ประเทศไทยสร้างชื่อเสียงบนเวทีโลกอีกครั้ง เมื่อ “อ่าวมาหยา” จังหวัดกระบี่ คว้าอันดับ 1 ชายหาดที่ถ่ายภาพสวยที่สุดในโลก จากการจัดอันดับของแพลตฟอร์ม Heepsy ที่วิเคราะห์จากข้อมูลบน Instagram ขณะที่ “เกาะเต่า” จังหวัดสุราษฎร์ธานี ติดอันดับที่ 9 สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลไทยที่ได้รับความนิยมในระดับโลก ทั้งในมิติของความสวยงามตามธรรมชาติและพลังการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดีย
ข่าวดีนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับ “วันทะเลโลก” (World Oceans Day) ซึ่งตรงกับวันที่ 8 มิถุนายนของทุกปี และถือเป็นวันสำคัญที่องค์การสหประชาชาติกำหนดขึ้นตั้งแต่ปี 1992 เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกถึงความสำคัญของมหาสมุทรต่อระบบนิเวศโลก พร้อมส่งเสริมการอนุรักษ์ทะเลอย่างยั่งยืน
สำหรับ 10 อันดับชายหาดที่ถ่ายรูปสวยที่สุดในโลกนี้ ได้แก่
1. Maya Bay (ประเทศไทย)
2. Hidden Beach (เม็กซิโก)
3. Bondi Beach (ออสเตรเลีย)
4. Copacabana Beach (บราซิล)
5. Surfers Paradise (ออสเตรเลีย)
6. Bora Bora (เฟรนช์โปลินีเซีย)
7. Waikiki Beach (สหรัฐอเมริกา)
8. Praia do Sancho (บราซิล)
9. Koh Tao (ประเทศไทย)
10. Ipanema Beach (บราซิล)

อ่าวมาหยา จากชายหาดเล็กๆ สู่จุดหมายระดับโลก
อ่าวมาหยา ตั้งอยู่บนเกาะพีพีเลในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ได้รับการจัดอันดับให้เป็น ชายหาดที่ถ่ายรูปสวยที่สุดในโลก อันดับ 1 โดย Heepsy ซึ่งใช้เกณฑ์การประเมินจากจำนวนแฮชแท็กที่มากถึง 2.2 ล้านแฮชแท็ก แม้ว่าอ่าวมาหยาจะมีความยาวเพียง 250 เมตร แต่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาสัมผัสความงามได้มากถึง 2 ล้านคนต่อปี ทำให้มีจำนวนโพสต์สูงมากที่สุดในโลก
สำหรับ “อ่าวมาหยา” ยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะหลังจากใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง The Beach เมื่อปี 2000 ซึ่งกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนทั่วโลกต้องการเดินทางมาสัมผัสด้วยตาตนเอง

ขณะที่อีกหนึ่งชายหาดไทยอย่าง “เกาะเต่า” จังหวัดสุราษฎร์ธานี ก็ติดอันดับ 9 ในรายการเดียวกัน ด้วยความโดดเด่นในฐานะหนึ่งในจุดหมายในการดำน้ำและการดำน้ำตื้น (Snorkeling) ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ทำให้เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การถ่ายภาพและสร้างเนื้อหาที่น่าประทับใจบนโซเชียลมีเดีย อีกทั้งยังมีระบบนิเวศใต้ทะเลที่สมบูรณ์ มีปะการังที่มีสีสันสวยงามและสัตว์น้ำที่หลากหลาย น้ำทะเลสีฟ้าใส ชายหาดเงียบสงบที่เหมาะกับการถ่ายภาพและพักผ่อนอย่างแท้จริง

“ทะเลใต้ของไทยยังคงน่าเที่ยวตลอดทั้งปี และสามารถสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวได้ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้อย่างต่อเนื่อง ผลการจัดอันดับในครั้งนี้ นับเป็นข่าวดีสำหรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย สะท้อนศักยภาพในการดึงดูดนักท่องเที่ยวยุคดิจิทัล และการสร้างกระแสบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเดินทางและกระตุ้นให้เกิดการกลับมาเยือนซ้ำ”
— นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
ความสำเร็จที่ต้องการการดูแล บทเรียนสู่การท่องเที่ยวยั่งยืน
แม้การติดอันดับจะเป็นเรื่องน่าภาคภูมิใจ แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยวก็เตือนว่า “ความนิยม” ต้องมาพร้อมกับ “ความรับผิดชอบ” เพื่อให้ทรัพยากรธรรมชาติเหล่านี้ยังคงความงามได้อย่างยั่งยืน

ที่ผ่านมา อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา หมู่เกาะพีพี ได้ดำเนินนโยบายการจัดการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ เช่น การจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวในแต่ละวัน และการปิดอ่าวเป็นระยะเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติ ขณะที่เกาะเต่าก็มีความร่วมมือจากภาคเอกชนและชุมชนท้องถิ่นในการดูแลแนวปะการังและระบบนิเวศ
วันทะเลโลกในปีนี้จึงเป็นโอกาสอันเหมาะสมที่ทุกภาคส่วน ทั้งรัฐ เอกชน นักท่องเที่ยว และชุมชนท้องถิ่น จะร่วมกันคิดต่อยอดจากความสำเร็จ ไปสู่การอนุรักษ์ทะเลไทยในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว การจัดการขยะชายหาดอย่างมีประสิทธิภาพ หรือการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะการติดอันดับในเวทีระดับโลกไม่ใช่จุดสูงสุดของความสำเร็จ แต่เป็น “จุดเริ่มต้น” ของการเดินทางสู่อนาคตที่ยั่งยืน
ท่ามกลางแสงแฟลชและยอดแฮชแท็กที่พุ่งสูงขึ้นบนโลกออนไลน์ ภาครัฐ ชุมชน ผู้ประกอบการท่องเที่ยว และนักท่องเที่ยว จึงต้องร่วมมือกันปกป้องให้ธรรมชาติที่สวยงามนั้นดำรงอยู่เพื่อให้คนรุ่นถัดไปได้เชยชม วันนี้ทะเลไทยจึงไม่ใช่แค่ “สถานที่สวยงาม” แต่เป็น “สมบัติชาติ” ที่ทุกคนต้องหวงแหน เพราะจะมีค่าอะไร...หากเหลือไว้แค่รางวัลกับถ่ายภาพนับล้านใบในความทรงจำ