จากกรณีเรืออคอนเทนเนอร์ติดธงชาติสิงคโปร์ชื่อ ‘ต้าหลี่’ (Dali) ชนสะพานสะพานแฟรนซิส สก็อต คีย์ ในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมริแลนด์ สหรัฐฯ เมื่อช่วงเช้ามืดวันอังคาร (26 มี.ค.) ที่ผ่านมา จนโครงสร้างสะพานเกือบทั้งหมดพังทลายลงน้ำ ก็มีการเปิดประวัติการเดินเรือลำนี้และพบว่าเคยเกิดอุบัติเหตุมาก่อน
เมื่อปี 2016 เรือต้าหลี่ชนท่าเรือแอนต์เวิร์ปในประเทศเบลเยียม ขณะที่กำลังจะออกจากท่าเทียบเรือ
จากข้อมูลของแอปฯ ติดตามเรือ ‘Vessel Finder’ และ ‘Shipwrecklog’ ซึ่งเป็นคลังเก็บเอกสารสำคัญเกี่ยวกับเหตุการณ์ทางทะเลระบุว่า “เรือสินค้าต้าหลี่ความสูง 290 เมตร ความจุ 10,000 ตู้ กำลังออกจากท่าเทียบเรือเมืองแอนต์เวิร์ป มุ่งหน้าสู่เมืองเบรเมอร์ฮาเฟิน ประเทศเยอรมนี”
“ขณะที่เรือพยายามออกจากท่านั้นพบว่าหัวเรือเหวี่ยงไปรอบๆ ทำให้ท้ายเรือเสียดสีด้านข้างของท่าเรือ จนสร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับตัวเรือ”
มีรายงานว่าเรือดังกล่าวถูกเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมเครื่องยนต์หลังจากนั้นและจอดเทียบท่าที่เมืองเดอร์แกนช์ด็อก (Deurganckdok) ประเทศเบลเยียม แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเกิดมลภาวะที่ไม่พึงประสงค์
‘Vessel Finder’ ระบุว่า “เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นฝีมือของนายเรือและผู้นำทางบนเรือ แต่ไม่ชัดเจนว่าลูกเรือคนไหนอยู่บนเรือลำนี้”
นอกจากนี้ ‘Vessel Finder’ ยังบอกอีกว่า “เรือลำดังกล่าวถูกสร้างในเกาหลีใต้เมื่อปี 2015 โดยบริษัทต่อเรือที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ‘ฮุนได เฮฟวี อินดัสทรีส์’ (Hyundai Heavy Industries) แต่เจ้าของเรือคือ ‘บริษัทโอเชียนบัลค์ มาริไทม์’ ของกรีก และถูกเช่าเหมาลำโดยบริษัทขนส่งเมอส์ก (Maersk) ของเดนมาร์ก”
“เรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์อายุ 9 ปีลำนี้เคยผ่านการตรวจสอบครั้งก่อนระหว่างที่อยู่ในทะเล แต่ในระหว่างการตรวจสอบครั้งหนึ่งในเดือนมิถุนายน 2023 ที่ท่าเรือซานอันโตนิโอ ประเทศชิลี เจ้าหน้าที่กลับค้นพบข้อบกพร่องด้าน ‘เครื่องจักรขับเคลื่อนและอุปกรณ์เสริม (มาตรวัด เทอร์โมมิเตอร์ ฯลฯ)’ ”
‘The Tokyo MOU’ หน่วยงานทางทะเลระหว่างรัฐบาลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (PSC) ระบุ
ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวไม่ได้ให้ข้อมูลอื่นใดเกี่ยวกับข้อบกพร่องดังกล่าว เพียงแต่ระบุว่ามันไม่ได้ร้ายแรงพอที่จะถอดเรือออกจากการให้บริการ
ขณะเดียวกัน การเดินเรือและการท่าเรือแห่งสิงคโปร์ (MPA) ก็ยืนยันเมื่อวันอังคาร (26 มี.ค.) ว่า “เรือต้าหลี่จดทะเบียนในสิงคโปร์ และมีลูกเรือ 22 คนบนเรือ” โดยเมอส์กกล่าวเสริมในแถลงการณ์ว่า “ลูกเรือทั้งหมดเป็นชาวอินเดีย แต่ไม่มีลูกเรือหรือบุคลากรของเมอส์ก…เรือลำดังกล่าวดำเนินการโดยบริษัทเรือเช่าเหมาลำซินเนอร์จี้ กรุ๊ป (Synergy Group)”
