเรื่อง ‘ความง่าย’ ของผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง”
นางสาวมิ่งขวัญ กล่าว