โอกาสครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–จีน ไม่ได้เป็นเพียงหมุดหมายของประวัติศาสตร์สองประเทศเท่านั้น หากยังเป็นเวทีสะท้อนความร่วมมือที่ลึกซึ้งทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และมิตรภาพของผู้คน โดยหนึ่งในบทพิสูจน์สำคัญที่ถักทอความสัมพันธ์นี้อย่างต่อเนื่อง คือ การเดินทางของ ‘กลุ่มธุรกิจ TCP’ เจ้าของแบรนด์ ‘เรดบูล’ ผู้บุกเบิกตลาดเครื่องดื่มให้พลังงานในจีน และผู้สานต่อความเชื่อมโยงระหว่างสองวัฒนธรรมจากรุ่นสู่รุ่น
ย้อนกลับไปในปี 2536 เมื่อเศรษฐกิจจีนกำลังเปลี่ยนผ่านสู่ยุคเปิดประเทศนั้น เฉลียว อยู่วิทยา ผู้ก่อตั้งกลุ่มธุรกิจ TCP ได้วางรากฐานแบรนด์ ‘หงหนิว’ (Red Bull เวอร์ชันจีน) อย่างเข้าใจหัวใจผู้บริโภคท้องถิ่น ทั้งในด้านภาษา วัฒนธรรม และพฤติกรรม ด้วยวิสัยทัศน์ยาวไกลที่ไม่เพียงเน้นยอดขาย แต่สร้างแบรนด์ให้เป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตชาวจีน จนกลายเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มฟังก์ชันแนวหน้าที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศ

สราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP กล่าวว่า เรดบูลในประเทศจีนไม่ใช่แค่ผลิตภัณฑ์ แต่คือพลังงานของความหวัง ความมุ่งมั่น และแรงผลักดันของผู้คนรุ่นใหม่ ทั้งสตรีมเมอร์ คนทำงานออฟฟิศ ไรเดอร์ หรือผู้ขับขี่ระยะไกล เราภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งของจังหวะเศรษฐกิจจีนที่เติบโตอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งยังยืนหยัดสนับสนุนไลฟ์สไตล์ที่เปี่ยมพลังของคนรุ่นใหม่
ความสำเร็จนี้เกิดขึ้นบนรากฐานของการลงทุนเชิงกลยุทธ์ต่อเนื่อง โดย TCP ได้ขยายฐานการผลิตที่ทันสมัยในหลายเมือง เช่น เน่ยเจียง (เสฉวน) และหนานหนิง (กว่างซีจ้วง) เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตสู่กว่า 1.4 พันล้านกระป๋องต่อปี รองรับความต้องการที่เติบโต พร้อมนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภครุ่นใหม่ เช่น Red Bull Vitamin Flavored Drink และบรรจุภัณฑ์แบบขวด PET ที่ตอบรับวิถี ‘on-the-go’

นอกเหนือจากมิติธุรกิจ กลุ่มธุรกิจ TCP ยังมีบทบาทเป็น ‘ทูตวัฒนธรรม’ เชื่อมโยงหัวใจของสองแผ่นดิน ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เช่น เทศกาลไทยในปักกิ่ง, Thai Musical Festival, ความร่วมมือกับ Forbidden City Culture เพื่อผลิต Red Bull รุ่นพิเศษปีมังกร ตลอดจนการสนับสนุนกิจกรรมกีฬาและวิ่งมาราธอนชื่อดังในจีน รวมถึงการร่วมเฉลิมฉลองโอกาสเยือนประเทศไทยของเรือตัดน้ำแข็ง ‘เสว่หลง 2’ เพื่อเสริมสร้างเวทีการแลกเปลี่ยนวิทยาศาสตร์ระหว่างประเทศ

การเดินทางตลอดกว่า 3 ทศวรรษของ TCP ในประเทศจีน จึงไม่ใช่เพียงแค่การขยายตลาด แต่คือบทพิสูจน์ถึงพลังของความเข้าใจ วางรากลึกบนมิตรภาพ และเติบโตเคียงข้างกันด้วยหัวใจของ “พี่น้องบ้านใกล้เรือนเคียง” พร้อมเขียนประวัติศาสตร์บทใหม่ในอีก 50 ปีข้างหน้า เพื่อสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนให้ทั้งสองสังคมอย่างแท้จริง
