ท่ามกลางบรรยากาศการค้าระหว่างประเทศที่เข้มข้น ‘นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร’ นำทัพผู้บริหารระดับสูงจากกระทรวงพาณิชย์ BOI และสถานทูตไทย ณ กรุงลอนดอน ร่วมประชุมกับภาคเอกชนรายใหญ่และผู้นำเข้าสินค้าไทยในอังกฤษ อาทิ Selfridges ห้างหรูขวัญใจผู้ดี, Thai Tana, Manning Impex ผู้นำเข้าอาหารเอเชียเจ้าใหญ่ ไปจนถึงเบียร์สัญชาติไทยอย่าง Singha และ Chang
สาระสำคัญของการหารือครั้งนี้อยู่ที่ 3 แกนหลัก “ขยายตลาด – ลดกำแพง – ปลุก Soft Power” โดยนายกฯ แพทองธาร เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าอาหาร เครื่องดื่ม ไลฟ์สไตล์ พร้อมดันแรงงานฝีมือไทย เช่น เชฟไทยและพนักงานนวดแผนไทย เข้าทำงานอย่างถูกกฎหมายในอังกฤษ ซึ่งเป็นอาชีพที่ได้รับความนิยมสูง
นอกจากนี้ ยังมีการผลักดันให้ไทย-อังกฤษเดินหน้าเจรจา ข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) เพื่อส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตร เช่น ไก่แปรรูป ข้าว ผลไม้แปรรูป และของปรุงรส พร้อมลดอุปสรรคทางภาษี และมาตรฐานที่เป็นข้อจำกัดในปัจจุบัน

ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ชี้ชัด สหราชอาณาจักรเป็น ‘คู่ค้าเบอร์ 4’ ของไทยในยุโรป ด้วยมูลค่าการค้ารวมกว่า 6,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยการส่งออกไทย โตสวน 7.06% โดยเฉพาะสินค้าอาหาร และที่ได้ชื่อว่าเป็นแชมป์คือ ‘ไก่แปรรูป’ มูลค่าเกือบ 810 ล้านเหรียญสหรัฐ รองลงมาคือของใช้-อัญมณี-รถยนต์ นอกจากนี้ สินค้าพวก “ข้าว อาหารทะเล ผลไม้กระป๋อง และเครื่องดื่ม” ก็ยังมีศักยภาพเติบโตได้อีกมหาศาลในตลาดนี้
นายกฯ ย้ำจุดยืนต้องการเห็น ‘พ่อครัว-แม่ครัวไทย’ และ ‘นักนวดแผนไทย’ ได้เข้าไปทำงานอย่างถูกกฎหมายในอังกฤษ เพื่อเติมเต็มแรงงานคุณภาพในสายบริการ พร้อมเปิดประตูให้ทุนไทยเข้าไปลงทุนอีกระลอกแบบไม่สะดุด

ประกาศ ไม่ใช่แค่เจรจาการค้า แต่คือปักธงเศรษฐกิจไทยยุคใหม่
ถือได้ว่า การเยือนอังกฤษของ ‘นายกฯ แพทองธาร’ ครั้งนี้ ไม่ใช่แค่ภารกิจทางการเมือง แต่คือการวางแนวเศรษฐกิจไทยในศตวรรษใหม่ที่เน้นทั้ง ‘คุณภาพสินค้า’ และ ‘คุณภาพคนไทย’ พร้อมใช้ซอฟต์พาวเวอร์นำหน้าเศรษฐกิจจริงจังในเวทีโลก
นายกรัฐมนตรีสั่งตรงถึง ‘ทีมประเทศไทย’ เร่งสร้างความร่วมมือทางการค้า-การลงทุนกับอังกฤษให้ ‘เห็นผลเชิงรูปธรรม’ ในเร็ววัน โดยตั้งเป้าให้ไทยเป็น ‘คู่ค้าที่อังกฤษต้องนึกถึง’ ในยุคเศรษฐกิจโลกเปลี่ยนหน้า
“ไทยจะไม่ใช่แค่ประเทศที่ผลิตของดี แต่จะเป็นประเทศที่ ‘กำหนดคุณค่า’ ของของดีในตลาดโลกได้เอง” นายกฯ แพทองธาร กล่าว
