อัยการสั่งฟ้อง ‘กำนันนก’ พร้อม 23 ตร.-พลเรือน ในคดียิง ‘สารวัตรแบงค์’

30 พ.ย. 2566 - 11:53

  • อัยการสั่งฟ้อง ‘กำนันนก’ จ้างวานฆ่า ‘สารวัตรแบงค์’

  • พร้อมสั่งฟ้อง 23 กลุ่มตำรวจ-พลเรือน ฐานละเว้นการฏิบัติหน้าที่-ทำลายหลักฐาน

  • อดีตผู้กำกับ สน.พญาไท กับพวก ไม่โดนสั่งฟ้อง ‘ละเว้นปฏิบัติหน้าที่’

Prosecutor-orders-no-charges-against-5-police-officers-case-shooting-death-of-police-SPACEBAR-Hero.jpg

คดี พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือ ‘สารวัตรแบงค์’ สารวัตรตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง (สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.) ถูกยิงเสียชีวิตในงานเลี้ยงที่บ้านของ ประวีณ จันทร์คล้าย หรือ ‘กำนันนก’ ในพื้นที่ จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา คืบหน้าไปอีกขั้น โดยวันนี้ ทางสำนักงานอัยการสูงสุดได้เเถลงความคืบหน้า ภายหลังรับสำนวนพร้อมความเห็นสั่งฟ้อง จากกองบังคับการปราบปราม เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน ซึ่งแบ่งเป็น 2 สำนวน ได้แก่

สำนวนคดีอาญาที่ 24/2566 พนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้องกำนันนก ตามข้อกล่าวหาที่พนักงานสอบสวนได้เสนอมา คือ เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นและพยายามฆ่าผู้อื่น ส่วน ธนัญชัย หมั่นมาก หรือ หน่อง ซึ่งถูกวิสามัญถึงแก่ความตาย พนักงานอัยการได้สั่งยุติการดำเนินคดี ตามระเบียบของสำนักงานอัยการสูงสุด

สำนวนคดีอาญาที่ 25/2566 เป็นสำนวนกล่าวหาเจ้าหน้าที่ตำรวจและพลเรือน รวม 28 คน ที่อยู่ในเหตุการณ์ยิง พ.ต.ต.ศิวกร พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต มีความเห็นสั่งฟ้องตำรวจ ได้แก่ พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ สมสุข กับพวกและพลเรือน รวม 23 คน ในข้อหาแตกต่างกันไป ซึ่งรวม 6 คนแรกที่ถูกจับดำเนินคดี โดยเป็นกลุ่มที่ขับรถพากำนันนกหลบหนี และมีการทำลายพยานหลักฐาน ส่วนพลเรือนโดนข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานในการกระทำความผิด รวมถึงกำนันนกด้วย

โดยในช่วงเช้าวันนี้ พนักงานอัยการได้นำตัวตำรวจและพลเรือนรวม 23 คน ไปส่งฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พร้อมยืนยัน กำนันนก ถูกฟ้องทั้ง 2 ศาล คือ ศาลอาญา และ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง โดยอัยการจะมีการเสนอศาลให้นับโทษทั้ง 2 สำนวนต่อกัน

ทั้งนี้ มีตำรวจ 5 นาย ที่พนักงานอัยการสั่งไม่ฟ้อง ได้แก่ พ.ต.อ.กฤษฎาพร จงอักษร อดีตผู้กำกับการ สน.พญาไทย, ร.ต.อ. ณัฏฐพล นาคกร, พ.ต.ท.ภทร วรญาวิสุทธิ์, พ.ต.อ.ภาณุทัต เหลืองสัจจกุล และ ร.ต.ท.มนัต จันทร์มีทรัพย์ เนื่องจากพนักงานอัยการเห็นว่า เป็นกลุ่มที่ไม่ได้นิ่งเฉยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น พาผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล หรือสนับสนุนช่วยเหลือในด้านต่างๆ 

แต่อย่างไรก็ตาม ความเห็นนี้ยังถือว่ายังไม่เด็ดขาด เนื่องจากต้องนำตัวผู้ต้องหาและสำนวนสั่งฟ้องในวันนี้ เพราะเป็นวันสุดท้ายในการฝากขัง และหากพนักงานอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาบางราย ก็จะต้องเสนอเรื่องไปที่ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้มีความเห็นทางคดี โดยหากเห็นแย้งความเห็นของอัยการ ก็จะถูกส่งต่อให้อัยการสูงสุด วินิจฉัยชี้ขาด จึงจะถือว่าเป็นคำสั่งเด็ดขาด ซึ่งถ้าอัยการสูงสุด มีความเห็นให้สั่งฟ้องตำรวจทั้ง 5 นาย ที่เดิมที่สั่งไม่ฟ้องในครั้งนี้ ก็สามารถนำตัวตำรวจทั้ง 5 นาย กลับมาดำเนินคดีได้ ภายในอายุความ 20 ปี

ส่วนประเด็นที่ผู้ต้องหานายถูกฟ้องและไม่ถูกฟ้อง ในเนื้อสำนวน ทางพนักงานอัยการไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากเป็นการรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวน รวมทั้ง พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ หรือ ‘ผกก.เบิ้ม’ ที่เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้ ไม่มีรายชื่อเป็นผู้ต้องหาในสำนวนของพนักงานสอบสวนที่ส่งมาให้อัยการตั้งแต่แรก แม้จะอยู่ในเหตุการณ์วันดังกล่าวก็ตาม ซึ่งทางอัยการไม่ขอก้าวล่วง

สำหรับรายชื่อผู้ต้องหาทั้งหมดที่ถูกสั่งฟ้องเเละสั่งไม่ฟ้องประกอบด้วย

สั่งไม่ฟ้อง

1. ร.ต.ท.นิมิต สลิดกุล ผู้ต้องหาที่ 3 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 184

2. ร.ต.ท.ณรงศักดิ์ แตงอำไพ ผู้ต้องหาที่ 4 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 184, 189, 200

3. ร.ต.อ.ณัฏฐพล นาคกร ผู้ต้องหาที่ 5 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 157, 184, 189, 200 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172

4. พ.ต.อ.กฤษฎาพร จงอักษร ผู้ต้องหาที่ 7, พ.ต.ท. ภทร วรญาวิสุทธิ์ ผู้ต้องหาที่ 10, พ.ต.อ. ภาณุทัตเหลืองสัจกุล ผู้ต้องหาที่ 15

5. ร.ต.ท.มนัต จันทร์มีทรัพย์ ผู้ต้องหาที่ 20 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172

สั่งฟ้อง

- พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ สมสุข ผู้ต้องหาที่ 1 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 200 และมาตรา 184 ประกอบมาตรา 84 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา172

- ร.ต.ต.ประสาร รอดผล ผู้ต้องหาที่ 2, ร.ต.ท.สรรเสริญ ศรีสวัสดิ์ ผู้ต้องหาที่ 6 ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157, 189, 200 และมาตรา 184 ประกอบมาตรา 84 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172

- ร.ต.ท.นิมิต สลิดกุล ผู้ต้องหาที่ 3 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 157, 189, 200 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172

- ร.ต.ท.ณรงศักดิ์ แตงอำไพ ผู้ต้องหาที่ 4, จ.ส.ต.พิสิฐ ชิวปรีชา ผู้ต้องหาที่ 8, ร.ต.อ.จตุรวิทย์ ชวาลเกียรติธนา ผู้ต้องหาที่ 9, ร.ต.อ.ประสมมาศ แสงสุขดี ผู้ต้องหาที่ 11, ส.ต.ต.สุทธิกานต์ แซ่ฮ้อ ผู้ต้องหาที่ 12, ส.ต.ต.สรรเสริญ ศรีอุบล ผู้ต้องหาที่ 13, ส.ต.ต.ธนทัต ท่าน้ำตื้น ผู้ต้องหาที่ 14, ร.ต.อ.นุชิต บรรณชัย ผู้ต้องหาที่ 16, ด.ต.ถนอมศักดิ์ มีศรี ผู้ต้องหาที่ 17, จ.ส.ต.อภิรักษ์ โรจน์พวง ผู้ต้องหาที่ 18, ร.ต.อ.ศิริชัย รูปสวย ผู้ต้องหาที่ 19, ร.ต.ท.สมโชค บัวไชย ผู้ต้องหาที่ 21 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172

- นายสนธยา สุดแน่น ผู้ต้องหาที่ 22, นายฐิตินนท์ อินทร์ต้นวงศ์ ผู้ต้องหาที่ 23, นายนิวัฒน์ชัย ปั้นดา ผู้ต้องหาที่ 24, นายกฤษฎา เหล่งดอนไพร ผู้ต้องหาที่ 25, นายชาตรี เขียวทับ ผู้ต้องหาที่ 26 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 184 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86

- นายประวีณ จันทร์คล้าย ผู้ต้องหาที่ 27 ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86

- นายอาทิตย์ เก้าลิ้ม ผู้ต้องหาที่ 28 ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 184 ประกอบมาตรา 84 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา86

ทั้งนี้ ขอศาลเพิ่มโทษผู้ต้องหาที่ 26 หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92 และขอศาลนับโทษผู้ต้องหาที่ 27 ในคดีนี้ ติดต่อกับโทษในคดีอาญากองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามที่ 24/2566

อ่านเพิ่มเติม:

จับตาพรุ่งนี้! ‘บช.ก.’ ยื่นอัยการส่งฟ้อง 2 สำนวนคดี ‘กำนันนก’
2 สำนวนคดี ‘กำนันนก’ ถึงมือ ‘อัยการ’ แล้ว

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์