นายกฯ ย้ำ ค่าพลังงานสำคัญ ทุบค่าไฟไม่สนใจตลาด ไม่ได้

14 กุมภาพันธ์ 2567 - 08:57

settha-energy-cost-reduce-electricity-bills-market-oil-SPACEBAR-Hero.jpg
  • นายกฯ เศรษฐา ชี้ความสำคัญ ‘พลังงาน’ ให้ทุบค่าไฟโดยไม่สนใจกลไกตลาด จะกลายเป็นรัฐประหารทางเศรษฐกิจ

  • ขณะที่ด้านการลงทุน ต่างชาติสนใจไทยหลายด้าน เตรียมประกาศยกระดับอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดในประเทศ เดือนหน้า

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานเปิดงาน Thailand Energy Executive Forum และปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ ‘จุดเปลี่ยนพลังงานไทยสู่ความยั่งยืน’ ชี้หลายประเด็นพลังงาน ตอกย้ำ พลังงานเป็นเรื่องสำคัญทั้งวันนี้และอนาคต ประชุมคณะรัฐมนตรีวานนี้ (13 กุมภาพันธ์ 2567) ส่งข้อสังการช่วยเหลือเกษตรกร ลดค่าไฟสำหรับเครื่องสูบน้ำในการทำนา ต้องยอมรับว่าพลังงานเป็นต้นทุนและองค์ประกอบใหญ่อย่างหนึ่งของการทำการเกษตร ก่อนหน้านี้ที่มีการส่งเสริมให้ใช้โซลาร์เซลล์ก็ถือเป็นทางเลือกใช้พลังงานที่ถูกที่สุด เพื่อทำให้ค่าไฟในการทำเกษตรถูกลง และเกษตรกรใช้น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ขณะที่พลังงานในภาคอุตสาหกรรม ก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อน จะเห็นว่าขณะนี้ ต่างชาติสนใจลงทุนด้านพลังงานสะอาด โดยมีตัวเลขรายงานการพัฒนาที่ยั่งยืนของไทยอยู่อันดับที่ 30 กว่าของโลก และสูงที่สุดของอาเซียน ดังนั้น ไทยจึงมีศักยภาพด้านนี้มากกว่าหลายประเทศ ดังนั้น หลังจากนี้ตนเองจะเดินทางไปพูดคุยกับประเทศในแถบยุโรป โปรแกรมเดือนหน้าจะไปเยอรมนี เพื่อดึงดูดนักลงทุนเข้ามาลงทุน หลังโลกขณะนี้ล้วนถามถึงพลังงานสะอาดทั้งสิ้น โดยเฉพาะสหรัฐและจีน เชื่อว่าผู้ที่เกี่ยวข้องด้านพลังงานจะให้ความสำคัญและตระหนักดีในเรื่องนี้ ซึ่งจะดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศมาได้ต่อไป

นายเศรษฐา กล่าวถึงการหารือกับนายกฯ กัมพูชา ที่ผ่านมา โดยเฉพาะประเด็นพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยและกัมพูชา (overlapping claims areas –OCA) ว่า มีเรื่องของแหล่งพลังงานเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ปัญหาต้องแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ เรื่องของพื้นที่ทับซ้อน กับ เรื่อง ขุมทรัพย์ที่อยู่ใต้ทะเล ซึ่งต้องพูดคุยแลกเปลี่ยนกันต่อไป เนื่องจากจะส่งผลต่อเรื่องราคาพลังงาน ซึ่งจะพยายามนำสินทรัพย์เช่นนี้ออกไปใช้ได้เร็วที่สุดในการเปลี่ยนผ่าน Brown Energy ไปสู่ Green Energy 

นายกฯ ยังย้ำ ค่าพลังงานก็มีความสำคัญ หากมองระยะยาว เชื่อว่าประเทศไทยมีศักยภาพสูง มีเสถียรภาพทางด้านการเงินที่มั่นคง พร้อมดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลกมาตั้งฐานผลิตในไทย มีโครงสร้างพื้นฐานในการสนับสนุนให้นักลงทุน ไม่ใช่แค่พลังงานสะอาดอย่างเดียว ซึ่งในเดือนหน้าประกาศยกระดับด้านอุตสาหกรรมทั้งหมดในประเทศไทย ซึ่งเกี่ยวข้องกับการตั้งฐานผลิต หากการตั้งฐานผลิตแล้วไม่สามารถส่งออกไปได้อย่างสะดวกสบาย อาจะมีปัญหา ดังนั้น ท่าเรือน้ำลึกเฟส 3 ที่มีความล่าช้าต้องพัฒนาให้ดีขึ้น ขณะที่รถไฟความเร็วสูงก็มีความจำเป็น บางสายจำเป็นต้องทำรถไฟรางคู่ไปก่อน เพื่อการค้าระหว่างประเทศ

“การทุบค่าไฟโดยไม่ต้องสนใจกลไกการตลาด จะทำให้เกิดรัฐประหารทางเศรษฐกิจ เราอาจได้ค่าไฟถูกอยู่ไม่กี่วัน ก่อนจะควักเอาเงินของประชาชนมาจ่าย เรื่องราคาพลังงานก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ หากมองในระยะยาวเชื่อว่าประเทศไทยมีศักยภาพสูง มีเสถียรภาพทางการเมืองที่มั่นคง พร้อมที่จะดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลกเพื่อมาตั้งฐานการผลิต”

นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวถึงโครงการแลนด์บริดจ์ว่า มีความสำคัญในด้านการขนส่ง รองรับช่องแคบมะละกาที่ขณะนี้ประสบปัญหาคับแคบไปแล้ว ดังนั้น แลนด์บริดจ์ที่กำลังเกิดขึ้นจะมีการขนถ่ายสินค้าเพิ่มขึ้นมโหฬาร ไทยจึงต้องจำเป็นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รองรับการขนถ่ายสินค้าทั่วโลก ทำให้การค้าระหว่างประเทศดีขึ้น ซึ่งรัฐบาลจะเร่งเจรจาต่อไป

“รัฐบาลมีแผนด้านพลังงาน ในระยะยาวที่ชัดเจน โดยจะต้องควบคู่กับการทำโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ จะต้องวางรากฐาน ไม่จบในรัฐบาลนี้ ก็ต้องดำเนินการในรัฐบาลต่อไป และต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้”

นายกฯ กล่าว

ข่าวที่น่าสนใจ

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์