จากกรณี สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. ปรับประมาณการผลิตรถยนต์ปี 2566 ใหม่จากเดิมเป้าหมาย 1,900,000 คัน เหลือ 1,850,000 คัน หรือลดลง 50,000 คัน
จากสาเหตุเพราะสถาบันการเงินยังคงเข้มงวดของการอนุมัติสินเชื่อ จากหนี้ครัวเรือนสูง ประกอบกับ ไฟแนนซ์บางแห่งให้วางเงินดาวน์สูงถึง 30-40% ถือเป็นการปฏิเสธโดยปริยาย
ทีมข่าว SPACEBAR ย้อนดูรายงานภาวะสังคมไตรมาส 2 ปี 2566 ของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เปิดเผย มีข้อมูลที่น่าสนใจพบว่า ไตรมาส 1 ปี 2566 มูลค่าหนี้สินครัวเรือนอยู่ที่ 15.96 ล้านล้าน เพิ่มขึ้น 3.6 % จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
เมื่อดูในรายละเอียด พบว่า สินเชื่อเพื่ออสังหาริมทรัพย์ ขยายตัว 5% หนี้เพื่อการอุปโภคบริโภคขยายตัว 5% และสินเชื่อส่วนบุคคลขยายตัว 2% ขณะที่ “สินเชื่อยานยนต์” เป็นตัวเดียวที่หดตัว 0.2 %
เนื่องจากครัวเรือนระมัดระวังการก่อหนี้ โดยเฉพาะหนี้ก้อนใหญ่และหนี้ที่มีอัตราการผ่อนชำระนาน รวมถึงสถาบันการเงินอาจจะเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อให้กับครัวเรือนกลุ่มเปราะบาง

สอดคล้องกับความเห็นของ สุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือ เครดิตบูโร ที่ระบุว่า นอกจากสัญญาณสินเชื่อรถยนต์ที่ลดลงในช่วงไตรมาส 1 ปี 2566 แล้ว ยังมีตัวเลขของหนี้ SM หนี้ซึ่งค้างชำระระหว่าง 1 - 3 เดือน ของไตรมาสที่ 2 ของปี 2566 และตัวเลขของเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมายังไม่ดีขึ้น จึงอาจจะทำให้บริษัทสินเชื่อ ลิซซิ่ง มีความกังวลเรื่องความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้ามากขึ้น
ซึ่งขณะนี้ เครดิตบูโร กำลังรอประเมินว่า ตัวเลขเดือนกันยายนจะดีขึ้นหรือไม่ แต่ขณะนี้เริ่มมีผลกระทบมายังลูกค้ารถยนต์รายใหม่ เพราะผู้ประกอบการจำเป็นจะต้องใช้วิธีเข้มงวดด้วยการทำสัญญาใช้เงินดาวน์เพิ่มขึ้นเป็น 30-40 % เพื่อลดความเสี่ยงของการทำธุรกิจ

ขณะเดียวกันสินเชื่อรถยนต์ในการทำสัญญามีข้อจำกัดเรื่องของระยะเวลาในการผ่อนชำระ ซึ่งไม่สามารถยืดระยะเวลาหรือปรับโครงสร้างได้อย่าง สินเชื่อบ้าน ทำให้มีความตึงตัว ดังนั้นในช่วงที่ผ่านมาหากลูกค้าได้รับผลกระทบในเรื่องของ ค่าครองชีพที่สูงขึ้น อาจจะทำให้หลายคนบริหารจัดการเงินไม่ได้ จึงตัดสินใจที่จะทิ้งการชำระสินเชื่อรถยนต์
ผู้จัดการใหญ่ เครดิตบูโร ปิดท้ายว่า สินเชื่อของบริษัทลิสซิ่ง ไม่ได้อยู่ในการกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ แบงก์ชาติ จึงอาจจะไม่ได้มีมาตรฐานสูง เหมือนกับลูกหนี้สินเชื่อธนาคารพาณิชย์ นั่นหมายความว่า ลูกหนี้ลิสซิ่ง อาจจะอยู่ในระดับเกรด B และ C มีโอกาสที่จะเป็นหนี้เสียในอัตราที่สูงกว่า
ข่าวที่น่าสนใจ
รู้หรือไม่ ซื้อทัวร์แล้วยกเลิก ลูกค้าขอเงินคืนจากบริษัททัวร์ได้