เรื่องที่กลายเป็นข่าวใหญ่และส่งผลสะเทือนเลื่อนลั่นกับตลาดเงิน-ตลาดทุน ณ นาทีนี้ คงหนีไม่พ้นกรณีที่ ‘สมโภชน์ อาหุนัย’ ประธานหน้าที่บริหาร บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) และพวกคือ ‘อมร ทรัพย์ทวีกุล’ และ ‘พรเลิศ เตชะรัตโนภาส’ ถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษต่อ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ว่ามีการร่วมกันทุจริต เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้แก่ตัวเอง
ในการจัดซื้ออุปกรณ์-โปรแกรมซอฟท์แวร์ ในโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 2 โรงของบริษัทย่อย คือ ‘อีเอ โซลา นครสวรรค์’ (ESN) และ ‘อีเอ โซลา ลำปาง’ (ESL) ทำให้ EA และบริษัทย่อยเสียหายถึง 3,465.64 ล้านบาท พร้อมทั้งส่งเรื่องไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) อีกด้วย
กรณีนี้ไม่เพียงจะส่งผลกระทบ ‘ความเชื่อมั่น’ ต่อตลาดหุ้นอย่างแรงแรง และส่งผลตัวสมโภชน์และอมรกำลังจะตกเป็น ‘ผู้ต้องหา’ คดีอาญาต้องพ้นจากตำแหน่งโดยทันที และยังทำให้หุ้นของ EA โดนขึ้นเครื่องหมาย H พักการซื้อขายในช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ EA ก็ยัง ‘เคลียร์’ ข้อมูลเพิ่มเติมมาให้ตลาดหลักทรัพย์ฯไม่ชัดเจน จนต้องตัดสินใจขึ้นเครื่องหมาย SP พักการซื้อขายชั่วคราวในช่วงบ่ายวันจันทร์
ก่อนหน้านี้หลังจากที่ถูกข้อกล่าวหาจาก ก.ล.ต.ในวันศุกร์ สมโภชน์พยายาม ‘แก้เกม’ โดยเรียกประชุมคณะกรรมการนัดพิเศษในวันอาทิตย์ และมีมติแต่งตั้ง ‘สมใจนึก เองตระกูล’ อดีตปลัดกระทรวงการคลังวัย 80 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้นั่งในตำแหน่ง ประธานกรรมการบริษัท ขึ้นมารักษาการในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO)
พร้อมทั้งตั้ง ‘ชัชวาล เจียรวนนท์’ มาเป็นกรรมการแทน ‘ปฎิภาณ สุคนธมาน’ และ ‘วสุ กลมเกลี้ยง’ กรรมการบริษัทมานั่งในตำแหน่ง รักษาการประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน (CFO) แทน ‘อมร ทรัพย์ทวีกุล’ รวมทั้งตั้ง ‘ฉัตรชัย ศรีประทุม’ มาเป็นกรรมการบริษัทแทนตัวสมโภชน์เอง นอกจากนี้ยังมีมติจะเพิ่ม ‘สุพันธุ์ มงคลสุธี’ อดีตประธานสภาออุตสาหกรรมฯ มาเป็นกรรมการใหม่อีกหนึ่งคน
สมโภชน์ ยังเปิดแถลงข่าวอีกครั้ง โดยยืนยันว่าโครงการโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ที่ นครสวรรค์ และลำปาง ‘ไม่ได้มีการทุจริต’ ตามข้อกล่าวหา เพราะกระบวนการในการจัดซื้อจัดจ้างผ่านมติบอร์ด และเป็นการรับเหมาแบบทั้งโครงการ (Turn Key) โดยต้นทุนการก่อสร้าง 2 โครงการ ยังมีราคาต่ำกว่าโครงการของบริษัทอื่นในเชิงปรียบเทียบ สามารถทำกำไรได้สูงสุด และพร้อมที่จะต่อสู้ข้อกล่าวหา เพราะมั่นใจในความบริสุทธิ์อย่างเต็มที่
ผลสะเทือนที่เกิดขึ้นนอกจาก หุ้น EA จะถูกขึ้น SP พักการซื้อขายแล้ว ยังทำให้ราคาหุ้นของบริษัทย่อยคือ เน็กซ์ พอยท์ (NEX) ที่ทำเรื่องรถเมล์ไฟฟ้า และบริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ (BYD) กอดคอร่วงลงติดฟลอร์อีกครั้งในวันนี้ โดยราคาดิ่งลงเหลือเพียงหุ้นละ 1.08 บาท และ 1.26 บาท ตามลำดับ
ในเวลาเดียวกันข่าวดังกล่าวยังทำให้ตลาดหุ้นที่อ่อนไหว เนื่องจากเกิด **‘วิกฤตศรัทธา’**ในเรื่องของธรรมาภิบาลของเจ้าของหุ้นหลายๆรายในตลาดฯที่มีการนำหุ้นตัวเองไปจำนำกู้เงินมาเล่น ‘มาร์จิน’ ซื้อหุ้นตัวเองหรือบริษัทลูกเพื่อสร้างราคา
แต่ถูกโบรคเกอร์หรือกองทุนต่างชาติทำ ‘ชอร์ตเซล’ เทขายหุ้น จนเจ้าของหุ้นต้องถูกบังคับขาย หรือ ‘ฟอร์ตเซล’ จนทำให้ตลาดหุ้นทรุดเพราะตลาดหมดความเชื่อมั่น จนต้องมีมาตรการออกมาเพื่อหยุดกระบวนการ ‘ชอร์ตเซล’ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เพราะตลาดหุ้นเกิดอาการ ‘เสียศูนย์’ กลับไปปักหัวดำดิ่งปิดที่ระดับ 1,327 จุดอีกครั้ง
นอกจากนี้ผลกระทบในเชิงลบยัง ‘ลุกลาม’ ไปถึงเจ้าหนี้สถาบันการเงินทั้งฝั่งเงินกู้ และหุ้นกู้ โดยคาดว่า EA มีหนี้เงินกู้กับสถาบันการเงินรวมๆกันไม่ต่ำกว่า 3.1 หมื่นล้านบาท และหนี้หุ้นกู้อีกไม่ต่ำกว่า 3.2 หมื่นล้านบาท โดยมีหนี้หุ้นกู้ที่กำลังจะครบกำหนดในเดือนสิงหาคม 1.5 พันล้านบาท และ กันยายนอีกราว 4 พันล้านบาท โดยการออกหุ้นกู้ชุดใหม่เพื่อ Roll Over คงเป็นได้ ‘ยากถึงยากที่สุด’ ซึ่งอาจจะนำไปสู่การ ‘ผิดนัดชำระหนี้’
ยิ่งไปกว่านั้น ในด้านภาพรวมของเรื่องธรรมาภิบาลของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็ถูกทำลายไปเกือบสิ้นเชิง เพราะก่อนหน้านี้ EA เคยได้รับ ‘สกอร์’ หรือคะแนนในระดับ 5 ดาว และได้รับการจัดอันดับเป็นหุ้นที่มีความยั่งยืนหรือ ‘SET ESG Ratings’ ในระดับ ‘AA’ และเคยได้รับรางวัลต่างๆ มากมาย จนล่าสุด ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องตัดสินใจ ‘ถอด’ ออกจากบัญชีทันที หลังเกิดเรื่อง
ลำพังการแก้ข้อกล่าวหาเรื่องการนำหุ้นไปจำนำ เพื่อเล่น ‘มาร์จิน’ เกินกำลังจนถูกบังคับขายก็เป็นเรื่องที่ทำเอาหุ้น EA และหุ้นตัวลูกอย่าง NEX และ BYD พังพินาศหนักอยู่แล้ว
เมื่อมาเผชิญกับกรณีปั้นตัวเลขการลงทุนโรงไฟฟ้าที่สูงเกินจริง เพื่อ ‘ไซฟอน’ เงินออกไป และนำกลับมา ‘ฟอกขาว’ ซื้อหุ้นตัวเองสร้างราคาจนทำให้หุ้นเคยขึ้นแตะหลักร้อยบาท ซึ่งหากเป็นจริงก็ยิ่งสะท้อนความ ‘ฉ้อฉล’ ที่แทบไม่น่าเชื่อว่าเกิดขึ้นกับบริษัทที่เคยถูกมองว่าเป็น ‘หุ้นแห่งอนาคต’ ที่ได้รับความนิยมจนตัวสมโภชน์เองเคยถึงขึ้นไปติด ‘ท็อปเทน’ ของมหาเศรษฐีหุ้นเมืองไทยเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา
หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมจู่ๆ เรื่องไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับโรงไฟฟ้าทั้งสองโรง จึงถูก ก.ล.ต.ตรวจพบ ซึ่งความจริงแล้วเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อว่า เบาะแสและรายละเอียดทั้งหมดมาจาก ‘อดีตภรรยา’ ของสมโภชน์ ‘บลังก้า ชูหลาน หวาง’ ที่นอกจากจะส่งเรื่องร้องเรียนและเอกสารให้กับ ก.ล.ต. มาตั้งแต่ ปี 2559 แล้ว เธอยังโพสต์รายละเอียดทั้งหมดลงในเพจ ‘เฟซบุ๊ก’ ของตัวเธอเองมีความยาวถึง 64 หน้า ที่เปิดเผยถึงตัวละคร บริษัท ‘นอมินี’ ที่ถูกจัดตั้งขึ้นที่ฮ่องกง เพื่อยักย้ายถ่ายเทเม็ดเงินนับพันๆ ล้านบาท กลับมาซื้อหุ้นตัวเอง ‘ฟอกขาว’ อีกรอบ
ต้องยอมรับว่า ถ้าพิจารณาจากหลักฐานและวิธีการทั้งหมดมีความสลับซับซ้อนชนิดที่แทบจะ ‘ไร้ร่องรอย’ หากไม่ได้ข้อมูลเชิงลึก มาจากคนใกล้ตัวขนาดนี้ คงยากที่จะสืบค้นจนนำไปสู่การกล่าวโทษได้
เรื่องราวสลับซับซ้อน ซ่อนเงื่อนขนาดไหน และจะส่งผลต่อข้อกล่าวหา สมโภชน์และพวกขนาดไหน Deep Space จะนำมาถ่ายทอดให้เข้าใจง่ายๆ ในตอนต่อไปวันพรุ่งนี้ โปรดติดตาม...