ปรากฎการณ์ ฝนตกขี้หมูไหล

4 มิ.ย. 2567 - 09:56

  • สถานการณ์การเมืองช่วงนี้ คือการจัดสมดุล

  • หลังปล่อยให้มีการล้ำเส้น เล่นเกินเบอร์ไปหลายเรื่อง

  • รอการเลือก สว. และขบวนการแก้รัฐธรรมนูญว่าเดินไปอย่างไร

DeepSpace Rain falls, pig dung flows-SPACEBAR-Hero.jpg

ผ่านมาถึงวันนี้ ปรากฎการณ์การเมืองแบบฝนตกขี้หมูไหล ชนิดที่จับเรื่องนั้นมาโยงกับเรื่องนี้ จนกลายเป็นปัญหาดีลลับสะดุด-หักดีล-ล้มดีล ที่บางคนถึงขั้นวิเคราะห์ไปไกลขนาดว่า การเมืองมาถึงช่วง ‘แหกโค้ง’ ไปต่อไม่ได้แล้ว

คงถึงคราวที่ต้องสวมวิญญาญ ‘เวสสันดรเดินไพร’  ไปเป็นสัมภเวสีอยู่ต่างแดนกันอีกรอบ ประมาณนั้น 

นาทีนี้กระแสที่ว่าน่าจะซาลงบ้างแล้ว เพราะประเมินจากรอบทิศทาง ฟังความรอบข้าง โดยเฉพาะจากคอการเมืองที่มองข่าวสารตามเนื้อผ้า ไม่ใช่วิเคราะห์จากอคติตามที่คนพูดอยากเห็น เหมือนในอดีตที่มีนักการเมืองใหญ่คนหนึ่งใช้คำพูด ‘ตำหนิ’ สื่อบางรายการว่า

มองแต่มุมมารดาตัวเอง!!

เอาเป็นว่า สถานการณ์การเมืองชั่วโมงนี้ เลยจุดของการ ‘ตกหลุม’ อากาศทางการเมืองไปแล้ว สภาพอากาศที่เกิดการแปรปรวนจากการ ‘โอเวอร์แอ๊คชั่น’  หรือเล่นเกินเบอร์ไปหน่อย ต่อจากนี้คงจะกลับเข้าที่เข้าทาง โดยเฉพาะคำสั่งฟ้องคดีมาตรา 112 ที่ต้องการรักษา ‘สมดุล’ ทางกฎหมายเอาไว้

ไม่ถึงขั้นต้องมารุกฆาตอะไรกันตอนนี้หรอก!!

เพราะยังมีงานสำคัญรอให้ทำอยู่ข้างหน้าอีกเยอะ ไม่ว่าจะการ ‘เลือก สว.’ ที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 9 - 26 มิถุนายนนี้ การเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญที่จะเริ่มขึ้นในวันอังคารที่ 18 มิถุนายน ซึ่งมีวาระสำคัญทั้งการแก้ไข พ.ร.บ.ประชามติ พ.ศ.2564 การพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี2568 และร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายกลางปีงบประมาณปี2567 เพื่อเติมเงินในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่จะโอนให้ประชาชนในช่วงไตรมาส 4 

ไม่นับการออกกฎหมาย ‘นิรโทษกรรม’ ผู้ชุมนุมทางการเมือง ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพ.ร.บ.นิรโทษกรรม นัดประชุมไว้ในวันพฤหัสบดีที่ 6 มิถุนายนนี้ เพื่อหาข้อสรุปในสองประเด็นสำคัญที่ค้างคาอยู่ คือ คณะกรรมการกลั่นกรองคดี และนิยามคำว่า ‘แรงจูงใจทางการเมือง’

คณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ ขอขยายเวลาจาก 90 วัน ออกไปอีก 60 วัน แต่ก็ยังวนลูปอยู่กับเรื่องนิยาม คณะกรรมการพิจารณา และฐานความผิดจะให้ครอบคลุมถึงมาตรา 112 ด้วยหรือไม่

ยิ่งมีปรากฎการณ์อัยการสั่งฟ้อง ทักษิณ ชินวัตร คดีมาตรา 112 ด้วย ทำให้คนบางกลุ่มเกิดความหวังจะมีการนิรโทษกรรมแบบ ‘เหมาเข่ง’  ตามร่างของพรรคก้าวไกลที่เสนอไว้ เพื่อให้นายใหญ่เพื่อไทยที่ตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน ได้รับการปลดปล่อยไปด้วย

เป็นไฟต์บังคับของสส.เพื่อไทย ต้องหันมาสนับสนุนร่างพรรคก้าวไกล ที่ล่าสุดมีคนในเพื่อไทยโยนหินก้อนใหญ่ถามทางนำร่องออกมามาแล้ว

แต่คงลืมไปว่า ทั้งเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลได้แสดงท่าทีมาตลอด ไม่ให้รวมความผิดมาตรา 112 ไปกับการนิรโทษกรรม ซึ่งปรากฎอยู่ในนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภาไว้ ดังนั้น คดีมาตรา 112 ที่อัยการสั่งฟ้องทักษิณ จึงไม่ได้ช่วย ‘อุ้ม’ ผู้ทำผิดมาตรา 112 ไปด้วยอย่างที่เข้าใจ

ที่สำคัญคำสั่งฟ้องคดีมาตรา 112 ของทักษิณ เป็นเรื่องการจัดสมดุลทางกฎหมาย ซึ่งแตกต่างจากการดำเนินคดีกับกลุ่มเยาวชนก่อนหน้านี้

สรุปว่า การดำเนินคดีมาตรา 112 กับทักษิณและกลุ่มเยาวชนมีเหตุผลที่ไม่เหมือนกัน?!

ทำให้สถานการณ์การเมืองต่อจากนี้ทุกอย่างต้องว่าไปตามกฎหมาย ทั้งการ ‘สั่งฟ้อง’ ทักษิณคดีมาตรา 112 และการ ‘ถอดถอน’  เศรษฐา ทวีสิน ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่จะครบกำหนดยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญในวันจันทร์ที่ 10  มิถุนายน

ให้ทุกอย่างว่าไปตามเนื้อผ้า แต่ประมวลจากทุกหลักตั้งแต่ข้อกฎหมายไปจนถึง ‘ไสยศาสตร์’  พอจะเดาทางได้ว่าสุดท้ายแล้วนายกฯ เศรษฐา ก็ยังได้อยู่ทำหน้าที่ต่อไป โดยมียอด ‘กุนซือ’ สมองเพชรทางกฎหมายอย่าง ‘วิษณุ เครืองาม’ คอยเป็นทุกอย่างให้ 

แม้แต่เป็นสัญลักษณ์ทางอำนาจ!!

เมื่อทราบอย่างนี้แล้ว คนในเพื่อไทยและแกนนำเสื้อแดง คงต้องเพลาๆ ลงหน่อย อย่าออกมาแสดงข้อรังเกียจการเข้ามาของอาจารย์วิษณุจนเกินงาม เพราะหากจะตั้งข้อรังเกียจที่เคยอยู่กับคสช.มาก่อน แล้วที่เพื่อไทยถูกกล่าวหา ‘ตระบัดสัตย์’ ข้ามขั้วมาจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคสองลุงนั้น

วันนี้คนเสื้อแดงยังเหลือสิ่งใดไว้เป็นความภาคภูมิใจอยู่อีกหรือ?

ที่ออกมา ‘สะกิด’ แรงๆ เพราะไม่อยากเห็นการมองข้ามเรื่องใหญ่ แต่มาติดใจอยู่กับสิ่งที่เป็นส่วนประกอบ เอาเวลาไปคิดหาคำอธิบายกับมวลชนคนเสื้อแดงไว้ล่วงหน้าเรื่องที่เพื่อไทยมาสมาทานตัวเป็น ‘พรรคอนุรักษ์นิยมใหม่’ จะดีกว่า 

เพราะหากขืนเล่นเกินเบอร์เหมือนนายใหญ่ แล้วอาจารย์วิษณุเกิด ‘น้อยใจลาออก’ ไปเสียกลางคัน แกนนำบางคนนั่นแหละจะเดือดร้อนเสียเอง ถ้า ‘นายหญิง’ เกิดกริ้วขึ้นมา

สรุปการเมืองไทยมาถึงตอนนี้ไม่มีคำว่า ‘แหกโค้ง’  อย่างแน่นอน จะมีก็แต่ปรากฎการณ์ฝนตกขี้หมูไหลเท่านั้นแหละ

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์