สุขภาพดี-โลกดี เริ่มง่ายๆ แค่วางแผนการกิน เคล็ด(ไม่)ลับแบบฉบับนักกำหนดอาหาร

18 ธ.ค. 2567 - 09:50

  • ซื้อตุน! ซื้อเผื่อ! แต่เหลือทิ้ง! พฤติกรรมคนไทยสร้างขยะอาหารเฉลี่ย 86 กิโลกรัมต่อคนต่อปี รั้งที่ 2 ในอาเซียน

  • นักกำหนดอาหารแนะนำหลักโภชนาการตามวัย เพื่อวางแผนการซื้อ-การกินให้พอดี ไม่เกิดขยะอาหาร (Food Waste)

ecoeyes-dietitian-how-to-eat-for-health-and-the-planet-SPACEBAR-Hero.jpg

เรื่องของการดูแลสุขภาพ ดูแลโลก เป็นเทรนด์ที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ และในปี 2025 ทั้ง Healthy-Safety-Save the Earth ก็ยังคงเป็นกระแสอย่างต่อเนื่อง พร้อมสร้างแรงกระเพื่อมให้ทุกคนลงมือทำจริงมากขึ้น เพราะตอบโจทย์ทั้งเรื่องสุขภาพ ปลอดภัย และแน่นอนว่าต้องดีต่อโลกใบนี้ เพื่อเชื่อมโยงกับการช่วยลดภาวะโลกร้อน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความตระหนักในเรื่อง Zero waste, Food waste, Sustainable ที่กลายเป็นกฎของสังคมโลก ซึ่งเป็นหนทางที่จะช่วยเยียวยาบ้านหลังใหญ่นี้ให้ดีขึ้น

ecoeyes-dietitian-how-to-eat-for-health-and-the-planet-SPACEBAR-Photo01.jpg
Photo: นางสาวธารินี จันทร์คง นักกำหนดอาหารวิชาชีพ โรงพยาบาลวิมุต

นางสาวธารินี จันทร์คง นักกำหนดอาหารวิชาชีพ โรงพยาบาลวิมุต ชวนคนไทยเลิกสร้าง Food Waste ในปี 2025 พร้อมตั้งปณิธานเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ที่กินอาหารอย่างพอดี ใส่ใจสุขภาพ และดูแลโลกไปพร้อมกันในปีใหม่นี้   

กินพออิ่ม คิดก่อนซื้อ ได้สุขภาพ ได้ช่วยโลกให้ยั่งยืน 

เคยเป็นกันไหม ซื้อของเข้าบ้านทุกอาทิตย์ สั่งอาหารอร่อยๆ มาเผื่อไว้กินพรุ่งนี้ ยิ่งช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่แบบนี้ ยิ่งเป็นช่วงเวลาแห่งการช้อป การซื้อตุน ซื้อเผื่อ แต่สุดท้ายของดีๆ ที่ซื้อไว้กลับต้องไปลงเอยในถังขยะ นี่เป็นปัญหาที่หลายคน “รู้สึกผิด” อยู่ในใจไม่น้อย เพราะนอกจากจะเป็นการผลาญเงินโดยไม่จำเป็นแล้ว ยังเป็นการสร้างขยะอาหาร (Food Waste) จำนวนมหาศาล ซึ่งปัจจุบัน Food Waste ถือเป็นวิกฤตอาหารที่กำลังทวีความรุนแรงในสังคมไทย

ecoeyes-dietitian-how-to-eat-for-health-and-the-planet-SPACEBAR-Photo02.jpg
Photo: Food Waste Index 2024

เชื่อหรือไม่? คนไทยทิ้งอาหารติดอันดับ 2 ในอาเซียน 

รายงานล่าสุดจาก Food Waste Index 2024 ของโครงการสิ่งแวดล้อมสหประชาชาติ (UNEP) เปิดเผยตัวเลขที่น่าตกใจ โดยรายงานว่าคนไทยสร้างขยะอาหารเฉลี่ยถึง 86 กิโลกรัมต่อคนต่อปี หรือคิดเป็นประมาณวันละ 240 กรัม ซึ่งมากเป็นอันดับ 2 ของอาเซียน เป็นรองแค่ประเทศลาว โดยจำนวนที่ทิ้งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของโลกซึ่งอยู่ที่ 79 กิโลกรัมต่อคนต่อปี  

ในขณะที่รายงานวิกฤตการณ์อาหารโลก ปี 2024 พบประชากรเกือบ 282 ล้านคน ใน 59 ประเทศ กำลังเผชิญปัญหาความอดอยาก ขณะเดียวกันก็สร้างปัญหาขยะอาหารมหาศาลซึ่งกระทบโดยตรงกับชั้นบรรยากาศโลกเพราะการก่อตัวของก๊าซมีเทน

โดยปัจจุบัน องค์การสหประชาชาติ (UN) ได้กำหนดเป้าหมายให้ทุกประเทศลดปริมาณขยะอาหารลง 50% ภายในปี 2030 ดังนั้น ประเทศไทยจึงมีเป้าหมายต้องลดปริมาณขยะอาหารประมาณ 3 ล้านตันต่อปี หรือเฉลี่ยทิ้งได้คนละ 43 กิโลกรัมต่อคนต่อปี

ecoeyes-dietitian-how-to-eat-for-health-and-the-planet-SPACEBAR-Photo03.jpg
Photo: ผู้บริโภค คือผู้สร้างขยะอาหารมากที่สุด ทั้งจากในครัวเรือนและการกินอาหารนอกบ้าน

การแก้ปัญหา Food Waste ต้องเริ่มที่ “ผู้บริโภค”  

นักกำหนดอาหาร แนะนำให้ปรับพฤติกรรมผู้บริโภคตั้งแต่การซื้อ ลดการ “ตุนอาหาร” และ “กินให้หมดจาน” เพื่อสุขภาพที่ดี และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเผยว่าในห่วงโซ่อาหารทั้งหมด ผู้บริโภคคือผู้สร้างขยะอาหารมากที่สุดทั้งจากในครัวเรือนและการกินอาหารนอกบ้าน ซึ่งพฤติกรรมที่พบบ่อยคือ การกินอาหารไม่หมดจาน การตักอาหารหรือสั่งอาหารมากเกินไปตอนหิว และการเตรียมอาหารเกินพอดีเวลามีแขกหรืองานเลี้ยง นอกจากนี้ การซื้อวัตถุดิบมากักตุนโดยไม่มีการวางแผนการใช้ที่ดี ก็ทำให้อาหารเน่าเสียและกลายเป็นขยะในที่สุด

“วางแผนการซื้อ-การกิน” เรื่องง่ายๆ ที่ช่วยเรา-ช่วยโลก 

การเลือกกินอย่างเหมาะสมและพอดี จะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยลดขยะอาหารได้ โดยเริ่มต้นจากการปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น การวางแผนการเลือกซื้ออาหาร ดูวันหมดอายุก่อนซื้อ ไม่ตุนอาหารมากเกินจำเป็น หากเราซื้อวัตถุดิบมากักตุนไว้นานและมากเกินไปจนกินไม่ทัน สุดท้ายวัตถุดิบเหล่านั้นก็หมดอายุและต้องทิ้งจนกลายเป็นขยะอาหาร (Food Waste)

กินอาหารให้หมดจาน เรื่องนี้มีผลมาก โดยแนะนำให้เริ่มตั้งแต่ควบคุมปริมาณอาหาร อย่าตักมามากเกินไป หรือสั่งอาหารเกินที่จะกินไหว นอกจากนี้เราควรคำนึงถึงการกินอย่างยั่งยืน (Sustainable Food) ที่ช่วยดูแลสิ่งแวดล้อม เช่น เปลี่ยนมากินอาหารที่เน้นพืช หรือ Plant-based ประมาณ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ เนื่องจากการผลิตเนื้อสัตว์และเนื้อสัตว์แปรรูปมีต้นทุนด้านสิ่งแวดล้อมสูง ทั้งการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการใช้ทรัพยากรในการเลี้ยงสัตว์

"1 ใน 3 ของอาหารที่เรากินอยู่ทุกวันถูกทิ้งเสียไปโดยไม่จำเป็น หากทุกคนร่วมกันตระหนักในเรื่องนี้และหันมาเปลี่ยนไลฟ์สไตล์  เราก็จะได้มีสุขภาพที่ดีและช่วยโลกลดขยะไปในตัวด้วย แม้การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจดูเหมือนยาก แต่เราสามารถเริ่มจากสิ่งง่ายๆ เช่น กินให้หมดจาน ซื้ออาหารแต่พอดี และเลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย"

นางสาวธารินี จันทร์คง นักกำหนดอาหารวิชาชีพ กล่าว

โภชนาการตามวัย กินอย่างไรให้พอดี-ไม่เกิดขยะอาหาร

การที่เรารู้หลักการเลือกกินอาหารให้เหมาะสมกับวัย ไม่ได้เกิดผลดีแค่เรื่องของสุขภาพหรือโภชนาการเท่านั้น แต่ยังช่วยลดการเกิดขยะอาหาร และลดการทิ้งอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเมื่อเรารู้ว่าควรกินแบบไหน เราก็จะซื้อแบบนั้น ซึ่งประเด็นนี้นักกำหนดอาหาร เผยว่าสาร “อาหารหลักที่จำเป็น” คืออาหารที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน ส่วน “สารอาหารรอง” ได้แก่ วิตามินและเกลือแร่ มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ร่างกายทำงานเป็นปกติ  

สำหรับเรื่องของโภชนาการตามวัย นักกำหนดอาหาร อธิบายว่าแต่ละช่วงวัยมีความต้องการสารอาหารที่แตกต่างกัน ดังนี้

เด็กวัยเรียน ควรได้รับอาหารในสัดส่วนที่เหมาะสมเพื่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่ดี 

  • แนะนำ ข้าว-แป้ง 6-8 ทัพพี, ผัก 4 ทัพพี, ผลไม้ 3 ส่วน, เนื้อสัตว์ 6 ช้อนกินข้าว  
  • ดื่มนม 2-3 แก้วต่อวัน  

วัยทำงาน ควรได้รับพลังงาน 1,600-2,400 กิโลแคลอรีต่อวัน  

  • แบ่งเป็นข้าว-แป้ง 8-12 ทัพพี, ผัก 6 ทัพพี, ผลไม้ 4-6 ส่วน, เนื้อสัตว์ 6-12 ช้อนกินข้าว และนม 1 แก้ว  
  • ควบคุมน้ำตาล น้ำมัน ไม่เกินวันละ 6 ช้อนชา และเกลือไม่เกินวันละ 1 ช้อนชา  

ผู้สูงอายุ ควรได้รับพลังงาน 1,400-1,800 กิโลแคลอรี ตามระดับกิจกรรมที่ทำในแต่ละวัน 

  • แนะนำ ข้าวไม่ขัดสี เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน โดยเฉพาะปลาและไข่ รวมถึงผักใบเขียวที่มีแมกนีเซียมสูง ดื่มน้ำ 6-8 แก้วต่อวัน  
  • เน้นเลือกอาหารที่ย่อยง่าย 

แบบนี้ก็รู้แล้วว่าเราควรเลือกกินอะไร ควรเลือกซื้อแบบไหน ลองไปวางแผนการกินตามแบบฉบับนักกำหนดอาหารกันดู เพราะ สุขภาพดี โลกดี คำนี้ไม่เกินจริง ส่วนที่ห้ามลืมเลยก็คือ ซื้อแค่พอดี บริโภคแค่พอดี 

นอกจากนี้ยังมีอีกหลากหลายวิธีที่จะทำให้โลกใบนี้ดีขึ้นด้วยมือเล็กๆ ของเรา ติดตามได้ในซีรีส์ “ฮาวทูกู้โลกรวน” คอนเทนต์ดีๆ ที่จะชวนทุกคนมาลดโลกร้อนด้วยวิธีกวนๆ ในแบบฉบับของ SPACEBAR VIBE เร็วๆ นี้

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์