ฮาวทูกู้โลกรวน ฉบับพูดง่าย ทำยาก
วิธีที่ 29: สังคม(คาร์บอน)ต่ำ…Net Zero Man!!
ค่าใช้จ่ายยังนั่งคิด แล้วคุณภาพชีวิตคิดตอนไหน ปล่อยให้สุดแล้วหยุดที่โลกแตกดีไหม?
แนะนำ : โชว์ความแมนให้โลกเห็นด้วยการเป็น Net Zero Man คำนวณ Carbon Footprint เปิดเรื่องจริงเพื่อกู้โลก

WHAT (เกิดอะไรขึ้นอ่ะ?)
เราทุกคนเป็น “ผู้ก่อการร้ายทางสิ่งแวดล้อม” แบบไม่รู้ตัว เพราะทุกครั้งที่เราหายใจ เท่ากับเรากำลังก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) งั้น...หยุดหายใจดีไหมนะ?

เพราะอายุขัยยังไม่หมด เราจึงสร้างรอยเท้าคาร์บอน หรือเรียกให้อินเตอร์ขึ้นมาว่า “Carbon Footprint” ซึ่งเป็นการวัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากกิจกรรมต่างๆ ของเราตลอดทั้งวัน ตั้งแต่ตอนที่เราตื่นขึ้นมาจนถึงตอนหลับไปเลยเชียว (ไม่ว่าจะนอนดีหรือไม่ดี รอยเท้าคาร์บอนก็ไม่เคยหยุดเดิน)
ข้อมูลเกี่ยวกับการปล่อย CO₂ จากการหายใจของคนเรามาจากกระบวนการทางชีวเคมีที่เรียกว่า Cellular Respiration ซึ่งเป็นกระบวนการที่ร่างกายใช้ในการเปลี่ยนแปลงสารอาหาร (เช่น กลูโคส) ให้กลายเป็นพลังงาน (ATP) และในกระบวนการนี้จะปล่อย CO₂ ออกมาด้วย โดยสามารถคำนวณได้จากการประเมินการหายใจเฉลี่ยและปริมาณ CO₂ ที่เกิดจากการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย
ตามการศึกษาที่อ้างอิงในงานวิจัยและข้อมูลทางการแพทย์ ประมาณการการหายใจของคนเรา ว่าเราหายใจเฉลี่ย 16-20 ครั้งต่อนาที ซึ่งหมายความว่าใน 1 วัน (24 ชั่วโมง) จะหายใจประมาณ 23,000-28,800 ครั้ง
เมื่อการเผาผลาญพลังงานในร่างกายปล่อย CO₂ ประมาณ 0.5 กรัมต่อการหายใจ 1 ครั้ง ทำให้จำนวน CO₂ ที่ปล่อยในแต่ละวันอยู่ที่ประมาณ 1-1.2 กิโลกรัมต่อวัน
ลองคิดเล่นๆ เราปล่อย CO₂ ต่อเดือน 30-36 กิโลกรัมต่อเดือน คิดเป็น 365-438 กิโลกรัมต่อปี ถ้าคูณการมีชีวิตอยู่ของเราเข้าไป...บานตะไทเลยมั้ยละ! แบบนี้ต้องปลูกต้นไม้เพื่อชดเชยเยอะหน่อยล่ะ!!
WHY (ทำไมโลกร้อนล่ะ, เกี่ยวไร?)
ก็อย่างที่เกริ่นไปตอนต้นว่า ค่าใช้จ่ายยังนั่งคิด แล้วคุณภาพชีวิตคิดตอนไหน งั้นก็ปล่อยให้สุดแล้วหยุดที่โลกแตกดีไหม?
ความจริงแล้วลำพังเพียงเราแต่ละคนหายใจ ไม่ทำให้โลกแตกหรอก แต่พลังจากมวลมหาประชาชนที่ร่วมกันปลดปล่อยนั่นแหละที่ทำให้โอโซนห่อหุ้มโลกใบนี้มีรูโหว่ (เบ้อเร่อ) และทำให้ “เทอร์โมมิเตอร์” ของโลกพุ่งขึ้นจนเรียกว่าฮอตปรอทแตก

ใน 1 วันของการใช้ชีวิต มวลมิตรปล่อยก๊าซไปเท่าไหร่บ้าง?
เดินทางไปทำงาน : ขับรถไปทำงานทั้งวัน? หรือจะเรียกว่า “ปล่อยไอเสียกันเป็นทีม” โดยการขับรถส่วนตัว? 2-5 กิโลกรัม CO₂
การกินล่ะ : มื้ออาหาร ข้าวขาหมู? กลางวัน สเต็กเนื้อ? ดูเหมือนจะกินเล็กน้อยแต่ปล่อยไปมาก 0.9-1.5 กิโลกรัม CO₂ ต่อมื้อ
การใช้ไฟฟ้า : อากาศร้อนเราก็เปิดแอร์ ปล่อย 0.5-1.5 กิโลกรัม CO₂ ต่อชั่วโมง ไหนจะนั่งเล่นเกมทั้งวัน นอนดูซีรีส์อีกนิดหน่อย…ทำไมจะไม่ปล่อยเยอะ?
ข้อมูลจากคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Intergovernmental Panel on Climate Change-IPCC) ระบุว่า การปล่อยก๊าซ CO₂ ทั่วโลกในปี 2021 มีปริมาณมากกว่า 50,000 ล้านตัน CO₂ ซึ่งเป็นผลมาจากกิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์ เช่น การเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล (ถ่านหิน น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ) การผลิตไฟฟ้า การขนส่ง (รถยนต์ เครื่องบิน เรือ) อุตสาหกรรม (การผลิตเหล็กและซีเมนต์) การเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดิน การทำลายป่า การเกษตร และการขยายพื้นที่เมืองทำให้ต้นไม้ที่ดูดซับคาร์บอนถูกทำลาย
ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้เราเห็นถึงขนาดของปัญหาและความสำคัญของการดำเนินการเพื่อลดการปล่อย CO₂และก๊าซเรือนกระจกอื่นๆ เพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมและลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ...แล้วใช่ไหม?
HOW (ทำอย่างไรล่ะทีนี้?)
- Support โลกใบนี้หน่อย ได้ไหมคะ?
- Support โลกใบนี้หน่อย ได้ไหมคะ?
- Support โลกใบนี้หน่อย ได้ไหมคะ?
โชว์ความแมนให้โลกเห็นด้วยการเป็น Net Zero Man คำนวณ Carbon Footprint เปิดเรื่องจริงเพื่อกู้โลก
ถ้าไม่อยากเห็นโลกร้อนเป็นเตาอบ…ก็ต้องทำอะไรสักอย่าง! ลองเป็น Net Zero Man ดูซิ ไม่จำเป็นต้องเป็นฮีโร่ใส่ชุดเหล็กไททาเนียม หรือมีเสื้อคลุม (เอาจริงๆ เสื้อคลุมก็ร้อนนะ!) แต่เราแค่เริ่มต้นจากพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ ที่ช่วยลด Carbon Footprint ด้วยวิธีง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น
ปรับพฤติกรรมการเดินทาง เลือกเดินทางด้วยจักรยาน หรือถ้าใจไหวเดินไปก็ได้ (ถ้าใกล้ๆ นะ) เลือกใช้ขนส่งสาธารณะแทนรถส่วนตัว หรือจะใช้วิธีกู้โลก ย่างหนอ...แลนหนอ (ขอให้ 2 ขาได้อ้าบ้าง) เพื่อเดินไปไหนมาไหนและนับเป็นการออกกำลังกายไปในตัว มีงานวิจัยบอกเดินวันละ 3,967 ก้าว ก็ช่วยเราช่วยโลกได้แล้ว
เลือกอาหารที่ปล่อยคาร์บอนน้อยกว่า ลอง เป็นสัตว์กินพืช (และ 'ตัวกินไก่') เลือกกินพืชผักแทนเนื้อสัตว์ช่วยลดการปล่อยคาร์บอน แต่ถ้าใครอยากกินเนื้อ ก็พยายามเลี่ยงการกินเนื้อที่ต้องใช้การขนส่งมากเกินไป…สเต๊กชิ้นเล็กๆ ก็ยังมีผลกับโลกนะ งั้นนานๆ กินทีก็พอ อ่อ...แล้วอย่าลืม กินคลีน! (อาหารสุขภาพ? ป่าว...ซัดให้เรียบ) เพื่อไม่สร้างก๊าซมีเทนด้วยนะ
ใช้พลังงานอย่างประหยัด ปิดไฟเวลาไม่ได้ใช้ เปิดแอร์แค่พอเหมาะ ไม่ต้องทำให้บ้านเป็น “อุณหภูมิอาร์กติก” เลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีมาตรฐานประหยัดพลังงาน ก็ช่วยลดคาร์บอนที่เราปล่อยออกไปได้เยอะ และยังมีอีกสารพัดวิธีให้เลือกทำ (ดูได้จากในรูป)

สุดท้ายคืออยากชวนทุกคนมาคำนวณการปล่อย Carbon Footprint รายบุคคล โดยใช้เครื่องมือออนไลน์ ลองค้นหาคำว่า Net Zero Man, Greener Bangkok, Carbon Footprint Calculator, Carbon Noteหรือ My Carbon Footprint แล้วบันทึกกิจกรรมเพื่อรู้ว่าแต่ละอย่างที่เราทำปล่อย CO₂ ไปเท่าไหร่ จากนั้นก็ทำตามคำแนะนำเพื่อพยายามลดการปล่อย! (บอกเลยว่าใครมีตัวช่วยเหล่านี้ เหมือนมีเจ้านายที่สั่งให้เรา “ทำดี” อย่างต่อเนื่อง)
ลองมาทำสนุกๆ กันไหม
เราลองบันทึกข้อมูลกิจกรรมที่ตัวเองจริงๆ ทำลงในเกม คำนวณ Carbon Footprint ใน Greener Bangkok


และผลที่ออกมาคือ เราปล่อยคาร์บอนเกินกว่าค่าเฉลี่ยนคนไทยไป 4.06 ตันต่อปี
ในฐานะสายเที่ยว ต้องเลี้ยวกลับมาเที่ยวใกล้บ้าน บินให้น้อย เดินทางด้วยพลังงานสะอาดให้มากขึ้น
ลองทำดูซิ! แค่รู้สิ่งเหล่านี้ Net Zero Man ก็จะไม่เป็นแค่ตัวการ์ตูนในหนังอีกต่อไป… แต่เราจะกลายเป็นฮีโร่ที่จริงจังในการช่วยโลกให้รอดจากภาวะโลกเดือดไปด้วยกัน