ฤดูเปลี่ยน แฟชั่นไม่เปลี่ยน! คนรุ่นใหม่เริ่มต้นความยั่งยืนง่ายๆ ที่ ‘ตู้เสื้อผ้า’

13 พ.ค. 2568 - 08:51

  • ผลสำรวจจาก UNIQLO ชี้ความร้อนและสภาพแวดล้อมที่คาดเดาไม่ได้ ส่งผลต่ออารมณ์และประสิทธิภาพการทำงานของคนกรุงเทพฯ

  • คนกรุง 82% กังวลใจเมื่อรู้สึกเหนียวตัวหรือไม่สบายตัวเพราะเสื้อผ้า และ 42% เผยว่าคุณภาพของงานลดลงเมื่อสวมใส่เสื้อผ้าที่ไม่สบายตัว

  • เปิดแนวคิด Mono-seasonal Wardrobe ตู้เสื้อผ้าฤดูกาลเดียว ใส่ได้ทั้งปีและดีต่อโลก

ชีวิตดีๆ ที่ลงตัวของคนกรุงเทพฯ ในปี 2025 ไม่ได้มีแค่รถติดและน้ำรอระบาย แต่ยังพ่วงด้วยความอับชื้นจากสภาพอากาศที่แปรปรวน ชวนให้เสื้อเชิ้ตที่ใส่มาอย่างโปร กลายเป็นเสื้อชุ่มเหงื่อในเวลาอันสั้น พาเอาความมั่นใจละลายไปกับไอร้อน และทำให้คนเมืองรู้สึกไม่พร้อมในทุกๆ ก้าวที่เดิน นี่คือความจริงของการใช้ชีวิตในเมืองท่ามกลางยุคโลกรวน ซึ่งไม่เพียงแต่กระทบรูปลักษณ์และอารมณ์ แต่ยังส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานของเรา

 

new-generation-starts-sustainability-from-the-closet-SPACEBAR-Photo01.jpg
ผลสำรวจจาก UNIQLO ชี้ความร้อนและสภาพแวดล้อมที่คาดเดาไม่ได้ ส่งผลต่ออารมณ์และประสิทธิภาพการทำงานของคนกรุงเทพฯ / ณัฐพล โลวะกิจ

เมืองร้อนเร็ว ชีวิตต้องเร็วกว่า

จากผลการสำรวจล่าสุดจาก UNIQLO ร่วมกับ Dynata ที่สำรวจผู้คนกว่า 7,000 คนใน 7 เมืองใหญ่ทั่วโลก ทั้งลอนดอน, ปารีส, นิวยอร์ก, เซี่ยงไฮ้, โซล, โตเกียว รวมถึงกรุงเทพฯ เพื่อทำความเข้าใจว่า “สภาพอากาศเมืองที่คาดเดาไม่ได้” ส่งผลอย่างไรต่อการใช้ชีวิต ความรู้สึก และการแต่งตัวของเรา ซึ่งผลลัพธ์นั้นน่าสนใจคือ เมื่ออุณหภูมิเริ่มไม่เป็นใจ สิ่งแรกที่คนเมืองทำไม่ใช่เปิดแอร์หรือเปลี่ยนเส้นทางการเดินทาง แต่คือ “เปลี่ยนเสื้อผ้า”

new-generation-starts-sustainability-from-the-closet-SPACEBAR-Photo02.jpg
ผลสำรวจจาก UNIQLO ชี้ความร้อนและสภาพแวดล้อมที่คาดเดาไม่ได้ ส่งผลต่ออารมณ์และประสิทธิภาพการทำงานของคนกรุงเทพฯ

 

กว่า 86% ของผู้ตอบแบบสอบถามรู้สึกว่าสภาพอากาศในเมือง “เปลี่ยนไปจริง” และ 65% ระบุว่า การรักษาความสบายตัวตลอดวันนั้น “เป็นเรื่องท้าทาย” ส่วนสิ่งที่น่ากังวลที่สุดไม่ใช่แค่เหงื่อที่ทำให้รู้สึกเหนียวตัว แต่มันคือการที่อารมณ์ ความมั่นใจ และคุณภาพของงานลดลงเพียงเพราะเสื้อผ้าไม่สบายตัว

ขณะที่ 82% ของคนกรุงเทพฯ กังวลเมื่อรู้สึกเหนียวตัวจากอากาศร้อนชื้น และ 42% ยอมรับว่าคุณภาพงานลดลงเมื่อรู้สึกไม่สบายตัวจากเสื้อผ้า

แต่ที่น่าตกใจมากกว่านั้นคือ ในกลุ่มวัยทำงานตอนต้น (25-34 ปี) กว่า 3 ใน 4 คนเคยต้องยกเลิกนัด พบเพื่อน หรือประชุมนอกสถานที่เพราะไม่มั่นใจในเสื้อผ้า ชี้ให้เห็นว่าเสื้อผ้าไม่ใช่แค่แฟชั่น แต่มันคือกลไกปกป้องจิตใจ

การแต่งตัวอย่างมีสติ (Mindful Dressing) เป็นหนึ่งในไม่กี่สิ่งที่เราควบคุมได้ท่ามกลางโลกที่วุ่นวาย การเลือกเสื้อผ้าที่เหมาะกับตัวเอง จึงมีผลโดยตรงต่อความเครียด ความมั่นใจ และประสิทธิภาพในการทำงาน

Dr.Dion Terrelonge นักจิตวิทยาแฟชั่นจากอังกฤษ กล่าว


นอกจากนี้ ผลการสำรวจยังพบว่า 64% ของคนที่เลือกใส่เสื้อผ้าที่ช่วยลดเหงื่อบอกว่า รู้สึก “กังวลน้อยลง” และ 63% รับมือกับสถานการณ์เครียดได้ดีขึ้นเมื่อแต่งตัวแล้วรู้สึกสบายตัว ปัจจุบันเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดีหรือช่วยซับเหงื่อ เช่น เสื้อชั้นในหรืออินเนอร์แวร์ที่แห้งเร็วจึงกลายเป็น “ไอเท็มจำเป็น” สำหรับคนเมือง

 

ตู้เสื้อผ้าฤดูกาลเดียว แนวคิดใหม่เพื่อโลกที่ดีกว่า

ในอดีตตู้เสื้อผ้าของเราถูกออกแบบให้รองรับฤดูกาลต่างๆ มีเซ็ตเสื้อกันหนาวสำหรับฤดูหนาว เสื้อบางสำหรับฤดูร้อน แต่วันนี้โลกเปลี่ยนไป ฤดูร้อนอาจโผล่มากลางฤดูหนาว และฝนอาจเทลงมาโดยไม่ให้สัญญาณใดๆ ด้วยเหตุนี้แนวคิด Mono-seasonal Wardrobe หรือตู้เสื้อผ้าฤดูกาลเดียว จึงเกิดขึ้น โดยคนรุ่นใหม่หันมานิยมเสื้อผ้าที่ออกแบบให้ใส่ได้ทั้งปี เน้นตอบโจทย์การใช้งาน ปรับเลเยอร์ได้ง่าย พร้อมตอบโจทย์ความยั่งยืนด้วยการลดการซื้อเสื้อผ้าใหม่โดยไม่จำเป็น ซึ่งจากผลสำรวจพบว่า 46% ของคนรุ่นใหม่ (อายุ 18-44 ปี) เลือกหลีกเลี่ยงการซื้อเสื้อผ้าตามฤดูกาล และหันมาเลือกเสื้อผ้าที่สามารถ Mix & Match ได้ตลอดปี


new-generation-starts-sustainability-from-the-closet-SPACEBAR-Photo03.jpg

Functional Wear และ Circular Fashion

วันนี้ต้องยอมรับว่าเสื้อผ้าไม่ได้เป็นแค่เรื่องของความสวยงามและแฟชั่น แต่เป็นเครื่องมือการใช้ชีวิต สะท้อนตัวตนของผู้สวมใส่ ดังนั้น เสื้อผ้าที่ตอบโจทย์คนยุคใหม่จึงต้องสวยและใช้งานได้จริง (Functional Wear) พร้อมกับคำนึงถึงผลกระทบที่เกิดกับโลก ทำให้กระแสฟาสต์แฟชั่นที่ทันเทรนด์ต้องตกยุค ปลุก Circular Fashion หรือระบบแฟชั่นแบบหมุนเวียน ทำให้เสื้อผ้าถูกใส่ซ้ำอย่างคุ้มค่า และหันมาซ่อมแซม แลกเปลี่ยน หรือ DIY ให้ใช้งานได้ยาวนานที่สุด


เมื่อโลกเปลี่ยน เสื้อผ้าก็ไม่ใช่แค่สิ่งที่เราสวมใส่อีกต่อไป แต่มันคือเครื่องมือในการรับมือกับวิกฤตสภาพอากาศ ที่บอกเล่าทั้งตัวตน ไลฟ์สไตล์ และจุดยืนต่อโลกใบนี้ ในยุคที่อากาศแปรปรวน ความร้อนในเมืองพุ่ง ฝนตกบ่อย และทรัพยากรถูกใช้เกินจำเป็น “ความยั่งยืน” อาจไม่ใช่เรื่องไกลตัวอย่างที่เคยคิด เพราะบางครั้งจุดเริ่มต้นของ Climate Action อาจอยู่ใกล้แค่ใน ตู้เสื้อผ้า ของเราเองก็เป็นได้

อ้างอิง

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์