ในยุคที่โลกต้องเผชิญกับวิกฤตโลกร้อนและปัญหาขยะล้นเมือง หนึ่งในขยะที่มักถูกมองข้ามแต่ส่งผลกระทบไม่น้อยก็คือ ‘ชุดชั้นในเก่า’ ซึ่งมักผลิตจากวัสดุโพลิเมอร์ที่ย่อยสลายยาก โดยใช้เวลานานกว่า 400 ปีในการย่อยสลาย ขยะชิ้นเล็กๆ ที่ถูกทิ้งทุกปีเหล่านี้ กำลังกลายเป็นทางออกใหม่ด้านพลังงานสะอาด ด้วยการเปลี่ยน ‘ของทิ้ง’ ให้กลายเป็น ‘เชื้อเพลิงทดแทน’
เบื้องหลังแนวคิดนี้ คือกระบวนการ Waste-to-Energy (WTE) ซึ่งนำชุดชั้นในเก่ามาเผาทำลายในระบบปิด (Zero Waste) ที่ควบคุมมลพิษอย่างเข้มงวด โดยโรงงานของ บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPP จังหวัดสระบุรี เป็นหนึ่งในโรงงานที่รับหน้าที่นี้ พลังงานความร้อนที่เกิดจากการเผาไหม้จะถูกนำไปผลิตไฟฟ้า แทนการใช้ถ่านหินหรือน้ำมัน ส่งผลให้ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และฝุ่น PM 2.5 ได้อย่างเป็นรูปธรรม
จากข้อมูลของเว็บไซต์ populationpyramid.net พบว่า ผู้หญิงไทยวัย 10-69 ปี มีมากกว่า 31 ล้านคน หากมีการทิ้งชุดชั้นในเก่าเฉลี่ยคนละ 2 ตัวต่อปี จะเท่ากับมีขยะพลาสติกจากชุดชั้นในเพิ่มขึ้นถึง 6,203 ตันต่อปี นี่คือเหตุผลสำคัญที่ ‘วาโก้’ แบรนด์ชุดชั้นในชั้นนำของไทย เดินหน้าขับเคลื่อนโครงการ “วาโก้บราเดย์ บราเก่าเราขอ” มาอย่างต่อเนื่องจนเข้าสู่ปีที่ 14
นงลักษณ์ เตชะบุญเอนก กรรมการบริหารสายงานสื่อสารองค์กรและกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ WACOAL กล่าวว่า โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นในการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยรับบริจาคชุดชั้นในเก่าทุกแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นของผู้หญิงหรือผู้ชาย นำไปกำจัดอย่างถูกวิธี และแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานสะอาด ช่วยลดการพึ่งพาทรัพยากรจากฟอสซิล
ความพิเศษในปีนี้คือ การเพิ่มช่องทางอำนวยความสะดวกแก่ผู้บริจาค โดยสามารถส่งชุดชั้นในเก่าผ่านบริการของ ไปรษณีย์ไทย และ เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ได้ฟรี โดยไม่จำกัดจำนวนครั้งหรือจำนวนพัสดุ ทำให้คนไทยในทุกพื้นที่สามารถเข้าถึงโครงการได้ง่ายยิ่งขึ้น
ในปี 2567 ที่ผ่านมา โครงการสามารถรวบรวมชุดชั้นในเก่าได้ถึง 210,000 ตัว และตั้งเป้าไว้ที่ 300,000 ตัว ในปี 2568 เพื่อให้บรรลุเป้าหมายลดขยะสิ่งทอในชุมชน และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
ชวนทุกคนมาเปลี่ยนของที่เคยเป็น ‘ขยะ’ ให้กลายเป็น ‘พลังงาน’ เพื่อโลกใบนี้
ดร.วราภรณ์ ข้องเกี่ยวพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานกลยุทธ์และการขับเคลื่อนองค์กร บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า การเข้าร่วมในโครงการปีนี้ถือเป็นปีที่ 3 ด้วยจุดบริการไปรษณีย์ไทยที่มีครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการจัดส่งชุดชั้นในเก่าเพื่อบริจาคให้กับโครงการ ซึ่งในปีแรกมีผู้ร่วมโครงการจัดส่งชุดชั้นในเก่าทางไปรษณีย์ไทยมากถึง 208 กิโลกรัม และ 14,772 กิโลกรัมในปีที่ผ่านมา
ลิลลี่ เฉิน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ประเทศไทย กล่าวว่า การร่วมมือกับวาโก้ในครั้งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการใช้ศักยภาพด้านบริการจัดส่งที่มีทั่วประเทศมาสนับนุนกิจกรรมที่มีเป้าหมายในการลดขยะและใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิด ESG ที่เรายึดถือมาเสมอ แม้ว่าสิ่งที่กำลังทำกันอยู่อาจจะเป็นเพียงส่วนเล็กๆ แต่หากทุกคนร่วมมือกันก็อาจช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้กับสิ่งแวดล้อมได้
ทั้งนี้ เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส มีเครือข่ายที่เข้าถึงทุกพื้นที่ ครอบคลุม 928 อำเภอทั่วประเทศไทย รวมถึงความพร้อมของสาขาในการให้บริการขนส่งและการทำงานของทีมที่มีประสิทธิภาพ
ผู้ร่วมโครงการสามารถแพ็กชุดชั้นในเก่าทั้งหญิงและชายทุกแบรนด์ ลงกล่องหรือซองพลาสติกที่เป็นบรรจุภัณฑ์ที่ถูกต้องในการส่งพัสดุภัณฑ์ตามข้อกำหนดของไปรษณีย์ และมีน้ำหนักไม่เกิน 5 กิโลกรัมต่อ 1 ชิ้นพัสดุ ไม่จำกัดจำนวนชิ้นหรือจำนวนครั้ง นำมาจัดส่งได้ฟรีที่ ไปรษณีย์ไทย หรือ เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ทุกสาขาทั่วประเทศ
โดยส่งถึง โครงการวาโก้บราเดย์ บราเก่าเราขอ บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) 132 ซอยเจริญราษฎร์ 7 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ 10120 ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน – 31 ตุลาคม 2568 และสามารถบริจาคได้ตลอดทั้งปี ที่วาโก้ช็อปและเคาน์เตอร์วาโก้ทุกสาขาทั่วประเทศ รวมถึงกล่องรับบริจาคตามสถานที่ต่างๆ
