‘รุ่งอรุณแห่งการเปลี่ยนแปลง’ … เมื่อศรีจันทร์กลายเป็น Soft Power แห่งความงามไทย
‘ศรีจันทร์’ จากตำนาน ‘ผงหอมศรีจันทร์’ ที่อยู่คู่โต๊ะเครื่องแป้งคนไทยมายาวนาน สู่แบรนด์เครื่องสำอางที่เติบโตเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของความงามแบบไทยในโลกยุคใหม่
นับจากวันแรกในปี 2488 จนถึงวันนี้ ‘ศรีจันทร์’ ได้เดินทางเข้าสู่ปีที่ 76 ด้วยวิสัยทัศน์ของทายาทรุ่นที่ 3 ‘รวิศ หาญอุตสาหะ’ ผู้พลิกภาพลักษณ์แบรนด์ไทยดั้งเดิมให้กลายเป็นแบรนด์ระดับสากลที่มีหัวใจของ ‘Modern Classic Thainess’ อย่างชัดเจน
และนี่คือช่วงเวลาสำคัญที่เขานิยามว่า ‘รุ่งอรุณแห่งการเปลี่ยนแปลง’ (The Dawn of Thai Beauty Era) จุดเปลี่ยนที่ไม่ใช่แค่ของศรีจันทร์ แต่เป็นโอกาสสำคัญของทั้งวงการความงามไทย หรือ T-Beauty ที่พร้อมเติบโตสู่เวทีโลก แล้วอะไร? คือสิ่งที่ ‘รวิศ’ มั่นใจ!
รวิศ หาญอุตสาหะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ศรีจันทร์สหโอสถ จำกัด เผยถึงการเติบโตของ ‘ศรีจันทร์’ ในยุครุ่งอรุณแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ โดยตอกย้ำ “นี่คือรุ่งอรุณแห่งการเปลี่ยนแปลงของ T-Beauty ที่ต้องคว้าโอกาสไว้” พร้อมสรุปสาระสำคัญของเส้นทางความสำเร็จในฐานะแบรนด์เครื่องสำอางไทยที่เดินหน้าก้าวสู่ระดับภูมิภาคอย่างมั่นใจ
ความสำเร็จของธุรกิจ ‘ศรีจันทร์’
วริศ เริ่มเผย ศรีจันทร์ สหโอสถ ประสบความสำเร็จทางธุรกิจปี 2024 ด้วยยอดขายทะลุ 1,600 ล้านบาท โตแบบ Double Digit ต่อเนื่อง 4 ปีซ้อน พร้อมเปิด 5 กลยุทธ์การสร้างแบรนด์แบบ Purposeful Brand เพื่อสร้าง ‘แบรนด์ไทยระดับสากลที่คนไทยภูมิใจ’ โดยเชื่อมั่นว่า นี่คือยุคทองของ T-Beauty หรือ Thai Beauty ที่พร้อมเป็นพลัง Soft Power ตัวจริงของประเทศไทย

ยืนหนึ่งแบรนด์ไทยในตลาดสกินแคร์ โตสวนตลาด
จากแบรนด์ที่เคยขึ้นชื่อเรื่อง ‘แป้งศรีจันทร์’ วันนี้บริษัทได้สร้างการเติบโตในทุกหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ ทั้ง เมคอัพ, สกินแคร์ และครีมกันแดด โดยเฉพาะ ‘สกินแคร์’ ที่เติบโตถึง 148% ในปีเดียว และขึ้นแท่น ‘แบรนด์ไทยอันดับ 1’ ในกลุ่มมอยส์เจอไรเซอร์สำหรับผิวหน้า ด้วยส่วนแบ่งตลาดนำอันดับ 1 จากข้อมูลของ NielsenIQ ปี 2025
สินค้าขายดีอันดับต้น ๆ ได้แก่
- SRICHAND Skin Moisture Burst Gel Cream Sachet (10 ml) มอยส์เจอไรเซอร์ยอดขายอันดับ 1
- Bare to Perfect Translucent Powder แป้งฝุ่นอันดับ 1 ในประเทศไทยต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2023
นอกจากนี้ แบรนด์ลูก นามว่า ‘ศศิ (sasi)’ ที่เกิดมาเพื่อจับตลาดวัยรุ่น ยังเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) มากกว่า 50% จากสินค้าเรือธงที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องฟังก์ชันและแฟชั่น เช่น Kiss & Blush Multifunction และ Acne Sol Collection

ขับเคลื่อนด้วย 5 กลยุทธ์ Purposeful Brand
1. Modern Classic Thainess การรักษาอัตลักษณ์ไทยในดีไซน์และแบรนด์เนม เช่น “SRICHAND BANGKOK 1948”
2. เลือกพรีเซ็นเตอร์ที่เป็นตัวแทนคนไทยยุคใหม่ เช่น ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก, แบมแบม กันต์พิมุกต์ และกลุ่มศิลปิน PROXIE
3. ลงทุนใน R&D และคุณภาพระดับโลก เช่น การใช้ Glyceryl Glucoside และ Skincare Active Ingredients สูงถึง 86%
4. สร้างวัฒนธรรมองค์กรแบบ Resilience ดึงดูดคนรุ่นใหม่ด้วยแนวคิด Outcome, Accountability, Adaptability, Speed
5. สวัสดิการล้ำหน้า เช่น ลาคลอด 6 เดือน, ลาผ่าตัดแปลงเพศ, ลาพักใจ และลาเพื่อศาสนกิจ
จากแนวทางเหล่านี้ ทำให้ศรีจันทร์ได้รับรางวัล QGEN Thailand Most Attractive Companies 2025 เป็นอันดับ 1 บริษัทที่คนรุ่นใหม่อยากร่วมงานมากที่สุด

T-Beauty Soft Power ก้าวต่อสู่ตลาดต่างประเทศ
ซีอีโอ ศรีจันทร์ ยังชี้ว่า การเติบโตของศรีจันทร์ไม่ได้หยุดแค่ในประเทศ โดยบริษัทเริ่มรุกตลาดต่างประเทศสำเร็จแล้วหลายแห่ง โดยเฉพาะใน ลาว ด้วยอัตราเติบโตเฉลี่ย 112.5% ต่อปี พร้อมวางกลยุทธ์สร้างแบรนด์ร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์ท้องถิ่นอย่าง ‘Nethdao’ และการสนับสนุนเวที Miss Universe Laos และ Laos Fashion Week
ที่ ญี่ปุ่น ก็ได้รับกระแสตอบรับดีเช่นกัน จากการวางจำหน่ายในกว่า 2,000 ร้านค้า และผลิตภัณฑ์ ‘แป้งศรีจันทร์’ ยังได้รับความสนใจจากบริษัท BANDAI ซื้อสิทธิ์ไปทำเป็น ‘กาชาปอง’ ด้วยดีไซน์ที่สะท้อนความเป็นไทยอย่างลุ่มลึก

บริษัทตั้งเป้าสัดส่วนยอดขายต่างประเทศเพิ่มเป็น 10-15% ภายใน 3 ปี โดยจะขยายผ่าน Distributor ที่มีศักยภาพทั้งออนไลน์และออฟไลน์ในอาเซียนและเอเชีย
เมื่อความงามแบบไทยกลายเป็นพลังเศรษฐกิจใหม่
รวิศ หาญอุตสาหะ มองว่า การเติบโตของ T-Beauty จะไม่ใช่แค่กระแส แต่คือ ‘พลังใหม่’ ที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในระดับภูมิภาคและโลก
“เมื่อคนไทยเริ่มภูมิใจในแบรนด์ไทย และโลกเริ่มเปิดใจรับความงามในแบบไทย นี่แหละคือรุ่งอรุณของการเปลี่ยนแปลงที่เราจะต้องใช้โอกาสนี้ให้เต็มที่ เพื่อให้ Thai Beauty กลายเป็นหนึ่งใน Soft Power ที่แข็งแรงของประเทศได้อย่างแท้จริง”
— รวิศ กล่าว
