MY PRIDE THAILAND จาก 50 คาแรกเตอร์สู่แบรนด์-ยอดขาย

‘MY PRIDE THAILAND’ จุดพลุเศรษฐกิจสร้างสรรค์! เปิดตัวคาแรกเตอร์ดีไซน์ไทยร่วมสมัยกว่า 50 ตัวแทน “ตัวตนหลากหลาย” ไม่ใช่แค่เพื่อความสวยงาม แต่กลายเป็น "เครื่องมือการตลาด" ที่สร้างยอดขายจริงให้แบรนด์ไทย ขยายภาพลักษณ์ประเทศไทยในสายตาโลก

แคมเปญ ‘MY PRIDE THAILAND’ เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว เมื่อ 28 พ.ค.68 ณ ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) กรุงเทพฯ โดยเป็นความร่วมมือระหว่างสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA), สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และซอฟต์พาวเวอร์ (CISPI), สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และ Pink Blue Black & Orange (PBBO) แคมเปญนี้มีเป้าหมายในการส่งเสริมอัตลักษณ์ไทยและความหลากหลายทางวัฒนธรรมผ่านการออกแบบคาแรกเตอร์มากกว่า 50 แบบ มุ่งใช้ ‘ความหลากหลาย’ เป็นจุดแข็งทางเศรษฐกิจ ผ่านการออกแบบชุดคาแรกเตอร์ที่สะท้อนอัตลักษณ์ไทยที่ทันสมัย ครอบคลุมทั้ง LGBTQ+, ชนกลุ่มน้อย, วิถีชีวิตท้องถิ่น ไปจนถึงสัญลักษณ์ร่วมสมัยของไทย

กิจกรรมหลักของแคมเปญนี้คือการจัดแสดงคาแรกเตอร์ที่สะท้อนความหลากหลายและความเป็นไทยในพื้นที่ต่างๆ ของกรุงเทพมหานคร รวมถึงการนำคาแรกเตอร์เหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ในผลิตภัณฑ์และบริการของไทย เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์และสร้างภาพลักษณ์ประเทศไทยในฐานะประเทศที่เปิดกว้างและยอมรับความหลากหลาย

นอกจากนี้ แคมเปญ ‘MY PRIDE THAILAND’ ยังเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองเทศกาล Pride Month ซึ่งจัดขึ้นในเดือนมิถุนายนของทุกปี โดยในปี 2568 นี้ มีกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Pride Month จัดขึ้นทั่วประเทศ รวมถึงงาน Bangkok Pride Festival 2025 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 พฤษภาคม ถึง 1 มิถุนายน 2568 บนถนนพระรามที่ 1

จากดีไซน์สู่รายได้ ส่งความสำคัญทางเศรษฐกิจ

กว่า 10 แบรนด์ไทย เช่น S&P, Koh-Kae, Ichitan, Rabbit Card และสายสีรุ้ง BTS นำคาแรกเตอร์ MY PRIDE ไปใช้บนสินค้าและแคมเปญจริง โดยสินค้าบางรายการ ยอดขายพุ่งขึ้นทันที 20-30% โดยเฉพาะกลุ่มของที่ระลึกและสินค้าสำหรับนักท่องเที่ยว จะเห็นได้ว่า ร้านค้าท้องถิ่นในเชียงใหม่ ภูเก็ต และกรุงเทพฯ เริ่มใช้ลวดลาย MY PRIDE สร้างจุดขายใหม่ พัฒนาเป็นซอฟต์พาวเวอร์ และใช้เป็นส่วนหนึ่งของการนำเสนอประเทศไทยในเวที World Pride 2030

คาดว่า MY PRIDE THAILAND จะกระตุ้น การจับจ่ายของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นกว่า 4,500 ล้านบาท และหากไทยได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพ World Pride 2030 จะดึงเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้สูงถึง 24,000 ล้านบาท เพิ่มโอกาสการส่งออกสินค้าไทยที่มีความโดดเด่นด้านดีไซน์ และคุณค่าเชิงวัฒนธรรม

เสียงจากผู้เกี่ยวข้อง

ดร. ชาคริต พิชญางกูร ผู้อำนวยการ CEA กล่าวว่า ‘MY PRIDE THAILAND’ ไม่ใช่เพียงงานเฉลิมฉลอง Pride Month แต่เป็นเครื่องมือทางเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ที่จะผลักดันให้ผลงานออกแบบกลายเป็นพลังทางเศรษฐกิจระดับชาติ สร้างแบรนด์ไทยใหม่ที่เปิดกว้าง เท่าเทียม และน่าจดจำในระดับสากล

ชุดคาแรกเตอร์ในแคมเปญออกแบบโดย ‘สยาม อัตตะริยะ’ ดีไซเนอร์ไทยระดับโลก โดยผสมผสานความเป็นไทย เช่น ภูเขาทอง รถเข็นก๋วยเตี๋ยว พญานาค กับสีสันสดใสที่แสดงถึงความภาคภูมิใจในความเป็นตัวเองและการอยู่ร่วมกันอย่างเท่าเทียม ชุดภาพกราฟิกนี้เปิดโอกาสให้ทั้ง SME แบรนด์ไทย และองค์กรชั้นนำ นำไปต่อยอดเชิงธุรกิจ เช่น การออกแบบผลิตภัณฑ์ การตลาด หรือจัดกิจกรรมในชุมชนได้อย่างสร้างสรรค์

“MY PRIDE ไม่ใช่แค่แคมเปญเดือนมิถุนายน แต่คือเครื่องมือเศรษฐกิจที่ใช้ได้ทั้งปี” ดร.ชาคริต พิชญางกูร ผู้อำนวยการ CEA กล่าว

พิมพ์ใจ ลี้อิสสระนุกูล รองประธาน ส.อ.ท. และประธาน CISPI เสริมว่า กลุ่ม LGBTQ+ และผู้มีความหลากหลายทางอัตลักษณ์เป็นพลังสำคัญในระบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ การสร้างอัตลักษณ์แบรนด์ชาติที่สะท้อนความยอมรับและการอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืน จะช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรม การค้า และการท่องเที่ยวในระยะยาว โดยข้อมูลในปี 2567 พบว่ากิจกรรม Pride Month มีผู้เข้าร่วมกว่า 860,000 คน สร้างรายได้กว่า 4,500 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนศักยภาพทางเศรษฐกิจที่เติบโตขึ้นจากการเปิดรับความหลากหลาย

ขณะเดียวกัน TCEB ได้ประกาศสนับสนุนโครงการอย่างเป็นทางการ พร้อมเตรียมเสนอตัวประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงาน World Pride 2030 ซึ่งคาดว่าจะสร้าง GDP เพิ่มกว่า 24,000 ล้านบาท และดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกกว่า 1 ล้านคน โดยจะใช้ชุดอัตลักษณ์ MY PRIDE เป็นเครื่องมือหลักในการสื่อสารและส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศไทยในฐานะเมืองไมซ์และศูนย์กลางวัฒนธรรมที่เปิดกว้างระดับโลก

ปาริฉัตร เศวตเศรนี ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาการจัดงานเมกะอีเวนท์และเทศกาลนานาชาติ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB กล่าวเสริมว่า TCEB  ในฐานะหน่วยงานหลักที่ส่งเสริมการจัดงานไมซ์และอีเวนท์ของประเทศไทย TCEB จะเดินหน้าส่งเสริมการขับเคลื่อนแคมเปญนี้ ผ่านการสนับสนุนการจัดงานขององค์กรไพรด์ทั่วประเทศ

ไม่ใช่เพียง ‘การสนับสนุน’ แต่ยังรวมถึง ‘การเป็นส่วนหนึ่ง’

ทั้งนี้ ในการออกแบบภาพสื่อสารหลัก (Key Visual) ของงานออกแบบอัตลักษณ์ (MY PRIDE Campaign Identity) หรือย่อว่า MY PRIDE CI ไม่ได้ตั้งต้นจากการคิดถึงกำไรในเชิง ‘มูลค่า’ แต่คือการตระหนักถึง ‘คุณค่า’ ของทุกตัวตนเป็นหัวใจสำคัญ รวมถึงคุณค่าของงานออกแบบ โดยผู้ประกอบการหรือผู้ที่สนใจสามารถนำชุุดอัตลักษณ์ ‘MY PRIDE’ ไปประยุกต์ใช้ในการสร้างคุณค่าและมูลค่าในภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาคธุรกิจและการท่องเที่ยว

เป้าหมายระยะยาว คือ การส่งเสริมการท่องเที่ยว ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศ และสร้างภาพลักษณ์ประเทศไทยในฐานะประเทศที่ ‘เปิดกว้าง’ และ “ภาคภูมิใจในความหลากหลายในทุกมิติ” บนเวทีโลก พร้อมผลักดันนโยบายซอฟต์พาวเวอร์และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทยผ่านการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนให้ก้าวไปได้ไกลและยั่งยืนยิ่งขึ้น แคมเปญนี้ได้ผนึกกำลังพันธมิตรกว่า 10 แบรนด์ ต่อยอดสินค้าใหม่ที่ใช้คาแรกเตอร์ไทยสุดจี๊ด ที่นำชุดอัตลักษณ์ ‘MY PRIDE’ ไปต่อยอดเชิงพาณิชย์

“เราเห็นลูกค้าแชร์สินค้าที่มีคาแรกเตอร์ MY PRIDE มากกว่าสินค้าปกติ นี่แหละคือแบรนด์ดิ้งที่คนรู้สึกเป็นเจ้าของร่วม” ปาริฉัตร กล่าว

แก่นแท้ของ MY PRIDE THAILAND

คือการเปลี่ยน ‘ความหลากหลาย’ ให้เป็น ‘คุณค่าเชิงเศรษฐกิจ’ โดยไม่ต้องใช้เงินทุนมหาศาล แต่อาศัย “การออกแบบ” และ “การเปิดกว้างทางวัฒนธรรม” เป็นตัวขับเคลื่อน

ดังนั้น MY PRIDE THAILAND จึงไม่ใช่แค่แคมเปญเฉลิมฉลอง แต่คือกรณีศึกษาของการใช้ ‘ตัวตน’ สร้าง ‘ยอดขาย’ และปั้น ‘ซอฟต์พาวเวอร์ไทย’ ให้เติบโตอย่างยั่งยืน