‘พูดไปก็ไลฟ์บอยย์!’ คืออะไร? ยังจำกันได้ไหมกับวลีฮิตยุค 80s

28 เมษายน 2566 - 02:09

pood-pai-kor-life-boy-SPACEBAR-Thumbnail
  • เปิดประวัติความเป็นมาของวลีฮิตรุ่นเดอะ ‘พูดไปก็ไลฟ์บอยย์!’

  • อีกหนึ่งวลีที่อิงมาจากค่านิยมที่ว่า ‘ของราคาแพง = ดี ของราคาถูก = ไม่ดี’

‘พูดไปก็ไลฟ์บอยย์’ เดิมทีแล้วคำว่าไลฟ์บอยมาจากสบู่เก่าแก่ยี่ห้อหนึ่ง ที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอังกฤษ โดยคนไทยนิยมใช้กัน เป็นอย่างมาก ชื่อยี่ห้อ ‘ไลฟ์บอยย์’ (Lifebouy) โดยเริ่มจำหน่ายในราคา 2.50 บาท ต่อมาก็ได้มีคู่แข่งนำเข้าผลิตภัณฑ์สบู่จากสหรัฐอเมริกา ชื่อยี่ห้อ ‘เซฟการ์ด’ (Safeguard) ซึ่งมีราคาแพงกว่า หรูหรากว่า และมีคุณสมบัติที่ทันสมัยกว่า ตีตลาดเข้ามาในประเทศไทย จึงได้เกิดวลีแห่งยุคที่ว่า "พูดไปก็ไลฟ์บอยย์ นิ่งไว้ก็เซฟการ์ด" เป็นการเปรียบเปรยเหมือน “พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง”  
 
วลีนี้จึงหมายความทำนองว่า ‘พูดไปก็ไม่มีประโยชน์ นิ่งไว้เสียดีกว่า’ โดยได้เปรียบไลฟ์บอยเป็นสบู่ราคาถูกที่ไม่มีคุณค่า แต่เซฟการ์ดเป็นของแพงที่ถ้าอยู่นิ่งๆ โดยไม่พยายามก็จะได้มา แสดงให้เห็นถึงค่านิยมการชอบเปรียบเปรยเปรียบเทียบระหว่างของถูกกับของแพง ที่ผู้คนให้ค่ากับของราคาแพง มากกว่าของราคาถูก จนได้กลายเป็นวลีฮิตไปทั่วประเทศไทย ถึงกับมีเพลง ‘พูดไปก็ไลฟ์บอย - ไพจิตร อักษรณรงค์’ ปล่อยออกมาหลังจากนั้น  
 
 
 
และถึงแม้ชาวไทยจะมีค่านิยมที่ว่าของถูกเท่ากับไม่ดี แต่คุณรู้หรือไม่ว่า? สบู่ไลฟ์บอยย์เป็นสบู่เก่าแก่อายุกว่า 129 ปี โดยได้โลดแล่นอยู่ในวงการตลาดสบู่ประเทศไทยมานาน ด้วยสรรพคุณที่ว่ามีสาร ‘พูราลิน’ คอยป้องกันเหงื่อไคลได้นาน และกลายเป็นสินค้าขายดี ที่นิยมใช้ในครัวเรือน ก่อนจะได้ห่างหายจากตลาดไปนานกว่า 40 ปี จากการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นของกลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกาย และได้รีเทิร์นแบรนด์สบู่ไลฟ์บอยย์กลับมาใหม่ในปี 2563  
 
 
 
ซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยก็ยังคงมีวลีฮิตที่เอาไว้พูดกันเล่นแบบมันส์ๆ โก้ๆ ไม่ตกเทรนด์ อย่าง เต็มคาราเบล, งานไม่ใหญ่แน่นะวิ หรือล่าสุด โอ้โหเธอหวานเจี๊ยบ ที่เป็นการเล่นกับวัฒนธรรมหรือค่านิยมของผู้คนในสมัยนั้นๆ อาจจะเป็นคำที่ถูกสร้างขึ้นอย่างมีประโยชน์หรือไม่ก็ตาม แต่ก็แสดงให้เห็นถึงการใช้คำใช้ภาษาที่ลื่นไหล สร้างความสนุกสนาน โดยไม่จำเป็นต้องยึดติดอยู่กับกรอบ เปี่ยมไปด้วยความสร้างสรรค์ พร้อมเรียกร้อยยิ้มได้เสมอ  

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์