‘จักรภพ’ นำร่องแดงพลัดถิ่น กลับบ้านเสริมทัพ ‘ทักษิณ’

29 มีนาคม 2567 - 09:17

economy-home-thailand-political-asylum-SPACEBAR-Hero.jpg
  • ปรากฎการณ์เสื้อแดงกลับบ้าน กำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว

  • การกลับมาของจักรภพ เพ็ญแข เป็นสัญญาณของความเปลี่ยนแปลง

  • ถ้าทักษิณ ชินวัตร กลับมาได้ ลูกน้องก็เดินตามไม่ยากแล้ว

ทันทีที่ ‘จักรภพ เพ็ญแข’ หนึ่งในผู้ลี้ภัยการเมือง ตัดสินใจเดินทางกลับบ้านเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอีกคน หลังหลบหนีไปอยู่ต่างประเทศนาน 15 ปี ซึ่งมาพร้อมกับคำพูดหลาย ๆ ประโยคที่ชวนให้คิดตาม เริ่มจากประโยคแรกที่แจ้งข่าวการเดินทางกลับ

‘กลับไปรับใช้เมืองไทยครับ’

จากนั้น ก็มีอีกหลายประโยคตามมา ผ่านการโพสต์คลิปวิดีโอขณะเดินทางไปสนามบินกลับประเทศไทย ในช่วงกลางดึกคืนวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีอยู่หลายประโยคที่ต้องขีดเส้นใต้คำพูดเหล่านั้นไว้

‘ผมไปอยู่ต่างประเทศ 15 ปี ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของโลกในทุกเรื่อง ทำให้สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นมาคือ ห่วงประเทศไทย ผมก็เป็นคนไทย รักประเทศไทย..ผมคิดว่าผมสามารถเก็บเกี่ยวประสบการณ์เหล่านี้กลับบ้านได้ เอาไปใช้ในการเตรียมประเทศไทยในยามที่โลกกำลังเปลี่ยนแปลงแบบจำหน้าไม่ได้’

เป็นการสื่อสาร ที่ขยายความเนื้อหาในประโยคแรกที่บอกกล่าวถึงการกลับมารับใช้เมืองไทย พร้อมบอกถึงความคิดที่เปลี่ยนไปเมื่อวันเวลาได้ผ่านไประยะหนึ่ง

‘สิบกว่าปีนี้ทำให้ผมได้คิดว่า เราคนไทยจะขัดแย้งกันทำไม ในเมื่อโลกกำลังเปลี่ยนแปลง ประเทศไทยควรรวมเป็นหนึ่งเดียว ความหลากหลายทางความคิดเป็นเรื่องดี ไม่น่าจะเป็นเหตุให้ทะเลาะ ผมจึงเอาตัวเองนี่แหละครับเป็นจุดเริ่มต้น ไม่ไปบอกให้ใครทำแล้ว เมื่อเราคิดเราต้องทำก่อน’

และปิดท้ายด้วยประโยคกึ่ง ๆ สารภาพในสิ่งที่พูด ที่ทำไว้ในในอดีต พร้อมกับขอโอกาสให้ตัวเอง

‘ส่วนเรื่องสิ่งที่เคยพูดไว้ เคยเขียนไว้ เคยแสดงออกไว้ ผมไปเปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่ผมอยากเรียนท่านว่า ผมได้คิดอะไรใหม่ขึ้นเยอะ และขอให้โอกาสผมสักนิดเถอะครับว่าความคิดใหม่ ๆ จะช่วยประเทศได้ไงบ้าง’

การกลับมาของ ‘จักรภพ เพ็ญแข’ วันนี้มีเป้าหมายที่ค่อนข้างชัด และแน่นอนไม่ใช่คิดเอง ทำเองลำพังแล้วตัดสินใจ แต่ผ่านการออกแบบที่เจ้าตัวเองก็ยอมรับว่า ได้โทรศัพท์คุยกับ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ แม้จะย้ำไม่ใช่ขอคำปรึกษา แต่ก็มีข้อความสำคัญที่ทักษิณฝากไว้ให้คิด

คือคำว่า ‘ยุคนี้หลายอย่างเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น’

จากนี้ไปไม่เพียงจักรภพ ที่กลับมาแบบหนูทดลองยาเท่านั้น ในวันถัด ๆ ไป จะยังมีกลุ่มคนเสื้อแดงที่ลี้ภัยอยู่ต่างแดน ทยอยเดินทางกลับประเทศภายใต้  ‘ดีลพิเศษ’ อีกหลายคน โดยจักรภพอาสารับเป็นธุระช่วยเหลือคนเหล่านั้นเอง 

เพราะเชื่อในกระบวนการยุติธรรม ภายใต้ร่มเงารัฐบาลพรรคเพื่อไทย จะสามารถให้ความยุติธรรมกับพวกเขาได้

แต่การกลับมาของเสื้อแดงในต่างแดน คงจะพิจารณาจากความหนักเบาของโทษเป็นหลัก หากเป็นเพียงข้อกล่าวหาเล็กน้อยอย่างกรณีของจักรภพ ก็สามารถเดินทางกลับมาได้เลย แต่ในรายที่มีข้อกล่าวหาหนักหน่อย คงต้องรอให้มีการออก ‘กฎหมายนิรโทษกรรม’ เสียก่อน

การเมืองไทยเดินมาถึงจุดนี้ หลายคนโดยเฉพาะผู้ที่เคยต่อสู้กับระบอบทักษิณมาก่อน อาจจะรู้สึกงง ๆ กับประเทศไทยพ.ศ.นี้ไม่น้อย เหมือนกับโลกมันได้หมุนกลับไปที่เดิมเมื่อ 20 ปีที่แล้ว

แต่สำหรับทักษิณและพรรคเพื่อไทย มันคือการรวมเอาคนเก่า ๆ กลับมาร่วมกัน ‘สร้างบ้านแปงเมือง’ ขึ้นใหม่อีกครั้ง ภายใต้ภารกิจสำคัญที่ทำให้ทักษิณได้กลับบ้านแบบเท่ ๆ อย่างที่พูดไว้ ซึ่งก็ต้องแลกกับการปรับเปลี่ยนตัวตน ปรับวิธีคิด มา**‘สมาทานศีล’** กันใหม่

ไม่เว้นแม้กระทั่งเพื่อไทยยังถูกมองเป็น ‘พรรคอนุรักษ์นิยมใหม่’

ต่อจากนี้จะได้เห็นบทบาททางการเมืองในเชิงรุกจากทักษิณมากขึ้น โดยมีคนที่เคยเป็นมือไม้เก่า ๆ กลับมาทำงานด้วย และไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง หรือกังวลเรื่องของคำว่า ‘นิติสงคราม’ จะคอยเล่นงาน เพราะเมื่อให้ทำงานก็ต้องได้รับอิสระในการเคลื่อนไหว

การกลับมาใน ‘look’ ใหม่ของจักรภพเที่ยวนี้ ที่ทุกย่างก้าวหลังลงจากเครื่อง โดยเฉพาะทางกายภาพแทบจะ ‘ก๊อปปี้’ จากทักษิณมาทั้งดุ้น จึงเป็นการกลับมาแบบนำร่อง ก่อนนำเสื้อแดงพลัดถิ่นในต่างแดนคนอื่น ๆ กลับมาเสริมทัพลุยงานการเมืองกับทักษิณอีกครั้ง

แต่เสื้อแดงมีหลายปีก ก็คงได้เฉพาะกลุ่มที่พร้อมจะมาสมาทานศีลข้อเดียวกันเท่านั้น

ข่าวที่น่าสนใจ

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์