เมื่อช่วงเช้าของวันนี้(26 ต.ค.66) ที่ทำเนียบรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท จะมีการประชุมในสัปดาห์หน้าหรือไม่ว่า ยังไม่ได้กำหนด
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้รับทราบกรณีที่อนุกรรมการดิจิทัลวอลเล็ต กำหนดหลักเกณฑ์ตัดสิทธิผู้ได้รับเงิน 10,000 บาท 3 รูปแบบแล้วหรือยัง นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวว่า ได้เห็นแล้ว
เมื่อถามย้ำว่า ใน 3 แนวทางที่ออกมาจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ เศรษฐา กล่าวว่า ตอนนี้เรารับฟังข้อคิดเห็น ยังไม่อยากพูดให้เกิดเป็นประเด็นแตกย่อยเล็ก ๆ ไม่อยากออกมาตอบข้อ 1 ข้อ 2 ข้อ 3 หรือข้อ 7 ขอให้มีคำตอบทั้งหมดก่อน แต่ยืนยันว่ามีการพูดคุยกันตลอด วันนี้ก็จะมีการพูดคุยกับเลขาธิการคณะกรรมการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมถึงหลาย ๆ ภาคส่วนด้วย ขอให้คอยนิดนึง ตอนนี้ไม่อยากพูดแบบแตกย่อยแต่ละข้อ ๆ เดี๋ยวประชาชนสับสน เพราะการที่จะตอบคำถามเรื่องเหล่านี้ต้องพูดในองค์รวมทั้งหมด จะได้ทราบถึงความต้องการจริง ๆ ทั้งผลกระทบทางด้านงบประมาณ และตัวเลขการกระตุ้นเศรษฐกิจ
เมื่อถามว่า แต่ละวิธีที่ออกมาจะต้องมีการสอบถามประชาชนก่อนหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า สอบถามอยู่แล้ว ซึ่งการลงพื้นที่แต่ละครั้งก็มีการสอบถามอยู่แล้ว ซึ่งตนเองก็ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
เมื่อถามว่า เป้าหมายมีการลดลงมาแบบนี้จะตอบสังคมอย่างไร โดย นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ได้ชักน้ำเสียงพร้อมระบุว่า “เนี่ย เห็นไหม ยังไม่ตอบเลยว่าจะลดอะไรอย่างไร คุณก็ถามแล้ว ผมไม่ได้บอกเลยว่าผมจะลด ยังไม่ได้บอกเลยว่าจะไม่ให้ จะเอาอย่างไรยังไม่ได้บอกเลย ผมไม่อยากให้เกิดความสับสน อยากจะตอบต้องตอบให้หมด”
ขณะเดียวกันทางด้านของจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการคณะอนุกรรมการ ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ กรรมกรข่าวคุยนอกจอ โดย สรยุทธ ได้สอบถามถึงช่วงพรรคเพื่อไทย หาเสียงว่าจะ แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ซึ่งตอนนั้นไม่ได้มีการแจ้งเงื่อนไข ทำให้ประชาชนเข้าใจว่าจะได้กันทุกคน
รมช.คลัง ได้ตอบว่า พ้นเรื่องหาเสียงไปนานแล้ว วัตถุประสงค์ของโครงการนี้ไม่ได้เกี่ยวเนื่องกับการหาเสียง แน่นอนว่ามันเป็นนโยบายที่เราได้พูดกับประชาชนไว้เป็นประเด็นแรก แต่เรื่องของการหาเสียงไม่ได้อยู่ในจิตใจ ตอนนี้มองถึงการเดินหน้าในการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้เติบโต ตามเป้าหมาย กลไกเงื่อนไขที่เสนอมาใหม่จึงมีความจำเป็น
จุลพันธ์ กล่าวอีกว่า ตั้งแต่มีการประกาศนโยบายรัฐบาล เรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ เมื่อนโยบายนิ่งแล้ว แต่กลับมีเสียงสะท้อนออกมา เราต้องเป็นรัฐบาลที่ฟังเสียงของประชาชน เมื่อประชาชนสะท้อนปัญหา ก็ต้องปรับ ซึ่งแปลว่าเราต้องตัดเหลือแต่คนจนจริง ๆ แต่พอรัฐบาลออกมาประกาศ ก็กลับพบว่ามีอีกฝั่งออกมาบอกว่า “เงินเดือน 25,000 ก็ไม่ได้รวยนะ” ในเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ต้องสะท้อนไปยังที่ประชุม ซึ่งอาจจะสะท้อนจนเปลี่ยนเป็นเกณฑ์รูปแบบอื่น หรือ จะกลับมาในเกณฑ์รูปเดิม ก็ต้องรอคณะกรมการชุดใหญ่ประชุมกันอีกครั้ง
ข่าวน่าสนใจ
‘ก้าวไกล’ ชี้ปรับเงื่อนไข ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ สะท้อนรัฐบาลเดินเข้าสู่ ‘ทางตัน’
