แนวโน้มทองคำยังเป็นบวก YLG เปิด 3 ปัจจัยหลักหนุน - มองเป้าถัดไป $3,389

26 พ.ค. 2568 - 06:44

  • ทรัมป์เลื่อนขึ้นภาษียุโรป 50% จาก 1 มิ.ย. เป็น 9 ก.ค. สร้างความผันผวนทองคำระยะสั้น มองยุโรปแสดงท่าทีแข็งกร้าว ไม่ยอมเสียเปรียบสหรัฐฯ

  • หนี้สหรัฐพุ่งสูง มูดีส์ลดเครดิต ธนาคารกลางทั่วโลกหันถือทองแทนพันธบัตรสหรัฐ เสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ Q2-Q3

  • สงครามรัสเซีย-ยูเครนยังรุนแรง สหรัฐอาจใช้ "การช่วยยูเครน" ต่อรองการค้ากับยุโรป หนุนทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย

แนวโน้มทองคำยังเป็นบวก YLG เปิด 3 ปัจจัยหลักหนุน - มองเป้าถัดไป $3,389

วรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ YLG Bullion & Futures ชี้ทองคำมีโอกาสทำระดับสูงใหม่ หากไม่หลุดแนวรับ $3,337/ออนซ์ มองเป้าถัดไป $3,389

สงครามการค้าสหรัฐ-ยุโรป กระทบทองคำระยะสั้น

ประเด็นสำคัญที่ส่งผลต่อราคาทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมา คือการที่ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศขึ้นภาษียุโรป 50% ซึ่งเดิมกำหนดมีผลตั้งแต่ 1 มิถุนายน แต่สุดท้ายเลื่อนออกไปเป็น 9 กรกฎาคม ทำให้เกิดความผันผวนกับราคาทองคำ

วรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ YLG Bullion & Futures อธิบายว่า "สถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงการเจรจาลึกข้างในที่อาจยังไม่สามารถได้ข้อยุติและแนวทางในการคลี่คลายสถานการณ์ การออกมาขู่ว่าจะมีการจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้น แล้วสุดท้ายก็มีการยกหูโทรศัพท์คุยกันแล้วเลื่อนการจัดเก็บภาษีออกไป ซึ่งประเด็นส่งผลกระทบต่อราคาทองคำทำให้ทองย่อตัวในระยะสั้น"

สหภาพยุโรปแสดงท่าทีแข็งกร้าว

สัญญาณจากการเจรจาดังกล่าวทำให้ยังมองว่ากลุ่มสหภาพยุโรปที่ประกอบไปด้วยสมาชิก 17 ประเทศ ดูมีท่าทีแข็งกร้าวและไม่ยอมเสียเปรียบสหรัฐฯ

ผลกระทบต่อทองคำ: ประเด็นสงครามการค้ายังคงมีความผันผวน ทำให้ทองคำอาจมีการแกว่งตัวในระดับที่สูง แต่โดยรวมยังคงเป็นปัจจัยบวกกับราคาทองคำในระยะสั้น

เปิด 3 ปัจจัยหนุนทองบวกระยะยาว


1. หนี้สาธารณะสหรัฐฯ หนุนทองคำระยะยาว

ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งคือปัญหาหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ ที่ยังอยู่ในระดับสูง รวมถึงการที่มูดีส์ลดเครดิตและความพยายามในการร่างกฎหมาย One Big Beautiful Bill

วรุตชี้ว่า "หนี้สาธารณะของสหรัฐฯ ที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ยังเป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนกังวลและมองภาพของสถานะทางการคลังในฝั่งสหรัฐฯ ที่ค่อนข้างย่ำแย่"

ความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้

สถานการณ์นี้อาจทำให้เกิดความเสี่ยงในการโรลโอเวอร์เพิ่มสูงขึ้นในช่วงปลายไตรมาส 2 จนถึงต้นไตรมาส 3 ซึ่งอาจนำไปสู่การผิดนัดชำระหนี้ของตั๋วพันธบัตรรัฐบาลกลางสหรัฐ

ผลต่อธนาคารกลาง: ปัจจัยนี้ทำให้ธนาคารกลางต่างๆ ยังคงมีแนวโน้มถือครองทองคำในฐานะทุนสำรองระหว่างประเทศ แทนพันธบัตรรัฐบาลกลางสหรัฐ

2.ความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ ปัจจัยหนุนสินทรัพย์ปลอดภัย

สัปดาห์ที่ผ่านมามีประเด็นข่าวอิสราเอลจะโจมตีแหล่งพื้นที่นิวเคลียร์ของอิหร่าน รวมถึงการบุกหนักในพื้นที่ฉนวนกาซา ขณะเดียวกัน สงครามรัสเซีย-ยูเครนก็ยังคงรุนแรงอยู่

วรุตวิเคราะห์ว่า "ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนเป็นปัจจัยที่กระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ปัจจุบันคนที่รับผลกระทบจริงๆ คือกลุ่มสหภาพยุโรป"

3. ความเชื่อมโยงสงครามการค้า-ภูมิรัฐศาสตร์

การวิเคราะห์เผยให้เห็นความเชื่อมโยงระหว่างประเด็นสงครามการค้าและความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยสหรัฐอาจใช้ประเด็นการสนับสนุนยูเครนในการต่อรองสงครามการค้ากับสหภาพยุโรป


วรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ YLG Bullion & Futures
วรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ YLG Bullion & Futures


คำแนะนำการลงทุนทองคำ

ทองคำต่างประเทศ

  • แนวรับสำคัญ: $3,337/ออนซ์
  • แนวต้านแรก: $3,365/ออนซ์
  • เป้าหมายถัดไป: $3,389/ออนซ์

วรุตแนะนำว่า "การอ่อนตัวลงมาของทองคำในระดับจำกัด หากไม่หลุดแนวรับแรก มีลุ้นที่จะเห็นทองคำทำระดับสูงสุดใหม่จากระดับสูงสุดของสัปดาห์ที่ผ่านมา"

รูปแบบการเคลื่อนไหว: ทองคำมีการยกระดับสูงขึ้นมาเฉลี่ยวันละ 20 เหรียญในช่วง 3 วันทำการที่ผ่านมา (พุธ $3,324 → พฤหัส $3,345 → ศุกร์ $3,365)

ทองคำไทย

เงินบาทที่แข็งค่าค่อนข้างมากเป็นปัจจัยกดดันทองไทย โดยบาทแข็งค่ารวม 2 สัปดาห์ประมาณ 85 สตางค์

  • แนวรับ: 51,000 บาท/บาททอง
  • แนวต้านแรก: 51,900 บาท/บาททอง
  • เป้าหมาย: 52,250 บาท/บาททอง

ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตา

1. COVID-19 กลับมาระบาด

มีรายงานว่า COVID-19 ในจีนมีสถานการณ์รุนแรงเพิ่มมากขึ้น หากเกิดการระบาดซ้ำเติมกับวิกฤตสงครามการค้า อาจเป็น 'แบล็กสวอน' ที่กลับมาหนุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มเติม

2. นโยบายดอกเบี้ยเฟด

ธนาคารกลางสหรัฐยังคงส่งสัญญาณตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับปัจจุบัน หรืออาจปรับลดได้เพียง 1-2 ครั้งเท่านั้น ต้องจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐเพื่อคาดการณ์แนวโน้ม

3. ความผันผวนรายวัน

ทองคำยังคงมีการแกว่งตัวระหว่างวันในระดับประมาณ 60-70 เหรียญดอลลาร์ต่อออนซ์

สรุปแนวโน้มทองคำ

ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่าทองคำยังมีปัจจัยหนุนจากความไม่แน่นอนทางการเมือง เศรษฐกิจ และภูมิรัฐศาสตร์ แม้จะมีความผันผวนระยะสั้น แต่แนวโน้มโดยรวมยังเป็นบวก

นักลงทุนควรใช้กลยุทธ์ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวมาแตะแนวรับ และแบ่งขายทำกำไรเมื่อราคาขึ้นสู่แนวต้าน พร้อมจับตาปัจจัยพื้นฐานที่อาจส่งผลต่อทิศทางราคาในระยะข้างหน้า

 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์