AIS ยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนห่างไกล

17 มิ.ย. 2568 - 01:23

  • ยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนห่างไกล

  • ดึงศักยภาพ AIS ACADEMY ไทยคม และ AIS 3BB FIBRE3

  • ขยายโอกาส สร้างความเท่าเทียมทางดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง

AIS ยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนห่างไกล

AIS – GULF - สวพส. สานต่อภารกิจโครงการ Green Energy Green Network for THAIs พลังงานสะอาดเชื่อมเครือข่ายเพื่อคนไทย ปีที่ 2 หลอมรวมพลังระหว่างภาคเอกชนและภาครัฐ ขยายโครงสร้างพื้นฐานทั้งโครงข่ายอัจฉริยะและพลังงานสะอาดเพื่อชุมชนห่างไกลในพื้นที่สูงอย่างต่อเนื่อง พร้อมดึงศักยภาพบริษัทในเครือเอไอเอส ทั้ง AIS ACADEMY ไทยคม และ AIS 3BB FIBRE3 ร่วมต่อยอดเสริมพลังองค์ความรู้ดิจิทัล สัญญาณดาวเทียม และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เพื่อขยายโอกาสการเข้าถึงพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีดิจิทัล สร้างความเท่าเทียม และยกระดับคุณภาพชีวิตให้ชุมชนห่างไกลอย่างยั่งยืน

สายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าหน่วยธุรกิจประชาสัมพันธ์และงานธุรกิจสัมพันธ์ AIS ในฐานะผู้ให้บริการโครงข่ายดิจิทัลชั้นนำของไทย กล่าวว่า การทำให้ทุกพื้นที่ของประเทศไทยสามารถเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลเป็นหนึ่งในภารกิจที่ AIS ให้ความสำคัญมาโดยตลอด เพราะเราเชื่อว่าเมื่อผู้คนสามารถติดต่อสื่อสาร เข้าถึงสัญญาณอินเทอร์เน็ต และเชื่อมโยงถึงกันได้ นั่นคือ “โอกาส” ที่จะตามมาอย่างมหาศาลในหลายมิติ ทั้งการศึกษา รับรู้ข่าวสาร ที่จะช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคน โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลให้ดียิ่งขึ้น จึงเป็นที่มาของการสานต่อโครงการฯ ในปีที่ 2 ซึ่งเราดึงศักยภาพของบริษัทในเครือ ไม่ว่าจะเป็น AIS ACADEMY ในการต่อยอดการเรียนรู้ที่ไร้ขอบเขตด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศและแพลตฟอร์มห้องสมุดดิจิทัล ให้เยาวชนในพื้นที่ดังกล่าวได้เข้าถึงความรู้อย่างเท่าเทียม รวมถึงเสริมกำลังด้วยอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ของ AIS 3BB FIBRE3 ไปยังพื้นที่ที่เป็นจุดศูนย์กลางของชุมชน เช่น โรงเรียน ศูนย์การเรียนรู้ หรือจุดบริการสาธารณสุข เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงบริการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานโดยเฉพาะการสื่อสาร

economic-business-thai-ais-gulf-SPACEBAR-Photo03.jpg

นอกจากนี้ ยังมี กัลฟ์ ที่ช่วยติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อผลิตพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ และไทยคม ที่ให้การสนับสนุนสัญญาณอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านดาวเทียมและโซลูชันด้านเทคโนโลยีอวกาศในพื้นที่ห่างไกล และเมื่อนำมาผนวกกับความร่วมมือจาก สวพส. ในการคัดเลือกและลงพื้นที่ต่างๆ จึงทำให้โครงการดังกล่าว ขยายความสำเร็จไปสู่พื้นที่ต่างๆ ได้อย่างตรงจุด อีกทั้งยังช่วยเปิดโลกทางการศึกษา การค้าขาย และสร้างประโยชน์ให้กับคนในชุมชมได้นำไปต่อยอดสู่อาชีพที่มั่นคงและสร้างความฝันที่เป็นจริงได้

“ด้วยพลังความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งโครงข่ายอัจฉริยะ – พลังงานสะอาด – ภาครัฐอย่างเต็มกำลังนี้ จะทำให้ภารกิจ Green Energy Green Network for THAIs สามารถเดินหน้าสร้างประโยชน์ให้แก่สังคมได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมเป็นต้นแบบของภาคธุรกิจไทยในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาสร้างโอกาส ลดความเลื่อมล้ำ นำพาผู้คน เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ให้เติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว”

นอกจากการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานแล้ว โครงการดังกล่าวยังได้ดำเนินการประเมินผลตอบแทนทางสังคมอย่างเป็นรูปธรรมผ่านงานวิจัยภายใต้กรอบ Social Return on Investment (SROI) ซึ่งชี้ให้เห็นถึงคุณค่าและมูลค่าที่ส่งคืนสู่ชุมชน เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมได้อย่างแท้จริง โดยผลลัพธ์ของงานวิจัยจะถูกนำไปใช้ขับเคลื่อนการพัฒนาร่วมกันเฉพาะในแต่ละพื้นที่ห่างไกลได้อย่างยั่งยืนและเป็นรูปธรรมในมิติต่างๆ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ Green Energy Green Network for THAIs ที่นอกจากลงทุนด้านพลังงานสะอาดแล้ว ยังปูรากฐาน “เครือข่ายสร้างโอกาส” ที่เติบโตบนพื้นฐานของการพัฒนาอย่างยั่งยืน ครอบคลุมทั้งคน ชุมชน และสิ่งแวดล้อมด้วย

economic-business-thai-ais-gulf-SPACEBAR-Photo02.jpg

สำหรับ “โครงการ Green Energy Green Network for Thais พลังงานสะอาดเชื่อมเครือข่ายเพื่อคนไทย” ครั้งล่าสุดได้จัดทำที่ชุมชนมอโก้โพคี และชุมชนบ้านดอกไม้สด ต.แม่อุสุ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ถือว่าชุมชนห่างไกล เข้าไม่ถึงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน อยู่ห่างจากตัวอำเภอท่าสองยาง 3 - 4 ชั่วโมง

ผลการศึกษา

 ผลผลิต

·     ติดตั้งแผง Solar Cell ในสถานที่สาธารณะประโยชน์ จำนวน 3 จุด ได้แก่ โรงเรียนบ้านหนองบัว (สาขาบ้านดอกไม้สด) โรงสีกาแฟชุมชน และ สสช.บ้านดอกไม้สด 

·     ติดตั้งสถานีฐานสัญญาณมือถือ จำนวน 2 จุด ในชุมชนบ้านดอกไม้สดและบ้านมอโก้โพคี มีผู้เข้าถึงสัญญาณโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ต จำนวน 560 หลังคาเรือน (100%) 

·     ติดตั้งระบบกรองน้ำสะอาด จำนวน 1 จุด ที่โรงเรียนบ้านหนองบัว (สาขาบ้านดอกไม้สด) นักเรียนได้รับการบริโภคน้ำสะอาด 65 คน ครูและบุคลากร 10 คน รวม 75 คน

·     ประชาชนในชุมชนมอโก้โพคี ได้รับความรู้ด้านการส่งเสริมการแปรรูปผลิตภัณฑ์กาแฟ  จำนวน 10 คน

·     ประชาชน (ผู้นำด้านดิจิทัล) ของทั้งสองชุมชน ได้รับความรู้ด้านดิจิทัลเบื้องต้น จำนวน 35 คน 

·     ประชาชนได้รับความรู้การอยู่ร่วมกับป่าอย่างยั่งยืนผ่านการส่งเสริมการปลูกพืชชนิดอื่นทดแทน จำนวน 2 ครั้ง 

ผลลัพธ์ด้านเศรษฐกิจ  

·     ในชุมชนมอโก้โพคี การติดตั้งโรงคั่วกาแฟพร้อมระบบพลังงานแสงอาทิตย์ช่วยให้ชาวบ้านสามารถเพิ่มมูลค่าผลผลิตกาแฟ ลดการพึ่งพาพ่อค้าคนกลาง และเปิดช่องทางการตลาดออนไลน์ ส่งผลให้เกิดรายได้ที่มั่นคงมากขึ้น

·     บ้านดอกไม้สดแม้ยังไม่มีธุรกิจเฉพาะทาง แต่สามารถเข้าถึงสื่อดิจิทัลเพื่อเรียนรู้แนวทางอาชีพใหม่ ๆ 

economic-business-thai-ais-gulf-SPACEBAR-Photo01.jpg

 ผลลัพธ์ด้านสังคม  

·       ช่วยให้นักเรียนสามารถเข้าถึงสื่อการเรียนออนไลน์

·       ครูสามารถใช้เทคโนโลยีในการเตรียมการสอนและพัฒนาวิชาชีพอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

·       เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสามารถใช้การสื่อสารออนไลน์ในการติดตามผู้ป่วย 

·       เจ้าหน้าที่สาธารณสุขประสานงานกับโรงพยาบาลแม่ข่ายได้ทันท่วงที ช่วยลดระยะเวลาการส่งต่อ 

·       หน่วยบริการสุขภาพสามารถเบิกค่าชดเชยบริการสาธารณสุขได้เพิ่มขึ้น

·       ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในการให้บริการด้านสุขภาพแก่ผู้ป่วย (เครื่องพ่นยา, ตู้เย็นสำหรับยาและเวชภัณฑ์เย็น วัคซีน) 

·       ประชาชนสามารถเข้าถึงสวัสดิการของภาครัฐผ่านระบบออนไลน์ได้เพิ่มขึ้น

ผลลัพธ์ด้านสิ่งแวดล้อม 

·       แม้ยังมีการเผาซังข้าวโพดในพื้นที่ทั้งสองชุมชน แต่พบแนวโน้มที่ประชาชนเริ่มตระหนักและมีความสนใจในการเปลี่ยนแปลงไปสู่พืชเศรษฐกิจอื่นที่ไม่ต้องใช้การเผา เช่น กาแฟหรือพืชปลอดการเผาอื่นๆ ซึ่งเป็นผลจากการเข้าถึงข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตและการให้ความรู้ของโครงการ 

ผลลัพธ์ด้านเทคโนโลยีและการสื่อสาร  

·       ประชาชนสามารถสื่อสารได้อย่างสะดวก ลดการเดินทางขึ้นภูเขาเพื่อหาสัญญาณโทรศัพท์ 

economic-business-thai-ais-gulf-SPACEBAR-Photo04.jpg

ด้านผู้บริหารบริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF กล่าวว่า การนำความรู้ ความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจมาเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม ตลอดจนสร้างคุณค่าร่วมให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนเป็นสิ่งที่ GULF ให้ความสำคัญมาโดยตลอด อย่างในโครงการ Green Energy Green Network for THAIs ที่ได้ผนึกกำลังกับ AIS และ สวพส. ทำให้ในปีที่ผ่านมา GULF สามารถติดตั้งและส่งมอบพลังงานไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์เพื่อเชื่อมต่อระบบเครือข่ายสัญญาณดิจิทัลไปแล้วกว่า 30 กิโลวัตต์ใน 6 ชุมชนของประเทศไทย ช่วยให้ผู้คนในพื้นที่ห่างไกลกว่า 4,000 คน เข้าถึงบริการโครงสร้างขั้นพื้นฐาน เพิ่มโอกาสทางการศึกษา ระบบสาธารณสุข และที่สำคัญยังเกิดการต่อยอดพัฒนาด้านอาชีพ นำไปสู่การสร้างงาน รายได้ ยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนที่ยั่งยืน 

ในปีนี้ GULF มีความมุ่งมั่นที่จะสานต่อภารกิจในปีที่ 2 ร่วมกับพันธมิตรทุกภาคส่วนตลอดจนพันธมิตรใหม่ๆ เพื่อขยายผลโครงการอย่างต่อเนื่อง อย่างที่บ้านดอยเวียง อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ โดย GULF ได้ผนึกกำลังกับทั้ง AIS และ THAICOM ในการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อผลิตพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ให้แก่ศูนย์การเรียนรู้ของชุมชนชาวไทยภูเขาแม่ฟ้าหลวงบ้านดอยเวียง ทั้งเป็นระบบไฟฟ้าสำหรับระบบสื่อสารผ่านสัญญาณอินเตอร์เน็ตและสัญญาณดาวเทียม THAICOM ทำให้เด็กๆ และเยาวชนในศูนย์การเรียนรู้ฯ เข้าถึงองค์ความรู้ใหม่ๆ สร้างโอกาสด้านการศึกษา ขณะเดียวกันยังเชื่อมต่อระบบเครือข่ายสัญญาณ AIS ทำให้ผู้คนสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ เข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล และบริการโครงสร้างขั้นพื้นฐาน รวมถึงได้ก่อสร้างโรงเรือนสำหรับการสีกาแฟที่ติดตั้งระบบไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ จัดซื้อเครื่องสีกาแฟมอบให้แก่ชุมชน เพื่อให้ชาวบ้านสามารถแปรรูปกาแฟ และต่อยอดไปสู่การสร้างแบรนด์กาแฟของชุมชน เป็นการสร้างอาชีพและรายได้ที่มั่นคง ความร่วมมือในครั้งนี้ จึงไม่ใช่แค่การเข้ามาติดตั้งและส่งมอบโครงสร้างพื้นฐานเท่านั้น แต่เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน ทำให้ทุกภาคส่วนเติบโตไปด้วยกัน ทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมอีกด้วย

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์