แกร็บ ผู้นำซูเปอร์แอปในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เผยข้อมูลและตัวเลขที่สะท้อนความสำเร็จของการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมในปีที่ผ่านมา ผ่าน “รายงานความยั่งยืนประจำปี 2567” (ESG Report 2024)
โดยมีไฮไลท์สำคัญ ได้แก่ การเปิดโอกาสให้คนขับและผู้ประกอบการร้านค้า-ร้านอาหารสร้างรายได้ผ่านแพลตฟอร์มแกร็บรวมกว่า 1.28 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 4.2 แสนล้านบาท) การส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงินด้วยการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการรายย่อยและคนขับรวมกว่า 2.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 7.2 หมื่นล้านบาท) การผลักดันการใช้ยานยนต์พลังงานสะอาดซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากถึง 128,000 ตัน รวมถึงการชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอีกกว่า 936,000 ตันผ่านการจัดซื้อคาร์บอนเครดิต
จันต์สุดา ธนานิตยะอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า เรามุ่งมั่นพัฒนาแพลตฟอร์มให้เป็นพื้นที่สร้างรายได้ที่มั่นคงและเข้าถึงได้สำหรับทุกคนในสังคม พร้อมเดินหน้าเป็นกำลังสำคัญในการสนับสนุนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ

“แกร็บ (Grab) ช่วยสร้างรายได้รวมกว่า 4.2 แสนล้านบาท ให้กับคนขับและผู้ประกอบการร้านค้า-ร้านอาหารทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพิ่มขึ้น 16% จากปีก่อนหน้า คนขับกว่า 99% มีรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงไม่ต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำ ของแต่ละประเทศ สะท้อนบทบาทของแกร็บในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากอย่างเป็นรูปธรรม แกร็บยังสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งทุนให้กับกลุ่มผู้ขับขี่และผู้ค้ารายย่อย ด้วยวงเงินสินเชื่อรวมกว่า 7.2 หมื่นล้านบาท ในปีที่ผ่านมา โดยมีผู้ค้าหน้าใหม่กว่า 600,000 รายเข้าร่วมแพลตฟอร์ม สร้างคำสั่งซื้อในบริการ GrabFood และ GrabMart คิดเป็นสัดส่วนถึง 67%” จันต์สุดา กล่าว
สำหรับประเทศไทย รายงานระบุว่า แกร็บมีส่วนในการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจถึง 1.79 แสนล้านบาทต่อปี หรือประมาณ 1% ของ GDP ประเทศ นอกจากนี้ แกร็บยังลงทุนในมาตรการสร้างความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม เช่น การผลักดันรถยนต์ไฟฟ้า (EV) การปลูกต้นไม้กว่า 200,000 ต้น และโครงการชดเชยคาร์บอนที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกกว่า 1 ล้านตันในภาพรวม
