เปิด 5 ประเทศร่วมลงทุนนิติบุคคลไทย สูงสุดในช่วง 11 เดือนแรกของปี 66 พบ ‘จีน จีน-ฮ่องกง สิงคโปร์’ ลงทุน อุตสาหกรรมไฟฟ้า พลังงาน และ พลาสติก

อรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า 11 เดือนแรกในปี 2566 (มกราคม - พฤศจิกายน) มีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจ รวมมูลค่าทั้งสิ้น 546,588.90 ล้านบาท
โดยมีสัดส่วนการลงทุนเป็นไทย 539,905.40 ล้านบาท คิดเป็น 98.73% และต่างประเทศ 6,950.49 ล้านบาท คิดเป็น 1. 72%
หากพิจารณาถึงประเทศที่เข้ามาลงทุนผ่านการจดทะเบียนนิติบุคคลตามกฎหมายไทยดังกล่าว พบว่าประเทศที่มีมูลค่าการลงทุนผ่านการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1. จีน มูลค่าการลงทุน 1,880.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 233.60 % เมื่อเปรียบเทียบจากช่วงเวลา เดียวกันของปีที่ผ่านมา (มกราคม - พฤศจิกายน 2565 มีมูลค่าการลงทุน 563.72 ล้านบาท)
ประเภทธุรกิจทีมีการลงทุนสูงสุด ได้แก่
การผลิตอุปกรณ์ควบคุมและจ่ายไฟฟ้า 634 ล้านบาท
การผลิตเหล็กและเหล็กกล้าแผ่น 340 ล้านบาท
การผลิตเครื่องจักรอื่นๆ ที่ใช้งานทั่วไป 260 ล้านบาท
กิจกรรมงานวิศวกรรมและการให้คำปรึกษาทางเทคนิคที่เกี่ยวข้อง 64.90 ล้านบาท
การผลิตเครื่องมือที่ใช้งานด้วยมือและเครื่องโลหะทั่วไป 50 ล้านบาท
2. สิงคโปร์ มูลค่าการลงทุน 703.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 320.66 % เมื่อเปรียบเทียบจากช่วงเวลา เดียวกันของปีที่ผ่านมา (มกราคม - พฤศจิกายน 2565 มีมูลค่าการลงทุน 167.27ล้านบาท)
ประเภทธุรกิจทีมีการลงทุนสูงสุด ได้แก่
กิจกรรมงานวิศวกรรมและให้คำปรึกษาทางด้านเทคนิคที่เกี่ยวข้อง 540 ล้านบาท
การผลิตเครื่องมือที่ใช้พลังงานขับเคลื่อน 133 ล้านบาท
การผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกอื่นๆ 5.20 ล้านบาท
การผลิตแผ่นไม้บางและผลิตภัณฑ์ไม้ 5 ล้านบาท
การผลิตผลิตภัณฑ์เคมีอื่นๆ 5 ล้านบาท
3. จีน-ฮ่องกง มูลค่าการลงทุน 523.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 729.52 % เมื่อเปรียบเทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา (มกราคม - พฤศจิกายน 2565 มีมูลค่าการลงทุน 63.07 ล้านบาท)
ประเภทธุรกิจที่มีการลงทุนสูงสุด ได้แก่
การผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกอื่นๆ 514.80 ล้านบาท
การผลิตเม็ดพลาสติกและพลาสติกขั้นต้น 3 ล้านบาท
กิจกรรมการให้คำปรึกษาทางด้านฮาร์ดแวร์ 3 ล้านบาท
การขายส่งเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ชนิดใช้ในครัวเรือน 0.98 ล้านบาท
การขายส่งอุปกรณ์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ 0.98 ล้านบาท
4. เมียนมา มูลค่าการลงทุน 136.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 401.73 %
เมื่อเปรียบเทียบจากช่วงเวลา เดียวกันของปีที่ผ่านมา (มกราคม - พฤศจิกายน 2565 มีมูลค่าการลงทุน 27.12 ล้านบาท)
ประเภทธุรกิจทีมีการลงทุนสูงสุด ได้แก่
การขายส่งข้าวเปลือกและธัญพืชอื่นๆ 100 ล้านบาท
การขายส่งสินค้าทั่วไป 13 ล้านบาท
การขายยานยนต์ใหม่ชนิดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลรถกระบะรถตู้ และรถขนาดเล็ก10 ล้านบาท
การขายส่งอุปกรณ์ขนส่ง (ยกเว้นยานยนต์จักรยานยนต์และจักรยาน) 2 ล้านบาท
การขายส่งยางพาราและพลาสติกขั้นต้น 2 ล้านบาท
5. เยอรมนี มูลค่าการลงทุน 99.00 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7,538.97 % เมื่อเปรียบเทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา (มกราคม - พฤศจิกายน 2565 มีมูลค่าการลงทุน 1.30 ล้านบาท)
ประเภทธุรกิจทีมีการลงทุนสูงสุด ได้แก่
1) การผลิตแบตเตอรี่และหม้อสะสมไฟฟ้า 90 ล้านบาท
กิจกรรมให้คำปรึกษาด้านการบริหารจัดการอื่น 1.48 ล้านบาท
การซื้อและการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของตนเองที่ไม่ใช่ เพื่อเป็นที่พักอาศัย1.47 ล้านบาท
กิจกรรมการทำความสะอาดพื้นผิวภายนอกอาคาร 1.47 ล้านบาท
การซื้อและการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของตนเองเพื่อการพักอาศัย 0.98 ล้านบาท