Top10 เมืองยั่งยืนโลก GDS-Index 2024 “สงขลา” ยืนหนึ่งตัวตึงจากไทยคว้าที่ 3 ในเอเชีย

1 พ.ย. 2567 - 07:04

  • “เฮลซิงกิ” แชมป์โลกป้ายแดง เมืองที่มีความยั่งยืนที่สุดในโลก GDS-Index 2024

  • เป้าหมายที่ชัดเจนของเฮลซิงกิ หลังรัฐสภาฟินแลนด์ผ่านกฎหมายว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

  • “สงขลา” ยืนหนึ่งตัวตึงของไทย คว้าอันดับ 3 ในเอเชีย และอันดับที่ 34 ของโลก

gds-index-2024-songkhla-thailand-SPACEBAR-Hero.png

เป็นที่ติดตามทุกปี สำหรับดัชนีความยั่งยืนของจุดหมายปลายทางทั่วโลก หรือ The Global Destination Sustainability Index (GDS-Index) ซึ่งเป็นการจัดอันดับเมืองที่มีความเป็นเลิศในเรื่อง “การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ตามเกณฑ์ที่มีรากฐานมาจากหลักปฏิบัติซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ หรือ Sustainable Development Goals (SDGs) ที่มีทั้งหมด 17 เป้าหมาย   

โดยในปี 2024 ได้มีการนำเสนอเกณฑ์ใหม่ใน 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ การจัดการสิ่งแวดล้อม สังคม ซัพพลายเออร์ และจุดหมายปลายทาง ซึ่งการปรับปรุงเหล่านี้ทำให้ GDS-Index เป็นเครื่องมือที่เข้มงวดมากขึ้น เพื่อเตรียมจุดหมายปลายทางให้พร้อมรับมือกับความท้าทายที่สำคัญ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ และปัญหาสังคมที่รุนแรงมากขึ้นจากกฎหมายที่ล้าหลัง

gds-index-2024-songkhla-thailand-SPACEBAR-Photo-V02.jpg
Photo: Top 10 จุดหมายปลายทางที่มีความยั่งยืนที่สุดในโลก ปี 2024 (GDS-Index 2024)

Top 10 จุดหมายปลายทางที่มีความยั่งยืนที่สุดในโลก ปี 2024

  1. เฮลซิงกิ ฟินแลนด์ > 92.43%
  2. โกเธนเบิร์ก สวีเดน > 90.83%
  3. โคเปนเฮเกน เดนมาร์ก > 88.19%
  4. เบอร์เกน เดนมาร์ก > 86.49%
  5. อาร์ฮุส เดนมาร์ก > 85.68%
  6. บอร์โดซ์ ฝรั่งเศส > 83.37%
  7. สิงคโปร์ > 83.37%
  8. ออสโล นอร์เวย์ > 83.26%
  9. เบลฟาสต์ ไอร์แลนด์เหนือ > 83.14%
  10. ซิดนีย์ ออสเตรเลีย > 83.13%

“เฮลซิงกิ” แชมป์โลกใหม่ เป้าหมายชัดเจน

แม้จะเป็นครั้งแรกที่เฮลซิงกิได้ขึ้นครองตำแหน่งแชมป์โลก โดยล่าสุดได้ 92.43% ขึ้นจาก 90.49% ในปี 2023 แซงหน้าโกเธนเบิร์ก ประเทศสวีเดน ซึ่งเคยครองอันดับสูงสุดมาก่อน แต่เมืองนี้และอีกหลายเมืองในประเทศฟินแลนด์ ก็เป็นผู้นำแนวคิดเรื่องความยั่งยืนที่ล้ำสมัยในยุโรปตอนเหนือ นอกจากนี้ เฮลซิงกิยังขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยและมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงาม

gds-index-2024-songkhla-thailand-SPACEBAR-Photo01.png
Photo: เฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ แชมป์โลกเมืองที่มีความเป็นเลิศในเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืน ประจำปี 2024

เป้าหมายที่ชัดเจนของเฮลซิงกิ สอดคล้องกับที่รัฐสภาของฟินแลนด์ได้ผ่านกฎหมายว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่ประกาศใช้ในปี 2022 โดยให้คำมั่นว่าจะบรรลุการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2035 และการปล่อยคาร์บอนเป็นลบ (Carbon Negative) ภายในปี 2040 โดยวางระบบจราจรยั่งยืน อาคารประหยัดพลังงาน เน้นผลิตพลังงานสะอาด เศรษฐกิจอัจฉริยะและเศรษฐกิจหมุนเวียน การท่องเที่ยวและอีเวนต์ที่เป็นมิตรกับโลก ซึ่งทั้งหมดมีผลผูกพันตามกฎหมาย

gds-index-2024-songkhla-thailand-SPACEBAR-Photo02.png
Photo: สิงคโปร์ ผู้นำการพัฒนาเมืองยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

จุดหมายปลายทางที่มีความยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก 

สิงคโปร์ เป็นผู้นำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่ดำเนินการตามแผน Green Plan 2030 โดยเดินหน้าเปลี่ยนสิงคโปร์ให้เป็นหนึ่งในพื้นที่สีเขียวของโลก และเป็นไปตามข้อตกลงปารีสที่กำหนดให้นครรัฐบรรลุเป้าหมายยุติการปล่อยมลพิษในระยะยาวเพื่อคุณภาพชีวิตและอนาคตที่ยั่งยืน โดย GDS-Index ปีนี้อยู่ที่ 83.37% ขณะที่อันดับที่ 2-5 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ได้แก่ ซิดนีย์ 83.13%, โกยาง เกาหลีใต้ 78.90%, เมลเบิร์น 76.61% และบริสเบน 75.23% ตามลำดับ 

“สงขลา” ยืนหนึ่งในไทย คว้าอันดับ 3 ในเอเชีย และอันดับ 34 ของโลก 

มาที่ทวีปเอเชียและประเทศไทยกันบ้าง จากรายงานของ GDS-Index 2024 พบว่าในทวีปเอเชีย 3 อันดับแรก ได้แก่ 

อันดับที่ 1 ประเทศสิงคโปร์

อันดับที่ 2 เมืองโกยาง ประเทศเกาหลีใต้

อันดับที่ 3 จังหวัดสงขลา ประเทศไทย (อันดับที่ 34 ของโลก)

gds-index-2024-songkhla-thailand-SPACEBAR-Photo03.png
Photo: เงือกทอง แหลมสมิหลา จ.สงขลา

โดยจังหวัดสงขลาได้ 74.89% ด้วยศักยภาพในฐานะเมืองไมซ์ที่มุ่งเน้น “การพัฒนาอย่างยั่งยืน” จาก Global Destination Sustainability Index ผ่าน 4 ตัวชี้วัด ประกอบด้วย 

  • สิ่งแวดล้อมของเมือง (City Environmental Performance)
  • สังคมของเมือง (City Social Performance)
  • ความสามารถของการให้บริการ (Supplier Performance)
  • การจัดการจุดหมายปลายทาง (Destination Management Performance)

ด้วยความได้เปรียบทางด้านภูมิศาสตร์ ทำให้จังหวัดสงขลาติดอันดับเมืองที่มีความยั่งยืนระดับโลก มีทะเลและเส้นทางท่องเที่ยวเชิงนิเวศลุ่มน้ำสงขลาที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ มีความหลากหลายทางชีวภาพ ผสานกับการมีวัฒนธรรมท้องถิ่นที่เก่าแก่ 

นอกจากนี้ เกาะหมาก จังหวัดตราด, บ้านห้วยปูแกง จังหวัดแม่ฮ่องสอน และวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวสาปยา จังหวัดชัยนาท ยังเคยได้รับรางวัลแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน 100 แห่งของโลก ที่จัดโดย Green Destinations Foundation ณ กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ในปี 2022 และล่าสุดกับรางวัล Green Destinations Top 100 Stories ปี 2024 ที่ประเทศไทยคว้ามาอีก 6 สถานที่ท่องเที่ยวยั่งยืน

เรียกว่าประเทศไทยมาถูกทาง และกำลังเร่งสร้างศักยภาพด้านความยั่งยืน เสริมความเชื่อมั่นที่จะเป็นจุดหมายปลายทางในการท่องเที่ยวยั่งยืนซึ่งเป็นเทรนด์โลกอยู่ในขณะนี้และปีต่อๆ ไป

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์