รณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เผย คณะกรรมาธิการยุโรปได้เผยแพร่กฎระเบียบภายใต้ Regulation (EU) 2023/1542 ว่าด้วยแบตเตอรี่และขยะแบตเตอรี่ มีผลตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม 2566 ระบุถึงการปรับปรุงกฎระเบียบการวางจำหน่ายแบตเตอรี่อย่างครบวงจรเพื่อความยั่งยืน มีผลตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม 2566 กำหนดให้แบตเตอรี่ที่วางจำหน่ายใน EU ต้องแสดงค่า Carbon Footprint ติดฉลากรายละเอียดสินค้า เครื่องหมาย CE และมีการจัดการขยะแบตเตอรี่
นี่จึงเป็นที่มาให้กรมการค้าต่างประเทศ ย้ำเตือนผู้ผลิตและส่งออกไทยให้เตรียมรับมือ หลังยังต้องผลิตใช้ในประเทศและเพื่อส่งออก โดยจะเป็นการสร้างความยั่งยืน สร้างความปลอดภัย และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตลอดวงจรของการใช้งานของแบตเตอรี่ ส่งเสริมการนำกลับมาใช้ใหม่เพื่อนำไปสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน ตลอดจนเพื่อให้มีการใช้สารอันตรายน้อยที่สุด
‘กฎหมายแบตเตอรี่’ ปรับใหม่ ข้อกำหนด-บังคับใช้
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า การปรับปรุงกฎระเบียบของ EU จะใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งแม้จะเป็นการเพิ่มต้นทุนแก่ผู้ผลิตและส่งออกแบตเตอรี่ไป EU ก็ตาม
จากสถิติปี 2565 พบว่า ไทยมีมูลค่าการส่งออกแบตเตอรี่ (พิกัด 8507) ไป EU ประมาณ 130.82 ล้านบาท จากมูลค่าการส่งออกแบตเตอรี่ของไทยทั้งหมด 13,167.56 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 0.99
อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการที่ต้องการขยายตลาดส่งออกแบตเตอรี่ไปยังตลาด EU อาจศึกษากฎระเบียบเพิ่มเติม เพื่อเตรียมความพร้อมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องตามที่ EU กำหนดต่อไป
