ทุกวันที่ 3 มีนาคม โลกของเราจะร่วมเฉลิมฉลองวันสำคัญที่เชื่อมโยงระหว่างชีวิตมนุษย์กับธรรมชาติ ในชื่อ “วันสัตว์ป่าและพืชป่าโลก” หรือ World Wildlife Day แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าวันสำคัญระดับโลกนี้มีจุดเริ่มต้นที่ประเทศไทย
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2013 ในโอกาสครบรอบ 40 ปีของการกำเนิดอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) ณ กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 3-14 มีนาคม 2013 ประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพจัดการประชุม ได้เสนอขอความเห็นชอบในการกำหนดให้วันที่ 3 มีนาคม เป็นวันสัตว์ป่าและพืชป่าโลก ซึ่งตรงกับวันที่มีการลงนามรับรองอนุสัญญา CITES ที่กรุงวอชิงตัน เมื่อปี 1973
โดยครั้งนั้นที่ประชุมได้มีมติเอกฉันท์เห็นชอบ ก่อนที่สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 68 ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐฯ ได้ให้การรับรองและประกาศให้วันที่ 3 มีนาคมของทุกปี เป็น “วันสัตว์ป่าและพืชป่าโลก” หรือ “United Nations World Wildlife Day” เพื่อให้เป็นวันแห่งการเฉลิมฉลองและเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับสัตว์ป่าและพืชป่าโลก ตลอดจนร่วมตระหนักถึงคุณประโยชน์ของการอนุรักษ์สัตว์ป่าและพืชป่าที่มีต่อมวลมนุษยชาติ

จาก “การอนุรักษ์” สู่ “การลงทุน”
ปี 2025 นี้ โลกของเราฉลองครบรอบ 12 ปีวันสำคัญ ภายใต้แนวคิด “Wildlife Conservation Finance: Investing in People and Planet: การเงินสำหรับการอนุรักษ์สัตว์ป่าและพืชป่า ลงทุนเพื่อปกป้องมนุษยชาติและโลก” แนวคิดนี้นำเสนอมุมมองใหม่ในการมองการอนุรักษ์ธรรมชาติ-ไม่ใช่เพียงการปกป้อง แต่เป็นการ “ลงทุน” ที่จะให้ผลตอบแทนมหาศาลต่อทั้งมนุษย์และโลกของเรา
ทำไมเราควรสนใจเรื่องนี้?
“พื้นที่ป่าในประเทศไทยในช่วงร้อยปี หายไปจาก 71% เหลือเพียง 31% ของพื้นที่”
หนังสือ The Lost Forest ประวัติศาสตร์ (การทำลาย) สิ่งแวดล้อมไทยฯ โดย วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์
เมื่อพูดถึง “การลงทุนเพื่อการอนุรักษ์” หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว
...แต่ความจริงแล้ว การลงทุนในการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ คือการรักษาอนาคตของเราเอง
อากาศที่เราหายใจ มาจากป่าและพืชที่ทำหน้าที่เป็น “ปอด” ของโลก
น้ำสะอาด จำเป็นต้องมีระบบนิเวศที่สมดุล
ยารักษาโรคหลายชนิด พัฒนามาจากพืชในป่าธรรมชาติ
ความมั่นคงทางอาหารของเรา ต้องพึ่งพาผู้ผสมเกสร กับความอุดมสมบูรณ์ของดินและน้ำ

“ประชากรสัตว์ป่าทั่วโลกลดลงเฉลี่ย 73% ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา”
Living Planet Report
ปัจจุบันสัตว์ป่าและพืชป่ากำลังเผชิญกับภัยคุกคามรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการลดลงของถิ่นที่อยู่อาศัย การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การล่าสัตว์และค้าสัตว์ป่าอย่างผิดกฎหมาย รวมถึงการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างเกินขนาด โดยข้อมูลจากรายงานขององค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) พบว่า สัตว์ป่ากว่า 42,000 ชนิดทั่วโลกกำลังตกอยู่ในความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์
สำหรับประเทศไทยเองก็เผชิญกับปัญหานี้เช่นกัน โดยสัตว์ป่าหลายชนิด เช่น เสือโคร่ง ช้างป่า กระซู่ และนกเงือก ต่างอยู่ในสถานะที่ต้องได้รับการอนุรักษ์อย่างเร่งด่วน
สิ่งที่เราทุกคนช่วยกันทำได้
วันสัตว์ป่าและพืชป่าโลก ไม่ใช่แค่วันที่พวกเราจะชื่นชมความงดงามของธรรมชาติ แต่ยังเป็นโอกาสที่เราจะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการ “ลงทุน” เพื่ออนาคตร่วมกัน ด้วยสนับสนุนองค์กรที่ทำงานด้านการอนุรักษ์ ปรับเปลี่ยนการบริโภคให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เรียนรู้และแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพ ร่วมกิจกรรมอาสาสมัครฟื้นฟูระบบนิเวศในท้องถิ่น
ในโอกาสครบรอบ 12 ปีของวันสัตว์ป่าและพืชป่าโลก (United Nations World Wildlife Day) SPACBAR VIBE เชื่อว่าเราทุกคนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการ “ลงทุน” ที่มีความหมายที่สุด ร่วมลงทุนเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนของโลกใบนี้ โลกที่เราทุกคนเรียกว่า “บ้าน” จากหนึ่งสมองและสองมือน้อยๆ ของเราทุกคน เพราะ One Power ที่เข้มแข็งนี่แหละของจริง

หากไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร? อยากให้อ่าน อุ่นเครื่องก่อนกู้โลก ความจริงและเรื่องตลกที่ไม่ขำ พร้อมพบกับสาระความรู้แบบสนุกๆ ได้ที่ คอนเทนต์ซีรีส์ : ฮาวทูกู้โลกรวน แล้วจะรู้ซึ้งถึงปัญหา พร้อมพบทางแก้ง่ายๆ แบบที่ปุถุชนคนธรรมดาก็กลายเป็น “ฮีโร่” ได้เหมือนกัน