วงการวิดีโอเกมที่เราเติบโตมาดูห่างไกลจากคำว่า “เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” อีกทั้งอุตสาหกรรมนี้กลายเป็นหนึ่งในภาคธุรกิจที่สร้างมลพิษระดับโลก แต่ใครจะรู้ว่าในขณะเดียวกันวงการนี้ก็กำลังหาแนวทางพลิกเกมไปสู่ความยั่งยืน
เมื่อการเล่นเกมไม่ใช่แค่ความบันเทิง แต่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม
ผลการศึกษาหลายชิ้นเผยว่า อุตสาหกรรมวิดีโอเกมตั้งแต่การผลิตคอนโซล ชิ้นส่วน การขนส่ง จนถึงการเล่นเกมแบบคลาวด์ ต่างมีส่วนสร้างคาร์บอนฟุตพรินต์อย่างมหาศาล แม้แต่เกมดิจิทัลและระบบคลาวด์ก็ไม่ได้ปลอดภัยจากการก่อมลพิษ เนื่องจากต้องใช้ศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่และพลังงานมหาศาลในการให้บริการ ซึ่งส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมโดยตรง

โลกเปลี่ยนไป...เทคโนโลยีสีเขียวเตรียมเริ่มต้นใน “มือ” เกมเมอร์
ไม่นานมานี้มีข่าวดีว่า Sony ได้จดสิทธิบัตรใหม่เป็นคอนโทรลเลอร์เกมที่ติดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตย์ หรือ Photovoltaic Elements ที่ฝังในตัวอุปกรณ์เพื่อเปลี่ยนแสงแดดให้เป็นพลังงานไฟฟ้าและชาร์จเข้าสู่แบตเตอรี่ภายใน
สิ่งที่น่าสนใจคือ Sony ระบุว่าเทคโนโลยีนี้จะช่วยแก้ปัญหาคอนโทรลเลอร์ที่ต้องพึ่งพาการชาร์จไฟฟ้า หรือใช้พลังงานจากถ่านตลอดเวลา โดยเสนอทางเลือกเสริมที่ยั่งยืนมากขึ้น ผ่านการใช้พลังงานจากธรรมชาติ แม้จะดูเหมือนเป็นนวัตกรรมเล็กๆ แต่นี่คือตัวอย่างของการคิดนอกกรอบ ที่ไม่เพียงแค่ช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้า แต่ยังส่งสัญญาณให้เห็นว่าวงการเกมเองก็ไม่อยากตกขบวนการเปลี่ยนโลกไปสู่สีเขียว
ใครจะรู้ ไม่แน่สิทธิบัตรใหม่ของ Sony อาจเปลี่ยนแปลงวงการคอนโทรลเลอร์ไปตลอดกาล เพราะคอนโทรลเลอร์ที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์สามารถชาร์จตัวเองได้เมื่อสัมผัสแสง โดยไม่ต้องใช้แหล่งพลังงานภายนอก ซึ่งทำให้สะดวกและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
เกมอนาคต = เกมรักษ์โลก
แม้เส้นทางอาจยังอีกไกล แต่อุตสาหกรรมวิดีโอเกมก็กำลังพัฒนาไปสู่ความยั่งยืน ทั้งในแง่การผลิต วัสดุ การใช้พลังงาน และแนวคิดในการออกแบบผลิตภัณฑ์ ในอนาคตอันใกล้เราอาจได้เห็นคอนโซลที่ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล เกมที่มีคาร์บอนฟุตพรินต์ต่ำ หรือแม้แต่ระบบที่ชดเชยการปล่อยคาร์บอนโดยการปลูกต้นไม้ตามจำนวนชั่วโมงที่เล่นเกม
เพราะการเปลี่ยนแปลงไม่จำเป็นต้องใหญ่โตเสมอไป แค่เราเริ่มเล่นเกมอย่างมีจิตสำนึก ก็สามารถเปลี่ยนวงการเกมให้เป็นมิตรกับโลกใบนี้ได้แล้ว