สิงคโปร์ นับเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีอะไรหลายๆ อย่างให้เที่ยว ไม่ว่าจะเป็นสวนสนุก ศิลปะ อาหารการกิน แถมยังเดินทางจากประเทศไทยก็ง่าย นั่งเครื่องบินใช้เวลาแค่ 2 ชม.กว่าๆ ก็ถึงแล้ว ส่วนเรื่องการเดินทางในประเทศก็ไม่ต้องเป็นห่วงอะไรเลย เพราะขนส่งสาธารณะบ้านเค้าสุดสะดวกสบาย จะรถเมล์ หรือ รถไฟใต้ดิน ก็มีไปถึงให้ครบทุกแลนด์มาร์ค จึงเป็นอีกเมืองที่นับว่าเที่ยวง่าย ไม่ต้องมีเวลานานมากก็ไปได้แล้ว
และอีกอย่างที่ต้องบอกว่าสิงคโปร์ก็มีเหมือนกับเขานั่นก็คือเรื่องของ ‘กีฬา’ ที่ในแต่ละปีจะมีอีเวนต์ใหญ่ๆ อย่างการแข่งขัน F1 ที่มีคนมาชมๆ ปีหนึ่งหลักแสนคนขึ้น ซึ่งเราก็เพิ่งรีวิวไปไม่นาน ไปดูเองยากไหม? รีวิวติดขอบสนาม F1 2023 ‘Singapore Grand Prix’ - SPACEBAR | Binding Culture รวมไปถึงช่วงฟุตบอลลีกยุโรปปิดฤดูกาล ก็มักจะมีสโมสรใหญ่ๆ มาอุ่นเครื่องเตรียมพร้อมซีซันใหม่กันที่นี่อยู่เป็นประจำ เพราะสนามกีฬาที่ได้มาตรฐานที่ก่อนหน้านี้ในคอลัมน์ ‘VIBE ไปเที่ยว’ VIBE ไปเที่ยว: ทำไมอีเวนต์ใหญ่ๆ ถึงพากันมาจัดที่สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ - SPACEBAR | Binding Culture
ซึ่งในวันนี้เราก็จะพาทุกคนไปเที่ยวสิงคโปร์กันอีก แต่คราวนี้จะพาสายกีฬาไปชมศึกฟุตบอล ‘สิงคโปร์ พรีเมียร์ลีก’ โดยวันที่เราไปตรงกับการแข่งนัดสุดท้ายของฤดูกาลพอดี บรรยากาศจะเป็นอย่างไรบ้าง ติดตามได้เลยครับ


สำหรับทีมที่เราเลือกไปดูคือ ไลอ้อน ซิตี้ เซเลอร์ส ทีมรองแชมป์ลีกสิงคโปร์ฤดูกาลล่าสุด ในอดีตพวกเขาคือทีม โฮม ยูไนเต็ด โดยเป็นการเปิดบ้านเจอกับ เกย์ลัง อินเตอร์เนชั่นแนล สำหรับสนามเหย้าของทีมมีชื่อว่า บิชาน สเตเดี้ยม อยู่ย่านถนนบิชาน จุผู้ชมได้ทั้งหมด 6,254 คน ซึ่งเราก็เดินทางไปด้วยการนั่งรถไฟฟ้า MRT ไปลงที่สถานีบิชาน จากนั้นก็เดินต่อไปยังสนามอีกประมาณ 700 เมตร ส่วนวิวระหว่างทางก็จะผ่านทุ่งหญ้าสีเขียวที่เวลาพระอาทิตย์ตกตอนเย็นจะมีคนมาออกกำลังกาย หรือนั่งพักผ่อนหย่อนใจกัน



เดินไปเรื่อยๆ ประมาณเกือบ 10 นาที เราก็จะมาถึงแยกที่มองเห็นไฟสนามไกลๆ แล้ว ข้ามถนนและเดินต่อเข้าไปอีกนิดเดียวก็จะเจอสนามบิชาน สเตเดี้ยม ส่วนบรรยากาศในวันแข่งขัน คือวันเสาร์ ช่วงประมาณ 6 โมงเย็นที่นู่น คนดูก็ถือว่าคึกคักพอสมควรทั้งฝั่งของเจ้าบ้านและทีมเยือน ตั้งแต่หน้าสนามไปจนถึงบริเวณที่ขายบัตรเข้าชม ซึ่งบัตรก็มีให้ซื้อทั้งฝั่งของเจ้าบ้านและทีมเยือน โดยเราเลือกนั่งฝั่งเจ้าบ้าน ราคาอยู่ที่ 16 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือราวๆ 425 บาท ส่วนตัวก็รู้สึกว่าค่อนข้างสูงอยู่เหมือนกัน

ส่วนบรรยากาศของเกมการแข่งขันคิดว่าก็คล้ายๆ กับฟุตบอลไทยบ้านเรา ทั้งสปีดในการเล่น การร้องเพลงเชียร์ของฝั่งเจ้าบ้านและทีมเยือน รวมไปถึงการเชียร์ของทั้งสองฝั่งที่ก็มีอารมณ์ร่วมกับเกมกันพอสมควร โดยในเกมวันนั้นเป็นทางฝั่งผู้มาเยือนที่ทำประตูออกนำไปก่อนในนาทีที่ 31 ก่อนที่เจ้าบ้านจะมาตามตีเสมอได้ในครึ่งหลังช่วงนาทีที่ 53 หลังจากนั้นก็พลิกแซงนาทีที่ 62 ก่อนจะได้ประตูปิดกล่องในช่วงทดเวลานาทีสุดท้าย เปิดบ้านเอาชนะไปได้ 3-1 สมศักดิ์ศรีทีมรองแชมป์ประจำฤดูกาล 2023 คว้าสิทธิ์ไปเล่นฟุตบอล เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2 รอบแบ่งกลุ่ม ซีซัน 2024/25 ได้สำเร็จ


ปิดท้ายกันด้วยบรรยากาศที่เรารู้สึกชอบมากๆ ในเกมวันนั้นคือช่วงพักครึ่งที่ทางทีมเจ้าบ้านมีกิจกรรมมาให้แฟนบอลรุ่นเยาว์ร่วมสนุก นั่นก็คือแข่งกันวิดพื้น ใครทำได้มากที่สุดก็รับรางวัลใหญ่เป็นนม 1 แพ็ค พร้อมเสื้อยืดที่ระลึก ส่วนใครไม่ชนะเขาก็มีเสื้อยืดให้ปลอบใจคนละตัว ซึ่งเราว่ามันก็ทำให้คนไม่ต้องนั่งเบื่อ ไม่รู้จะทำอะไรดีตอนบอลพักครึ่ง อารมณ์จะคล้ายๆ กับพวกอเมริกันเกมอย่าง เอ็นบีเอ หรือ เอ็นเอฟแอล ที่จะมีกิจกรรมให้ทำระหว่างช่วงพักเบรกเกม