หลังจบงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ (Cannes Film Festival) ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ณ เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส หนึ่งในเบื้องหลังที่มักถูกมองข้ามกลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของบทสนทนาเรื่องความยั่งยืน (Sustainability) เมื่อพรมแดงซึ่งถูกเปลี่ยนใหม่ทุกวันตลอดสองสัปดาห์ของเทศกาล ถูกส่งต่อให้กับองค์กรการกุศลเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ใหม่ในรูปแบบของผลิตภัณฑ์แฟชั่นที่เป็นมิตรกับโลก
ปีนี้ผู้จัดเทศกาลมอบพรมเนื้อดีสีแดงกว่า 1.5 ตันให้กับองค์กรไม่แสวงหากำไร La Réserve des Arts ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองมาร์กเซย์ ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส พรมเหล่านี้เคยถูกเดินโดยเหล่าคนดังระดับโลก เช่น Tom Cruise, Rihanna, Halle Berry, Scarlett Johansson และ Robert De Niro โดยภายหลังเทศกาลสิ้นสุดลง พรมทั้งหมดก็ถูกส่งต่อไปยังโกดังขององค์กรในย่านชานเมืองที่ขาดแคลน เพื่อนำไปคัดแยก ทำความสะอาด และเตรียมแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่

บทเรียนด้านความยั่งยืนจากเทศกาลภาพยนตร์ระดับโลก
พรมแดงในเทศกาลหนังเมืองคานส์ถูกเปลี่ยนใหม่ทุกวัน!! แน่นอนตลอดสองสัปดาห์ต้องใช้พรมแดงผืนใหม่ยาวสุดลูกหูลูกตา
Jeanne Re ผู้ประสานงานของ La Réserve des Arts ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวต่างประเทศ ว่าการนำพรมกลับมาใช้ใหม่ในครั้งนี้ ไม่เพียงช่วยลดปริมาณขยะจากการจัดงานขนาดใหญ่ แต่ยังสะท้อนถึงความพยายามของเทศกาลภาพยนตร์ระดับโลกในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ La Réserve des Arts เป็นองค์กรที่เชี่ยวชาญด้านการ “อัพไซเคิล” (Upcycling) หรือการนำวัสดุที่เคยผ่านการใช้งานในวงการแฟชั่น การละคร และความบันเทิง มาปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นสิ่งของใหม่ โดยมุ่งลดปริมาณขยะฝังกลบและตอบสนองต่อความกังวลของสาธารณะต่อการใช้ของสิ้นเปลืองแบบใช้ครั้งเดียว

อย่างไรก็ตาม กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมบางส่วนได้ตั้งข้อสังเกตว่า โครงการลักษณะนี้อาจกลายเป็นเครื่องมือในการฟอกเขียว หรือ Greenwashing เพื่อการสร้างภาพลักษณ์ด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนของเทศกาลภาพยนตร์ระดับโลก โดยไม่มุ่งแก้ไขที่ต้นเหตุของปัญหา เช่น การลดการบริโภคที่เกินจำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของพรมซึ่งถูกเปลี่ยนใหม่ทุกวัน
เว็บไซต์ของเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์เองก็ระบุว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เทศกาลได้พยายามลดปริมาณขยะและลดรอยเท้าคาร์บอน (คาร์บอนฟุตพรินต์) โดยหนึ่งในมาตรการสำคัญคือการลดความถี่ในการเปลี่ยนพรมแดง
“ตอนนี้ความถี่ในการเปลี่ยนพรมลดลงเหลือ 1 ใน 3 เมื่อเทียบกับเดิม เท่ากับว่าวัสดุพรมประมาณ 1,400 กิโลกรัม หรือ 59% ของปริมาณที่เคยใช้ถูกประหยัดได้ในแต่ละปี”
— เว็บไซต์ของเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ระบุ
แม้จะมีข้อถกเถียง แต่โครงการนี้ก็ได้เปิดพื้นที่ให้คนในชุมชนมีส่วนร่วมในการสร้างมูลค่าใหม่จากวัสดุเดิม โดย Elsa Ramouni-Yordikian ศิลปินท้องถิ่นและสมาชิกขององค์กร เปิดเผยว่าเธอได้นำพรมแดงจากงานคานส์ในปีก่อนๆ มาสร้างสรรค์เป็นกระเป๋าถือ หมวกทรงบัคเก็ต เคสใส่แว่นตา และถุงใส่ขวดไวน์ ซึ่งบางชิ้นเป็นผลงานที่ไม่เหมือนใคร
Elsa Ramouni-Yordikian เพิ่งจัดแสดงผลงานภายใต้ชื่อนิทรรศการ “Dress like a Movie Star” ในเมืองมาร์กเซย์ โดยชูจุดเด่นของวัสดุว่าเป็นของจริงจากพรมแดงที่เหล่าคนดังเคยเดินผ่าน และถูกแปรรูปภายในท้องถิ่นเพื่อสร้างคุณค่าใหม่ ซึ่งมีคุณค่ามากกว่าการที่พรมดังกล่าวจะถูกจำหน่ายในราคาเพียง 1 ยูโรต่อกิโลกรัม
แม้ว่าการอัพไซเคิลจะไม่ใช่ทางออกทั้งหมดของปัญหาสิ่งแวดล้อม แต่กรณีของพรมแดง Cannes ชี้ให้เห็นว่า ความเปลี่ยนแปลงสามารถเริ่มต้นได้จากจุดเล็กๆ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่สร้างขยะในปริมาณมาก เช่น วงการบันเทิง การจัดงาน และนิทรรศการ หากผู้จัดงานสามารถผสานแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เข้ากับการออกแบบกิจกรรมตั้งแต่ต้น การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมก็ไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อม
ในโลกที่การผลิตวัสดุสังเคราะห์ยังคงเดินหน้าไม่หยุด การหาวิธี “ให้คุณค่าใหม่” แก่สิ่งของที่เคยถูกมองว่าไร้ค่า อาจเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญของการสร้างโลกที่ยั่งยืนในอนาคต