SET Index อาจมี technical rebound หลังเข้าโซน oversold แต่ยังคงถูกชี้นำด้วยสถานการณ์อิหร่าน-อิสราเอล ขณะที่ปัจจัยลบในประเทศยังคงกดดัน โดยเฉพาะปัญหากับกัมพูชาและความไม่แน่นอนทางการเมือง
มงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.ดาโอ (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ (17 มิ.ย.68) คาดว่าดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสเกิด Technical Rebound ได้ในระยะสั้น หลังเข้าสู่ภาวะ Oversold แต่ยังต้องจับตาสถานการณ์สงครามตะวันออก กลางอย่างใกล้ชิด ซึ่งยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ชี้นำทิศทางตลาด ขณะที่ปัจจัยลบในประเทศยังคงกดดันอยู่เช่นเดิม
ตลาดยังมีความผันผวนจากหลายปัจจัย ทั้งแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศ ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิหร่านและอิสราเอล ซึ่งล่าสุดมีสัญญาณเชิงบวกจากฝั่งอิหร่านที่ต้องการเจรจา แม้ยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ ส่งผลให้ตลาดต่างประเทศเริ่มฟื้นตัว โดยดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้นเกือบ 1% ส่วนราคาทองคำและน้ำมันยังเคลื่อนไหวผันผวนตามข่าวสงคราม
ปัจจัยต่างประเทศที่น่าจับตา
มงคล กล่าวว่า การประชุม FOMC ซึ่งเริ่มต้นในวันนี้ คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ด้าน Bloomberg Economics คาดว่า Fed อาจส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปี 2568 โดยการตัดสินใจของ Fed อาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยสงครามและนโยบายการค้าระหว่างประเทศ และการประชุม BOJ ที่จะมีขึ้นวันนี้เช่นกัน อาจส่งผลต่อทิศทางเงินทุนเคลื่อนย้ายในภูมิภาค
ปัจจัยในประเทศ
• สถานการณ์การเมืองยังคงเป็นปัจจัยที่ตลาดจับตา โดยเฉพาะเสถียรภาพของรัฐบาล หลังเกิดกระแสข่าวเกี่ยวกับการปรับ ครม. และความเคลื่อนไหวของพรรคร่วมรัฐบาล
• ปัญหาข้อพิพาทกับกัมพูชายังสร้างแรงกดดันต่อกลุ่มหุ้นที่มีรายได้ในกัมพูชา โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและสนามบิน เช่น AOT
• ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งยุติการฟื้นฟูกิจการของ การบินไทย (THAI) คาดว่าจะกลับเข้าเทรดในตลาดหุ้นช่วงปลาย ก.ค. ถึงต้น ส.ค. นี้
ความเคลื่อนไหวดัชนี SET50 / SET100
ตลาดฯ ประกาศรายชื่อหุ้นเข้า-ออกจากดัชนี SET50 และ SET100 มีผลวันที่ 1 ก.ค. 2568 โดยในกลุ่ม SET50 หุ้นเข้าใหม่ เช่น BCP, KKP, TCAP, TIDLOR ขณะที่หุ้นที่ถูกถอดออก เช่น BGRIM, GLOBAL, ITC, SAWAD ซึ่งตลาดมองว่าไม่เซอร์ไพรส์ เนื่องจากราคาหุ้นมีแนวโน้มปรับตัวอยู่แล้ว
กลยุทธ์การลงทุน
สำหรับกลยุทธ์ในการลงทน มงคล กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางอาจคลี่คลายเร็วกว่าคาด แต่ยังมีความไม่แน่นอน นักลงทุนควร ชะลอการลงทุน และเน้น เก็งกำไรหุ้นที่ปรับลงแรง จากข่าวสงครามในระยะสั้น เช่น MINT, BCP, TOP, SCC, PTTGC
• หุ้นกลุ่ม Domestic Play และ ICT ยังน่าสนใจ โดยเฉพาะ SCB, KBANK, CPALL, ADVANC, GULF
• หุ้นที่จ่ายปันผลระหว่างปี (Interim Dividend) และมีผลตอบแทนสูง ได้แก่ PTT, PTTEP, ADVANC
• พอร์ตการลงทุนแนะนำล่าสุด ได้แก่ SCB (10%), PTTEP (10%), ADVANC (10%)
มุมมองทางเทคนิค
มงคล แนะนำให้ติดตามสัญญาณทางเทคนิคในหุ้น GULF และ MTC ซึ่งมีแนวโน้มฟื้นตัวทางเทคนิคหลังถูกขายมากเกินไปในระยะสั้น