ไฟเบอร์ไม่ได้ดีแค่ลำไส้ งานวิจัยล่าสุดชี้ช่วยลด ‘สารเคมีอมตะ’ ในร่างกาย

20 พ.ค. 2568 - 06:47

  • งานวิจัยล่าสุดเผยแนวโน้มเชิงบวกต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม พบการกินไฟเบอร์มากขึ้นอาจช่วยลด “สารเคมีอมตะ” สะสมในร่างกายมนุษย์

คนชอบกินผักมีเฮ เมื่อมีงานวิจัยใหม่จากฝั่งสหรัฐฯ พบว่าการกินไฟเบอร์ไม่ได้แค่ดีต่อระบบขับถ่าย แต่กำลังกลายเป็น “เครื่องมือธรรมชาติ” ที่ช่วยมนุษยชาติรับมือกับสารพิษที่มองไม่เห็นอย่าง PFAS ได้ด้วย 

ผลการศึกษาล่าสุด จัดทำโดยทีมนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยบอสตัน นำโดยศาสตราจารย์เจนนิเฟอร์ ชเลซิงเกอร์ พบว่า การบริโภคไฟเบอร์ (ใยอาหาร) ในปริมาณที่มากขึ้น อาจช่วยลดระดับของสารเคมีอันตรายที่ตกค้างในร่างกายมนุษย์อย่าง “สารเคมีตลอดกาล” หรือ PFAS (Per and Polyfluoroalkyl Substances) ได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยถือเป็นความหวังใหม่ในด้านสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และแนวทางการดูแลร่างกายด้วยวิธีธรรมชาติที่เข้าถึงได้ง่าย และที่สำคัญคือราคาไม่แพง

โดยระบุว่า ไฟเบอร์สามารถช่วยลดระดับของ PFAS สองชนิดที่พบมากที่สุด ได้แก่ PFOS และ PFOA ซึ่งถือเป็นสารเคมีที่มีความเสถียรสูง ย่อยสลายยาก และสามารถสะสมในร่างกายได้นานหลายปี

“เรากำลังอยู่ระหว่างการทดลองเพิ่มเติม แต่ผลลัพธ์เบื้องต้นแสดงแนวโน้มที่น่าพอใจ โดยเฉพาะความเป็นไปได้ในการใช้วิธีธรรมชาติที่ต้นทุนต่ำและเข้าถึงง่าย”

ศาสตราจารย์เจนนิเฟอร์ ชเลซิงเกอร์ กล่าว

PFAS: สารเคมีที่ไม่สลายและผลกระทบที่ซ่อนเร้น

สารเคมีอมตะ (PFAS) เป็นกลุ่มสารเคมีกว่า 15,000 ชนิด ที่ถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมหลากหลาย เช่น ภาชนะกันน้ำ เสื้อผ้ากันคราบ บรรจุภัณฑ์อาหาร และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เนื่องจากคุณสมบัติทนต่อน้ำ คราบ และไขมัน

อย่างไรก็ตาม ความเสถียรของ PFAS กลับกลายเป็นปัญหาใหญ่ เนื่องจากสารเหล่านี้ไม่สามารถย่อยสลายตามธรรมชาติได้ ส่งผลให้ตกค้างในสิ่งแวดล้อมและเข้าสู่ห่วงโซ่อาหาร นอกจากนี้ การวิจัยในระดับนานาชาติยังเชื่อมโยงสารเคมีกลุ่มนี้กับผลกระทบทางสุขภาพหลายประการ เช่น มะเร็ง ความผิดปกติแต่กำเนิด ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง คอเลสเตอรอลสูง และโรคไต

ข้อมูลจากสำนักงานพิทักษ์สิ่งแวดล้อมสหรัฐฯ (EPA) ยังระบุว่า แทบทุกคนในสหรัฐฯ มีสาร PFAS ตกค้างในเลือด โดยสารบางชนิด เช่น PFOS และ PFOA อาจมีครึ่งชีวิตในร่างกายมนุษย์นานถึง 5 ปี ซึ่งหมายความว่า ร่างกายอาจใช้เวลาหลายสิบปีกว่าจะขับออกจนหมด

fiber-may-help-reduce-the-body-pfas-SPACEBAR-Photo01.jpg

กลไกของใยอาหารต่อการดักจับ PFAS

นักวิจัยอธิบายว่าใยอาหารทำงานโดยการสร้างเจลในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งสามารถขัดขวางการดูดซึมของ PFAS ผ่านผนังลำไส้ กลไกนี้คล้ายกับกระบวนการที่ไฟเบอร์ช่วยดักจับกรดน้ำดีและขับออกทางอุจจาระ

กรดน้ำดีและ PFAS สายยาวมีโครงสร้างคล้ายกัน โดย PFAS สามารถเคลื่อนไปกับกรดน้ำดีสู่ลำไส้ ดังนั้น กลไกของใยอาหารที่ช่วยกำจัดกรดน้ำดี จึงอาจช่วยในการขับ PFAS ออกนอกระบบทางเดินอาหารด้วย

ไฟเบอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด คือไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำ และไม่ละลายน้ำ รวมถึงเบต้ากลูแคนจากข้าวโอ๊ต ซึ่งควรบริโภคร่วมกับมื้ออาหารเพื่อให้ได้ผลลัพธ์สูงสุด

ผลกระทบต่อการกำหนดนโยบายและสุขภาพสาธารณะ

แม้ว่างานวิจัยจะยังอยู่ในระยะเริ่มต้น โดยใช้กลุ่มตัวอย่างขนาดเล็ก แต่ผลที่ได้เปิดประตูไปสู่การพัฒนากลยุทธ์เชิงป้องกันที่สามารถนำไปใช้ในวงกว้าง ทั้งในระดับบุคคลและระดับนโยบายสาธารณสุข

ที่ผ่านมา มีการทดลองใช้ยาลดคอเลสเตอรอล เช่น Cholestyramine เพื่อช่วยลดระดับ PFAS ในร่างกาย แต่พบว่ามีผลข้างเคียงเรื่องการขับถ่ายมากกว่าไฟเบอร์ธรรมชาติ อีกทั้งการใช้ไฟเบอร์ยังส่งเสริมสุขภาพโดยรวม และสามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ทันที

fiber-may-help-reduce-the-body-pfas-SPACEBAR-Photo02.jpg

ผักผลไม้อะไรให้ไฟเบอร์สูง

สำหรับผักผลไม้ที่อุดมด้วยกากใยไฟเบอร์สูง อาทิ

  1. กลุ่มถั่ว (Nut) เช่น ถั่งแดง ถั่วเขียว ถั่วลิสง เมล็ดทานตะวัน อัลมอนด์ เมล็ดฟักทอง
  2. กลุ่มธัญพืช (Grain) ธัญพืชไม่ขัดสีทุกชนิด ข้าวกล้องดอย ข้าวหอมนิล ข้าวสินเหล็ก
  3. กลุ่มผัก (Vegetable) แครอท ข้าวโพด บล็อคโคลี ผักโขม
  4. กลุ่มผลไม้ (Fruit) มะละกอ กล้วย ส้ม แอปเปิ้ล อะโวคาโด ฝรั่ง มะม่วง

ความหวังจากธรรมชาติท่ามกลางวิกฤตสิ่งแวดล้อม

จากสถานการณ์การปนเปื้อน PFAS ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ทั้งจากโรงงานอุตสาหกรรม สนามบิน ฐานทัพ หรือแหล่งน้ำ การศึกษานี้ชี้ให้เห็นถึงความหวังที่เรียบง่ายและปลอดภัย ว่าพฤติกรรมการบริโภคสามารถกลายเป็นเครื่องมือช่วยลดผลกระทบระยะยาวต่อสุขภาพ

ในขณะที่การควบคุมการใช้ PFAS ในภาคอุตสาหกรรมยังต้องอาศัยมาตรการเชิงกฎหมายและแรงกดดันจากประชาคมโลก การสร้างทางเลือกในการป้องกันที่ต้นทางผ่านอาหารจึงเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่สามารถทำควบคู่กันได้ เพื่อให้เกิดความยั่งยืนทั้งในระดับบุคคลและระบบนิเวศโดยรวม

ทั้งนี้ งานวิจัยนี้ตอกย้ำว่า “อาหารเป็นยา” ที่ดีที่สุด และการบริโภคใยอาหารไม่ได้ช่วยแค่ระบบย่อยอาหาร แต่ยังเป็นแนวทางป้องกันมลพิษทางเคมีที่ซับซ้อนได้อีกด้วย

ในสถานการณ์ที่โลกยังไม่สามารถควบคุม PFAS ได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิธีธรรมชาติที่ทุกคนเข้าถึงได้อย่าง “การกินไฟเบอร์” อาจเป็นคำตอบเรียบง่ายแต่ทรงพลัง ในการดูแลสุขภาพของทั้งมนุษย์และสิ่งแวดล้อม

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์