‘มรดกแห่งโบราณกาล’ หวนคืนสู่แผ่นดินไทย

ประติมากรรมสำริดรูปพระศิวะ (The Standing Shiva) หรือ Golden Boy และประติมากรรมรูปสตรีพนมมือ (The Kneeling Female) มรดกทางศิลปวัฒนธรรมชิ้นสำคัญของชาติ ได้หวนคืนสู่แผ่นดินไทยอย่างเป็นทางการ หลังสูญหายไปเป็นเวลานานกว่า 50 ปี ด้วยเหตุถูกลักลอบขุดและขโมยออกนอกประเทศ  

ตัวแทนพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน (The Metropolitan Museum of Art: The MET) แห่งนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ได้นำโบราณวัตถุทั้ง 2 รายการ บินข้ามน้ำข้ามทะเลมามอบให้กับ สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และผู้บริหารกรมศิลปากร โดยมีพิธีรับมอบ ณ พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ภายหลังทั้งสองฝ่ายได้มีการประสานกันเรื่อยมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 กระทั่งพิพิธภัณฑ์ฯ ได้ส่งโบราณวัตถุกลับคืนถึงประเทศไทย เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา

สำหรับ Golden Boy เป็นรูปพระศิวะสวมเครื่องทรงแบบบุคคลชั้นสูง มีความสูง 129 เซนติเมตร ใช้เทคนิคการสร้างแบบพิเศษ โดยหล่อด้วยสำริดและกะไหล่ทอง มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 16 ขณะที่ปรากฏหลักฐานว่า ถูกลักลอบขุดค้นจากปราสาทบ้านยาง หรือปราสาทบ้านยางโป่งสะเดา ต.ตาจง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ และมีการลักลอบซื้อขายออกไปโดยผิดกฎหมายในปี 2518

ส่วนประติมากรรมสตรีพนมมือ มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 16 เช่นกัน มีความสูง 43 เซนติเมตร หล่อด้วยสำริด มีร่องรอยการประดับด้วยโลหะเงินและทอง

กรมศิลปากร เตรียมเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปเข้าชมความงามของโบราณวัตถุทั้ง 2 รายการ พร้อมเคลื่อนย้ายประติมากรรมสำริดขนาดใหญ่ ที่ขุดพบจากปราสาทสระกำแพงใหญ่ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งมีรูปแบบใกล้เคียงกับประติมากรรม Golden Boy จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิมาย มาจัดแสดงร่วมกันที่ห้องลพบุรี อาคารมหาสุรสิงหนาท พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคมนี้ เป็นต้นไป

อ่านเพิ่มเติม: ใครคือ ‘ดักลาส แลทช์ฟอร์ด’ เจ้าพ่อโบราณวัตถุมีเอี่ยวลักลอบซื้อขายรูปปั้น ‘Golden Boy’